Last Updated on 12/13/2024 by admin
รูปแบบการชาร์จรถ EV Charger มีกี่ประเภท ?
และมีลักษณะแบบไหน ? แตกต่างยังไง ? จะเลือกใช้งานอย่างไร ?
สำหรับผู้ที่ให้ความสนใจรถยนต์ไฟฟ้า หรือ BEV หรือรถปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) นอกจากข้อมูลผลิตภัณฑ์ตัวรถที่ควรจะศึกษาแล้ว รูปแบบการชาร์จรถไฟฟ้า EV Charger ถือว่าเป็นความรู้พื้นฐานที่สำคัญก่อนที่เราจะมีรถไฟฟ้ามาใช้งานซักคัน (หรือหลายคัน) เพราะจากที่มีหลายรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามความเร็วและประเภทของการชาร์จ ซึ่งมีทั้งความสะดวกและข้อกำจัดที่เราควรต้องรู้
โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. การชาร์จ AC ผ่านอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบพกพา (Portable Charger)
อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบพกพาที่มักมาพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า BEV และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV ที่สามารถใช้งานได้ทันทีโดยการเสียบเข้ากับเต้าเสียบไฟฟ้าทั่วไปที่บ้านหรือสถานที่อื่น ๆ โดยไม่ต้องการการติดตั้งพิเศษ มีความเร็วในการชาร์จ 10A – 16A อุปกรณ์นี้มีประโยชน์หลักๆ ในกรณีฉุกเฉินหรือการเดินทางที่จำเป็นต้องชาร์จไฟฟ้ารถในสถานที่ที่ไม่มีสถานีชาร์จ ความสามารถในการพกพาทำให้ผู้ใช้สามารถชาร์จรถยนต์ได้ทุกที่ที่มีไฟฟ้า ทำให้เพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
- ความเร็วในการชาร์จ: ช้า
- ลักษณะ: ใช้ปลั๊กไฟบ้านทั่วไป
- กำลังในการชาร์จ: จ่ายไฟสูงสุด 3.7 kW
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับการชาร์จเมื่อไม่ต้องการใช้รถเป็นเวลานาน หรือเมื่อจำเป็นต้องชาร์จไฟในสถานที่อื่นๆ
- เวลาในการชาร์จ: ประมาณ 8 – 20 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จเต็ม ขึ้นอยู่ความจุของแบตเตอรี่ตัวรถ
2. การชาร์จ AC ผ่านอุปกรณ์ Wall Box / EV Charger
ถือว่าเป็นการชาร์จแบบปกติที่นิยมใช้งานตามบ้านมากที่สุด อุปกรณ์ Wall Box ที่เป็น EV Charger แบบ AC โดยการชาร์จแบบนี้จะเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ ผ่านอุปกรณ์ตัวแปลง หรือ อุปกรณ์ Inverter เพื่อเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสสลับให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อชาร์จประจุในแบตเตอรี่ มีความเร็วในการชาร์จ 32A โดยทั่วไปการชาร์จแบบนี้เหมาะสำหรับการชาร์จที่ อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน หรืออาจจะมีที่จอดรถสาธารณะที่ให้จอดชาร์จได้เป็นเวลานานๆ
- ความเร็วในการชาร์จ: ปานกลาง
- ลักษณะ: ใช้เครื่องชาร์จที่ติดตั้งเพิ่มเติม
- กำลังในการชาร์จ: 3.7 – 7.4kWh สำหรับ 1 Phase และ 11 – 22 kWh สำหรับ 3 Phase
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือสถานที่ทำงาน และสถานีชาร์จสาธารณะบางสถานที่
- เวลาในการชาร์จ: ประมาณ 4 – 8 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จเต็ม ขึ้นอยู่ความจุของแบตเตอรี่ตัวรถ
3. การชาร์จ DC ผ่านสถานีชาร์จ DC Charger สาธารณะ
เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการชาร์จอย่าง Quick Charge ที่เป็น EV Charger แบบ AC ซึ่งจะเป็นเป็นการชาร์จโดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง โดยระบบนี้สามารถจ่ายไฟได้สูง สามารถชาร์จโดยใช้เวลาสั้นกว่า แต่เนื่องจากเป็นการชาร์จด้วยกำลังไฟที่สูง จึงต้องใช้จุดที่มีกระแสไฟที่สูงเพียงพอ ซึ่งส่วนมากเป็นที่สาธารณะ หรือก็คือ EV Charger หรือ สถานีชาร์จรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า ตามสถานีบริการพลังงาน หรือตามอาคารที่ติดตั้งตู้ประเภทนี้ รวมถึง Tesla Supercharger หรือของแบรนด์อื่นๆ
- ความเร็วในการชาร์จ: เร็วมาก
- ลักษณะ: ใช้เครื่องชาร์จที่มีพลังงานสูง (DC)
- กำลังในการชาร์จ: รองรับการจ่ายไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 360 kWh ขึ้นอยู่กับตู้ชาร์จ หรือช่วงเวลาในการชาร์จ
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชาร์จไฟกลับเร็วที่สุด และการเดินทางระยะไกล
- เวลาในการชาร์จ: ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จถึง 80%
การเลือกประเภทการชาร์จที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของผู้ใช้รถไฟฟ้า / PHEV การชาร์จ AC ที่บ้านด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบพกพา (Portable Charger) หรืออุปกรณ์ Wall Box / EV Charger อาจเพียงพอสำหรับการใช้งานประจำวันขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ในการใช้งาน ซึ่งสำหรับคนที่ใช้งานรถไฟฟ้าเป็นประจำและมีความพร้อมในการติดตั้ง Wall Box / EV Charger ก็ขอแนะนำเป็นตัวเลือกนี้ ในขณะที่การชาร์จสถานีชาร์จ DC Charger สาธารณะ เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือเมื่อจำเป็นต้องชาร์จอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เริ่มจะมีประเภทเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า AC สำหรับพกพา กำลัง 7kW 32A แต่ต้องใช้เป็นปลั๊กอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถให้ช่างสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ด้วย จุดเด่นคือชาร์จได้ไวใกล้เคียง Wall Box / EV Charger แต่เราต้องมีเค้ารับเป็นปลั๊กอุตสาหกรรมนั่นเอง ซึ่งการเข้าใจถึงลักษณะการชาร์จ วิธีการและเวลาในหารชาร์จ เราก็จะสามารถวางแผนในการเดินทางเราได้อย่างลงตัวและไม่เสียเวลาในการเดินทาง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คนที่กำลังสนใจเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการชาร์จรถไฟฟ้าได้มากขึ้น เพื่อให้เราเลือกใช้งานได้ตรงกับการใช้งาน