Last Updated on 06/25/2024 by admin
รีวิว MSI Cyborg 15 (2024) ราคาเริ่ม 33,990 บาท
สเปก i5, i7 Gen 13H + RTX 4050, 4060 ดีไซน์ล้ำ เล่นเกมลื่น เบา 2 โล
MSI Cyborg 15 ปี 2024 เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ สเปก Intel Core อย่าง i5-13420H / Core i7-13620H โดยมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่เป็น NVIDIA GeForce RTX 4050 (6GB GDDR6) / RTX 4060 (8GB GDDR6) TGP 45W ที่แรงลื่นและเครื่องเบามาก โดดเด่นความความบาง พร้อมดีไซน์ที่ดูล้ำยิ่งกว่า ด้วยแนวทางการออกแบบไซไฟ อย่างที่ MSI ไม่เคยนำเสนอมาก่อน จัดว่าเป็นกลุ่มโน้ตบุ๊คเล่นเกมที่บางเบาราคาคุ้ม ซึ่งมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม (ชั่งจริง) และบางที่ 21.95~22.9 มิลลิเมตร เน้นพกพาสะดวก กว่า Notebook รุ่นก่อนๆ กับการเป็น Gaming Notebook สเปกแรงในราคาไม่แพง
ดยมีการติดตั้งไฟคีย์บอร์ดแบบ RGB 4 Zone โดดเด่น กับความโปร่งแสงในหลายๆ จุด ตามสไตล์ของ MSI 2024 แรมขนาด 16GB DDR5 Bus 5200 MHz (แบบ 8GB x 2) และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ที่ 512GB พร้อมรองรับการทำงานหรือเล่นเกมอย่างไม่มีสะดุด อีกทั้งได้เว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI 2.1, 2 x USB 3.2 Type-A Gen 1, USB 3.2 Type-C Gen 1 ต่อจอแยกได้, LAN RJ-45, HDMI, ช่องหูฟังกับไมค์แบบ Combo รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.2 ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้ดี
หน้าจอขนาด 15.6″ พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920 x 1080px) ที่รองรับ Refresh Rate 144Hz ให้ความลื่นไหลสบายตา ค่าขอบเขตสี sRGB ราว 60% เน้นทำงานทั่วไปไม่ใช่ งานที่เน้นสี sRGB 100% มาพร้อมประสิทธิภาพสูง คุณภาพเยี่ยม เล่นเกมได้ลื่นไหล หรือเอาไปทำงานก็ดี แบตเตอรี่ความจุ 53.5Wh ส่วนอแดปเตอร์มีขนาด 120W มีการติดตั้ง Windows 11 Home และ Office Home & Student 2021 ใช้งานได้ทันที พร้อมซอต์ฟแวร์ MSI Center ช่วยในการปรับแต่ง ได้ประกันเป็นแบบ 2 ปี ตามสไตล์ MSI ที่ไว้ใจได้ ในราคาเริ่ม 33,990 / 35,990 / 38,990 บาท จัดว่ามีความคุ้มค่า
VDO Review
AdminPong Verdict
สรุปจุดเด่นที่ใช้แล้วชอบ
- เป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ สเปกแรง ราคาจัดว่าไม่แพง
- สเปก i5-13420H, i7-13620H + RTX 4050, 4060 ประสิทธิภาพดี
- แรงลื่นเพียงพอกับการเล่นเกม ทำงานพื้นฐาน ดูหนังฟังเพลงได้ทั้งหมด
- ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของ Cyborg Series ให้ความโดดเด่น
- ไฟคีย์บอร์ด RGB 4 Zone โดดเด่น กับความโปร่งแสงในหลายๆ จุด
- ตัวเครื่องเบาเพียง 2 กิโลกรัม 21.95~22.9 มิลลิเมตร พกพาสะดวก
- ได้แรมขนาด 16GB (up to 64GB) พร้อม SSD ความจุ 512GB มาเลย
- เมื่อใช้งานแบบ Full Load ความร้อนของ CPU + GPU จัดการได้ดี
- เป็น Notebook 15.6″ ที่ติดตั้งพอร์ตการเชื่อมต่อมาครบถ้วน ได้ LAN ด้วย
- ได้ชุดโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2021 ติดมาเลย
ข้อควรรู้ก่อนซื้อ
- หน้าจอไม่ได้ขอบเขตสี sRGB 100% ถ้าใช้งานด้านสีจริงจัง ต้องต่อจอแยก
- การ์ดจอแรงน้อยว่ารุ่นที่เหมือนกัน จากการที่มีค่า TGP เพียง 45W
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานประมาณ 5 ชั่วโมง
Specification
MSI Cyborg 15 A13VEK-875TH ราคา 33,990 บาท
กดสั่งซื้อได้เลยที่ https://s.shopee.co.th/A9vTSTjoN2
- CPU : Intel Core i5-13420H (8C/12T & 1.5 – 3.4GHz + 2.1 – 4.6 GHz)
- GPU : UHD Graphics + GeForce RTX 4050 (6GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR5 Bus 5200MHz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 512GB
- DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD @144Hz, sRGB 60%
- OS : Windows 11 Home
- Software : Office Home & Student 2021
- Warranty : 2 Years (1Y Intel + 1Y Thailand)
MSI Cyborg 15 A13VEK-874TH ราคา 35,990 บาท
กดสั่งซื้อได้เลยที่ https://s.shopee.co.th/2AtBvqU71s
- CPU : Intel Core i7-13620H (10C/16T & 1.8 – 3.6GHz + 2.4 – 4.9 GHz)
- GPU : UHD Graphics + GeForce RTX 4050 (6GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR5 Bus 5200MHz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 512GB
- DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD @144Hz, sRGB 60%
- OS : Windows 11 Home
- Software : Office Home & Student 2021
- Warranty : 2 Years (1Y Intel + 1Y Thailand)
MSI Cyborg 15 A13VFK-873TH ราคา 38,990 บาท
กดสั่งซื้อได้เลยที่ https://s.shopee.co.th/1qGLXL2MUC
- CPU : Intel Core i7-13620H (10C/16T & 1.8 – 3.6GHz + 2.4 – 4.9 GHz)
- GPU : Intel UHD Graphics + GeForce RTX 4060 (6GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR5 Bus 5200MHz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 512GB
- DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD @144Hz, sRGB 60%
- OS : Windows 11 Home
- Software : Office Home & Student 2021
- Warranty : 2 Years (1Y Intel + 1Y Thailand)
Hardware / Design
สำหรับดีไซน์ทั้งหมดให้ล้ำสมกับชื่อ Cyborg ที่เป็นแนว Cyberpunk พร้อมดีไซน์ที่ดูล้ำยิ่งกว่า ด้วยแนวทางการออกแบบไซไฟ แตกต่างจาก Gaming Notebook ซีรีส์อื่นๆ ของทาง MSI เน้นเรื่องความบางเบาในราคาสุดคุ้มค่า รวมไปถึงหลายๆ ชิ้นงานมีความโปร่งแสง อาทิตัวเครื่องหลัก ใต้ตัวเครื่อง โดยเป็นรุ่นรองจาก Stealth แน่นอนว่าจะเอาไปเล่นเกมก็ดุดัน จะเอาไปทำงานก็ลงตัวทีเดียว น้ำหนักชั่งจริง 2 กิโลกรัม บางสุดที่ 21.95~22.9 มิลลิเมตร จัดว่าเป็น Gaming Notebook บางเบา
ที่สำคัญคือให้ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมกว่าด้วยความบางเบาของสเปกเครื่อง ติดตั้งทัชแพดมีขนาดใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับมิติตัวเครื่อง เป็นลักษณะผืนผ้าออกแนวยาวๆ ดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่องตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุพลาสติดสวยงาม ส่วนฝาหลังเป็นอะลูมิเนียม ให้ความทนทาน และพรีเมียมดูดีเกินราคา อีกทั้งยังเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก
ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บาง ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคม ถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บาง ด้านฐานล่างตัวเครื่องดูแล้วเป็นหนึ่งด้วยกับตัวเครื่องกับงานประกอบที่เรียบร้อย พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่แบบ 1 ตัว ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนงานประกอบก็เนียบ เรื่องนี้ไว้ใจทาง MSI เค้าได้เลย สมกับเป็น Notebook ของแบรนด์ ที่ราคาคุ้มค่าแต่งานดีเสมอ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไป ต้องบอกว่าแตกต่างจาก Notebook ทั่วไป กับการตอบสนองได้ดี โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด โดยมีระยะกดที่ 1.7 มิลลิเมตร ที่ไฟแบบ RGB 4 Zone สวยงาม ส่วนปุ่ม Power จะเป็นสถานะการใช้งานการ์ดจอแยก (สีส้ม) หรือออนชิปด้วย (สีขาว) รวมไปถึงมีปุ่ม Hot-key ต่างๆ ที่ปุ่ม Fn แถวบน พร้อมมี Numpad ให้ใช้งาน จากการที่ตัวเครื่องเป็นจอขนาด 15.6″
ทัชแพดมีขนาดใหญ่ ถ้าเทียบกับตัวเครื่อง โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง แต่มีเฉดสีที่ต่างกันเล็กน้อย ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี พร้อมรองรับ Multi Gesture ลื่นไหล ทำงานร่วมกับ Windows 11 Home ได้เป็นอย่างดี
Screen / Speaker
MSI Cyborg 15 มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ ความละเอียด FHD+ (1920 x 1200px) รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลกว่าพร้อมได้เป็นพาเนล IPS คุณภาพสูง โดยให้มุมมองที่กว้าง สีสันก็สดใส เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับกางสุดได้ถึง 180 องศา พร้อมติดตั้งเว็บแคมความละเอียด 720p มีความคมชัดตามมาตรฐาน และไมโครโฟนคู่ไว้ขอบด้านบน
ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของเครื่อง กับการที่เป็น Gaming Notebook ที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS แบบเกรดกลางๆ ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Calibrite Display Plus HL พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์เอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรตก็คือมีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยได้ค่าขอบเขตสี sRGB 63.6% / AdobeRGB 44.1% / P3 45.3%
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพงแบบ 2 ตัว (2W x 2) อยู่ในเกณฑ์คุณภาพดี ติดตั้งไว้ที่ขอบตัวเครื่องด้านหน้า โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุน VR และ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังหรือลำโพงเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก
Connector / Thin And Weight
เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.2 Type-A Gen 1, USB 3.2 Type-C Gen 2 แบบรองรับการต่อจอแยกได้ด้วยมาตรฐาน DisplayPort ทำให้สะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมี HDMI, ช่องหูฟังกับไมค์แบบ Combo ที่สำคัญคือได้ LAN RJ-45 เพื่อการเชื่อมต่อ Network หรืออินเตอร์เน็ตแบบมีสาย อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะดูไม่เยอะเท่าไร อีกทั้งไม่มี Card Reader เลย ส่วนเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6E + Bluetooth 5.3
ส่วนของการพกพาก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 2 กิโลกรัม ที่สำคัญอแดปเตอร์แบบหัวกลม DC ปกติ จ่ายไฟสูงสุดที่ 120 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่ารุ่นก่อนๆ เลยทีเดียว รวมๆ กันแล้วหนักเพียง 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้ MSI Cyborg 15 เป็น Gaming Notebook พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบายๆ เทียบกับความแรงที่ได้ ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานในการเล่นเกม หรือทำงานแบบมืออาชีพได้จริง ด้วยประสิทธิภาพ และพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบายแน่นอน
Inside / Upgrade
การแกะอัปเกรดต้องแกะฝาล่าง ซึ่งการแกะฝาล่างนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงไขน๊อตประมาณ 10 ตัว โดยเมื่อแกะออกมาแล้ว ก็จะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในทั้งหมด ติดตั้งแรมมาแล้วขนาด 16GB DDR5 Bus 5200 MHz เป็น 8GB จำนวน 2 แถว ที่รองรับการใช้งานได้แบบสบายชัวร์ๆ โดยมีกรอบโลหะครอบเอาไว้อยู่ ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 512GB จำนวน 1 ตัว และแบตเตอรี่ 53.3 Wh และลำโพง 2 ตัว พร้อมพัดลมระบายความร้อน 1 ตัวที่ทำงานฮีตไปป์แบบ 3 เส้นขนาดใหญ่
Performance / Software
โดย MSI Cyborg 15 มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพดีปี 2024 เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook รุ่นใหม่ๆ อย่าง Intel Core i7-13620H ที่แม้ว่าจะไม่ใช่รุ่นล่าสุด แต่ยังแรงลื่นอยู่ กับเทคโนโลยีความผลิต 10nm ซึ่งสามารถเอาไปใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง ก็ทำได้ลื่นไหล โดยมีความเร็วในการประมวลผลเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.90 GHz เป็นการทำงานแบบ P-Core และ E-Core แบ่งเป็น 10 Core 16 Thread ค่า TDP 45W
การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel UHD Graphics ตามปกติของ Core i อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4060 (6GB GDDR6) ค่า TGP ตามสเปกคือ 45W ซึ่งแรงเพียงพอกับ Gaming Notebook ที่ปี 2024 ได้ความร้อนที่ควบคุมได้ดี เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ได้ประสิทธิภาพสูง รองรับ DLSS3 + Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น ตามแต่การปรับกราฟิกในเกม
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i7-13620H คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจสม กับเป็นชิปประมวลผลแบบไฮบริดคอร์ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดก็ตาม ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องเป็น SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB มาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 เมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD ทั่วไป ก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 4793 MB/s และเขียนที่ 3498 MB/s สมกับเป็น SSD ที่ติดตั้งบน Gaming Notebook ระดับกลางค่อนสูง ถือว่าน่าพอใจ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 7331 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลยุคใหม่ ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปด้วย ก็พอได้เลย
สำหรับคะแนนในการเล่นเกมจากการทดสอบการ์ดจอแยกด้วยโปรแกรม 3D Mark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 8230 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Quad HD ได้ 75+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ รองรับการเล่นเกม 3 มิติขั้นสูง หรือทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อนได้เทียบเท่าการ์ดจอ PC Desktop ได้เลยล่ะ
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Cyberpunk 2077 / Forza Horizon 5 / GTA V / SCUM ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ด้วยหน้าจอสวยงาม ซึ่งให้ความเรียบเนียน ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 69 – 141 แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหล ทำให้เราได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มอารมณ์
เกมออนไลน์ใช้ทรัพยากรน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 103 – 183 กรณีเราใช้เล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync จะดีกว่า เครื่องก็จะได้ไม่ทำงานเต็มที่ตลอดเวลา สรุปแล้วโดยรวมก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ กับสเปกการ์ดจอ RTX 4060 ก็ลื่นไหลใช้ได้ (พอๆ กับ RTX 4050 รุ่นปกติที่ TGP ระดับ 100W)
MSI Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนๆ คือ ใช้งานสะดวกและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ และสามารถดูสภานะการทำงานได้ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Cyborg 15 มีความจุที่สูง 53.5Whr ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำเหลือ 10% พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวเกือบๆ 5:13 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ จากเครื่องสเปกที่แรงขั้นสุด
ด้านการทดสอบอุณหภูมิสำหรับ Gaming Notebook เครื่องนี้ที่ให้เป็นระบบระบายความร้อนแบบพัดลม 1 ตัวขนาดใหญ่ พร้อมฮีต์ไปป์ 3 เส้นแบบติดกัน เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดีมาก เมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมด Cooler Boots เร่งรอบพัดลมสูงสุดไว้
ชิปประมวลผล i7-13620H ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark และเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 96 องศาเซลเซียสไม่เกินจากนี้ จัดว่าค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแล้ว และการ์ดจอแยกอย่าง RTX 4060 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีเท่าที่ได้ กับร้อนสุดที่ 78.2 องศาเซลเซียส ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว