Last Updated on 01/18/2025 by admin
รวมข้อควรระวังในการใช้ AC Wall Charger
เครื่องชาร์จรถไฟฟ้าหรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
การใช้เครื่องชาร์จติดผนัง AC Wall Charger / EV Charger สำหรับรถไฟฟ้า (BEV) หรือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่บ้านเป็นวิธีที่สะดวกในการชาร์จไฟ แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรปฏิบัติตามเพื่อให้การชาร์จเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ กับผู้ที่ใช้งาน ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำกันครับ หลักๆ แล้วประกอบไปด้วย
1. ติดตั้งโดยช่างไฟฟ้าที่มีใบอนุญาต
– การติดตั้งเครื่องชาร์จควรทำโดยช่างไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตและมีประสบการณ์โดยตรงกับเครื่องชาร์จ เพื่อให้แน่ใจว่าการติดตั้งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางไฟฟ้า
2. ใช้วงจรไฟฟ้าเฉพาะสำหรับเครื่องชาร์จ
– ควรติดตั้งเครื่องชาร์จบนวงจรไฟฟ้าเฉพาะที่แยกออกจากวงจรไฟฟ้าอื่นๆ ในบ้าน เพื่อป้องกันการโอเวอร์โหลดและลดความเสี่ยงของการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
3. ตรวจสอบสายชาร์จและปลั๊กเป็นประจำ
– ควรตรวจสอบสายชาร์จและปลั๊กเป็นประจำ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อหาสัญญาณของการสึกหรอหรือความเสียหาย หากพบว่ามีความเสียหาย ควรหยุดใช้งานและเปลี่ยนใหม่ทันที
4. หลีกเลี่ยงการชาร์จในสภาพอากาศที่เปียกชื้น
– แม้ว่าเครื่องชาร์จ EV จะมีคุณสมบัติกันน้ำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จในสภาพอากาศที่เปียกชื้นหรือมีน้ำขัง เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อต
5. ใช้อุปกรณ์ที่ได้รับการรับรอง
– ควรใช้เครื่องชาร์จและอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองจากห้องปฏิบัติการทดสอบที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
7. ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ารั่ว (RCD)
– การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ารั่ว (Residual Current Device – RCD) จะช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อตและลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้
8. เก็บอุปกรณ์ให้พ้นมือเด็กหรือสัตว์
– ควรเก็บอุปกรณ์ชาร์จ EV ให้พ้นมือเด็กเมื่อไม่ใช้งาน รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงของเรา เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
การปฏิบัติตามข้อควรระวังทั้งนี้นี้จะช่วยให้การชาร์จไฟฟ้าด้วย AC Wall Charger ที่บ้านเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และขอเสริมอีกหน่อยในกรณีที่เราใช้ Emergency Charge (อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบพกพา) ให้หลีกเลี่ยงการใช้สายต่อพ่วง โดยไม่ควรใช้สายต่อพ่วงหรือปลั๊กพ่วงในการชาร์จไฟ เนื่องจากอาจทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไปและเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ แนะนำให้ต่อกับเต้าปลั๊กไฟของบ้านโดยตรงจะดีที่สุด ซึ่งกรณีที่ต้องต่อพ่วงจริงๆ ก็ต้องเป็นปลั๊กพ่วงแบบที่รับกำลังไฟได้สูง จึงจะปลออดภัย
