รีวิว MSI Stealth A16 AI+ บางเบา Gaming พรีเมียม สเปก Ryzen AI 9 HX 370 + RTX 4070 จอ Mini-LED UHD+ @120Hz

Last Updated on 01/28/2025 by admin

รีวิว MSI Stealth A16 AI+ บางเบา Gaming พรีเมียม

สเปก Ryzen AI 9 HX 370 + RTX 4070 จอ Mini-LED UHD+ @120Hz

MSI Stealth A16 AI+ จัดว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2025 รุ่นใหม่ที่เป็น AI PC สายบางเบาแต่ประสิทธิภาพสูงแรงลื่น พร้อมเป็น Copilot+ PC มีฟีเจอร์ AI ได้การใช้งานระดับมืออาชีพ ได้จอ 16″ ยอดนิยม 16:10 กับความเบาเพียง 2.1 กิโลกรัม บางสุด 19.95 ม.ม. สีสัน Core Black ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่ที่ได้ความเบาพกพาสะดวก แต่ก็ยังแรงลื่นแบบ Gaming Notebook ตัวจริง ได้ทั้งสเปกที่ใหม่และดีไซน์เฉียบล้ำ เอาไปทำงานไปเล่นได้ทั้งหมด

MSI Stealth A16 AI+

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมากมายทั้งระบบระบายความร้อน Cooler Boots 5 พัดลม 2 ตัว ฮีท์ไปป์จัดเต็ม พอร์ตครบครันอย่าง USB-C 4.0, LAN 2.5G และอื่นๆ มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 7 + BT5.4 เว็บแคมเลื่อนปิดเปิดได้ เป็น FHD ได้ IR Camera มาให้ใช้งานสแกนใบหน้า และ Fingerprint ในการสแกนนิ้วก็มีมาให้ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ใช้งานได้ทันทีและ ซอฟต์แวร์ Creator Center กับราคาเริ่ม 70,990 บาท น่าใช้งาน

VDO Review

AdminPong Verdict

จุดเด่นที่ใช้แล้วชอบ

  • ชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 9 HX 370 แรงล้ำล่าสุด มี NPU รองรับ AI ยุคใหม่
  • มีการ์ดจอแยก GeForce RTX 4070 ที่แรงทรงพลัง ทั้งทำงานและเล่นเกมลื่นไหล
  • ได้สเปกอื่นๆ จัดเต็ม กับแรมขนาด 32GB และที่เก็บข้อมูล SSD 2TB ใช้ยาวๆ
  • เป็น Gaming Notebook แพลตฟอร์ม Copilot+ PC ได้การใช้งาน AI ต่างๆ
  • จอคุณภาพสูง ขนาดพอดี ที่ความละเอียดสูง ลื่นไหล ขอบเขตสีแบบมืออาชีพ
  • ติดตั้งลำโพง Dynaudio เสียงดี 6 ตัว ได้ประสบการณ์เสียงที่ดีมากในใช้งาน
  • ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม พรีเมียม เบาเพียง 2.1 กิโลกรัม บางสุด 19.95 ม.ม
  • คีย์บอร์ด SteelSeries ใช้งานได้ดีเยี่ยม มีไฟ RGB Per-key ทัชแพดใหญ่ขึ้น
  • บานพับแข็งแรง พร้อมกางหน้าจอได้ 180 องศา เผื่อกรณีแชร์ให้ฝั่งตรงข้าม
  • ระบบระบายความร้อนทำงานแบบ Full Load ได้ต่อเนื่อง ตัวเครื่องเย็นกว่า
  • แบตใช้งานได้ยาวนานกว่า 8:41 ชั่วโมง พร้อมรองรับชาร์จไฟผ่าน USB-C
  • มีระบบสแกนนิ้ว Fingerprint และ IR Camera สแกนใบหน้าในเครื่องเดียว
  • เว็บแคมเป็น FHD มีม่านเปิด-ปิดด้วย พร้อมไมค์ 3 ตัว VDO Call ได้ดีกว่า
  • เป็น Notebook ที่ได้พอร์ตครบอย่าง USB 4.0 x 2 + USB-A + HDMI
  • ได้การเชื่อมไร้สาย Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 เป็นมาตรฐานใหม่ดีที่สุด
  • ซอฟต์แวร์ MSI Center ไว้ปรับการตั้งค่าต่างๆ ใช้งานปรับแต่งก็ง่ายด้วย
  • ตัวเครื่องมีความเข็งแรงทนทานกับการใช้งานมาตรฐาน Military Standard
  • มาพร้อมชุดโปรแกรม Office Home & Student 2021 ใช้งานติดเครื่อง
  • ประกัน 3 ปี ถือว่าให้มากกว่า MSI Notebook รุ่นอื่นๆ (ปีแรกเป็นแบบทั่วโลก)
  • จัดว่าน่าซื้อมาใช้งานมากๆ กับการใช้งานสาย Gaming / Creator ในเครื่องเดียว

ข้อควรรู้ก่อนซื้อ

  • ตัวเครื่องไม่มี Card Reader ถ้าจะใช้ต้องต่อกับ Hub หรือ Card Reader ภายนอกอีกที
  • มี USB-C 4.0 เพียง 1 พอร์ต ที่ถ้ามีเป็น 2 พอร์ตน่าจะเหมาะสมกว่าในการใช้งาน
  • ในการเล่นเกม ปรับมาเป็นความละเอียดในเกมเป็น QHD+ จะได้ความลื่นไหลกว่า

Specification

โดย MSI Stealth A16 AI+ ใช้สเปกใหม่ล่าสุด ทั้งชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series อย่าง รุ่นใหม่ล่าสุด Zen 5 เทคโนโลยีการผลิต 4nm แรงทรงพลัง รองรับงาน AI โดย XDNA 2 มีค่า NPU สูงสุดถึง 50 TOPs อย่าง Ryzen AI 9 365 / Ryzen AI 9 HX 370  นอกจากนี้ยังเป็นชิปตัวแรกที่จะมีวงจรเร่งความเร็ว AI อย่าง neural processing unit (NPU) ที่ฝังมาให้ในตัวโดยเฉพาะด้วย การ์ดจอออนชิปที่ดีที่สุดอย่าง AMD Radeon 880M /  890M ที่แรงลื่นยิ่งกว่า

MSI Stealth A16 AI+ ติดตั้งการ์ดจอแยก Gaming ตัวแรงรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 4060 / 4070 มีค่า TGP 105W เน้นทั้งประสิทธิภาพที่ดี มีฟีเจอร์ในการเล่นเกมที่ช่วยให้ดีขึ้น รวมไปถึงงการทำงาน 3 มิติขั้นสูง ส่วนหน่วยความจำแรมเป็นขนาด 32GB LDDR5x Bus 7500MHz ส่วนที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 x 2 ความจุ 1 – 2TB ตอบสนองงานระดับมืออาชีพที่ซับซ้อน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล พร้อมใช้งานกันยาวๆ ไม่ต้องอัปเกรดแล้ว

สเปกหน้าจอหลากหลายทั้งพาเนล IPS ที่ความละเอียด QHD+ @120Hz หรือ Mini-LED, UHD+ ลื่นไหลที่ 240Hz ได้ขอบเขตสี DCI-P3 100% ทำงานค่าสีระดับมืออาชีพ ที่เน้นความบางเบาหรูหรา ซึ่งต่อยอดมาจาก MSI Stealth รุ่นก่อนๆ ด้วยวัสดุ Magnesium-Aluminum Alloy สีสันตัวเครื่อง Core Black พร้อมด้วยไฟคีย์บอร์ด Per-Key RGB ที่สวยงาม พร้อมลำโพง Dynaudio แบบ 6 ตัว ให้เสียงดี โดยแบตมีความจุใหญ่ที่ 99.9 Whr ใช้งานได้นานทั้งวัน

MSI Stealth A16 AI+ A3HVFG-064TH ราคา 70,990 บาท
กดลิ้งค์สั่งซื้อได้ที่ https://s.shopee.co.th/50HZCojaOo

  • CPU : AMD Ryzen AI 9 365 (10C/20T, Up to 5.0GHz)
  • GPU : Radeon 880M + GeForce RTX 4060 (8GB GDDR6)
  • RAM : 32GB LPDDR5x Bus 7500MHz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
  • DISPLAY: 16″ IPS QHD+, @240Hz, P3 100%
  • OS : Windows 11 Home
  • Software : Office Home and Student 2021
  • Warranty : 3 Years (1Y Intel + 2Y Thailand)

MSI Stealth A16 AI+ A3XVGG-091TH ราคา 94,990 บาท
กดลิ้งค์สั่งซื้อได้ที่ https://s.shopee.co.th/7zxMMAPf5G

  • CPU : AMD Ryzen AI 9 HX 370 (12C/24T, Up to 5.1GHz)
  • GPU : Radeon 890M + GeForce RTX 4070 (8GB GDDR6)
  • RAM : 32GB LPDDR5x Bus 7500MHz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 2TB
  • DISPLAY: 16″ Mini-LED UHD+, @120Hz, P3 100%
  • OS : Windows 11 Home
  • Software : Office Home and Student 2021
  • Warranty : 3 Years (1Y Intel + 2Y Thailand)

รับฟรีแถมของพรีเมียมมากมาย พร้อมเกม Diablo IV

  • GAMING HEADSET H901 มูลค่า 2,090.-
  • GAMING HEADSET MOUSE M99 PRO มูลค่า 1,590.-
  • GAMING MOUSEPAD มูลค่า 1,290.-
  • MSI x AMD Thumb Up Pillow มูลค่า 2,790.-
  • เกม Diablo IV : Vessel of Hatred (เฉพาะสเปก RTX 4070 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2025)

Hardware / Design

สำหรับดีไซน์ MSI Stealth A16 AI+ ให้เรียบหรูดูพรีเมียม กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีสันดำด้านอย่าง Core Black ที่เป็นสีพิเศษ ตลอดทั้งตัวเครื่อง แตกต่างจาก Gaming Notebook ของทาง MSI รุ่นอื่นชัดเจน เน้นเรื่องความพรีเมียมเรียบง่าย สมกับฉายา Stealth แน่นอนว่าจะเอาไปเล่นเกมก็ดุดัน จะเอาไปทำงานก็ลงตัวทีเดียว ใช้วัสดุเป็น Magnesium-Aluminum Alloy  ที่ทั้งสวยงาม ทนทาน และพรีเมียม แตกต่างจากอะลูมินียมในรุ่นอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก ที่ได้ความเบาพกพาสะดวก

ที่สำคัญคือให้ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปชัดเจนสุดๆ ติดตั้งทัชแพดมีขนาดใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับมิติตัวเครื่อง แป้นคีย์บอร์ดมีขนาดกำลังพอดี ใช้งานกดสะดวกพร้อมไฟคีย์บอร์ดปรับสี RGB แบบ Per-key ผ่านทางซอฟต์แวร์ เป็นลักษณะผืนผ้าออกแนวยาวๆ ดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่องตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่

ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บาง ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคม FHD และ IR Camera ถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ ด้านฐานล่างตัวเครื่องดูแล้วเป็นหนึ่งด้วยกับตัวเครื่องกับงานประกอบที่เรียบร้อย พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนงานประกอบก็เนียบ เรื่องนี้ไว้ใจทาง MSI เค้าได้เลย สมกับเป็น Notebook รุ่นระดับบนรุ่นไฮเอนด์ของแบรนด์

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ด MSI Stealth A16 AI+ ต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไป จากการที่ใช้ไฟ RGB แบบ Per-key จาก SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่ไฟ RGB สามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macro Keys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน MSI Centerได้ด้วยเช่นกัน แน่นอนมีแป้น Numpad ด้วย แต่ก็อาจจะแคบหน่อย จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่เล็ก

ทัชแพดมีขนาดใหญ่ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง แต่สัมผัสจะให้ความลื่นไหลมากกว่า ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี  พร้อมรองรับ Multi Gesture ลื่นไหล ทำงานร่วมกับ Windows 11 Home ได้เป็นอย่างดี และ Fingerprint ก็มีการติดตั้งไว้ข้างๆ กันด้วย

Screen / Speaker

MSI Stealth A16 AI+ มีหน้าจอแสดงผลขนาด 16″ ความละเอียด UHD+ (3840 x 2400px) รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลกว่าพร้อมได้เป็นพาเนล Mini-LED คุณภาพสูง โดยให้มุมมองที่กว้าง สีสันก็สดใส เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับกางสุดได้ถึง 180 องศา พร้อมติดตั้งเว็บแคมแบบ 1080p มีชัตเตอร์เลื่อนปิดเปิดได้ และไมโครโฟนขอบด้านบน พร้อม IR Camera

ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอกับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Calibrite Display Plus HL พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์เอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรตก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะเดิมๆ ดีอยู่แล้ว โดยได้ค่าขอบเขตสีที่ไปได้ถึงระดับ sRGB 157% / AdobeRGB 108.8% / P3 111.9 % ซึ่งถือว่าดีมากๆ

ระบบเสียงก็น่าประทับใจมาก ด้วยลำโพงแบบ 6 ตัว (2x 2W Speaker / 4x 2W Woofer) แบรนด์ชั้นนำอย่าง Dynaudio คุณภาพดีที่ทาง MSI ใช้งานมาอย่างยาวนาน โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก

Connector / Thin and Weight

MSI Stealth A16 AI+ เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 16″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 1 ช่อง, USB 3.2 Type-C จำนวน 1 ช่อง รองรับการเชื่อมต่อ DisplayPort และ USB-C 4.0 จำนวน 1 ช่อง แบบ Full Function ซึ่งรองรับการใช้งานที่ครบถ้วนทั้งชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูล, พร้อมด้วย HDMI 2.1 เพื่อเชื่อมต่อหน้าจอภายนอก อย่างไรก็ตามก็เสียดายที่ว่า Card Reader น่าจะเป็น SD Card น่าจะได้ใช้มากกว่าสำหรับคนที่ใช้กล้องหลัก และ USB-C ทีแค่ช่องเดียว

พร้อมด้วยพอร์ต Killer Gb LAN (Up to 2.5G) เชื่อมต่อไร้สายด้วย Intel Killer AX Wi-Fi 6E + Bluetooth 5.3 ที่เรียกได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนอีกหนึ่งรุ่น แต่พอร์ตถ้าให้ดีกว่า กรณีของ Thunderbolt 4 ถ้าได้มาเป็น 2 พอร์ตเลยจะดีมากๆ ส่วนของการพกพาก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 1.88 กิโลกรัม ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 240 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่ารุ่นก่อนๆ เลยทีเดียว รวมๆ กันแล้วหนักเพียง 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบาย

Inside / Upgrade

การแกะอัปเกรดต้องแกะฝาล่าง MSI Stealth A16 AI+ ซึ่งการแกะฝาล่างนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงไขน๊อตประมาณ 10 ตัว โดยเมื่อแกะออกมาแล้ว ก็จะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในทั้งหมด ติดตั้งแรมออนบอร์ด LPDDR5x ขนาด 32GB DDR5 Bus 7500 MHz ที่รองรับการใช้งานได้แบบสบายชัวร์ๆ โดยมีกรอบโลหะครอบเอาไว้อยู่ ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 2TB จำนวน 1 ตัว พร้อมมี Slot อัปได้อีก 1 ตัวทันที และ แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ และลำโพง 6 ตัวคุณภาพสูง ที่ติดตั้งไว้ฝั่งละ 3 ตัว

ในส่วนของระบบระบายความร้อนก็จะเป็น Cooler Boost 5 ซึ่งเน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นกว่าปกติทั่วไป โดยจะมีช่องระบายความร้อนทั้งหมดถึง 4 ช่อง เป็นด้านหลัง 2 ด้านข้างซ้ายและขวาอีก 2 ช่อง พร้อม Heat Pipe แบบใหม่ที่บางพิเศษ จำนวน 5 เส้นที่มีการเชื่อมต่อกัน ส่งผลในการใช้งานแบบ Full Load ทำได้อย่างเสถียรภาพสูง ซึ่งการแกะฝาล่างสามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุดแต่อย่างใด ขอแค่ว่าอย่าแกะจนเกิดความเสียหายก็พอ รวมไปถึงการใส่กลับด้วย

Performance / Software

โดย MSI Stealth A16 AI+ มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง ด้วย AMD Ryzen AI 300 Series “Strix Point” สถาปัตยกรรม Zen 5 เทคโนโลยีการผลิตที่ 4 นาโนเมตร อย่าง Ryzen AI 9 HX 370 ตัวแรงตัวล้ำ มี NPU ในตัว ให้ประสิทธิภาพกว่า 50 TOPS สามารถประมวลผลด้าน AI ได้อย่างรวดเร็ว โดยพัฒนาให้ใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Copilot  โดยมีความเร็วในการประมวลผลอเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.1 GHz เป็นการทำงานแบบเป็น 12 Core 24 Threads แบ่งเป็น 4x Zen 5 , 8x Zen 5c

การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง AMD Radeon 890M ที่นับว่าเป็นออนชิปที่แรงที่สุด อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4070 (8GB GDDR6) ค่า TGP ตามสเปกคือ 105W ซึ่งแรงกำลังดีกับ Gaming Notebook ที่ดีไซน์บางเบา ได้ความร้อนที่ควบคุมได้ดี เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบาและพรีเมียม แต่ได้ประสิทธิภาพสูง รองรับ DLSS 3.5 + Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Ryzen AI 9 HX 370 คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจสม กับเป็นชิปประมวลผลแบบไฮบริดคอร์ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดก็ตาม ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องเป็น SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 2TB มาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 เมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD ทั่วไป ก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 6252MB/s และเขียนที่ 3813 MB/s สมกับเป็น SSD ที่ติดตั้งบน Gaming Notebook ระดับกลางค่อนสูง ถือว่าน่าพอใจ

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 7952 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลยุคใหม่ ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปด้วย ก็ทำได้ลื่นไหล

สำหรับคะแนนในการเล่นเกมจากการทดสอบการ์ดจอแยกด้วยโปรแกรม 3D Mark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 12686 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Quad HD ได้ 120+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ รองรับการเล่นเกม 3 มิติขั้นสูง หรือทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อนได้เทียบเท่าการ์ดจอ PC Desktop ได้เลยล่ะ

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Cyperpunk 2077 / Forza Horizon 5 / GTA V / SCUM ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ด้วยหน้าจอสวยงาม ซึ่งให้ความเรียบเนียน ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 74 – 123fps แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหล ทำให้เราได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มอารมณ์

เกมออนไลน์ใช้ทรัพยากรน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 92 – 126 กรณีเราใช้เล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync จะดีกว่า เครื่องก็จะได้ไม่ทำงานเต็มที่ตลอดเวลา สรุปแล้ว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport กับ Gaming Notebook บางเบา ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ ซึ่งก็ถือว่าลื่นพอกับ Hz หน้าจอแล้ว

MSI Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนๆ คือ ใช้งานสะดวก สามารถช่วยเหลือ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว พร้อมได้ธีมที่เข้ากับตัวเครื่อง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ และสามารถดูสภานะการทำงานได้ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Stealth A16 AI+ มีความจุที่สูง 99.9Whr ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำเหลือ 10% พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขได้ราวๆ 8:41 ชั่วโมง ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ จากเครื่องสเปกที่แรงขั้นสุด

ด้านการทดสอบอุณหภูมิสำหรับ Gaming Notebook เครื่องนี้ที่ให้เป็น Cooler Boost 5 ได้พัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ พร้อม Heat Pipe เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดี มีความสเถียรมาก เมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ  30 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมด Extreme Performance + Cooler Boots เร่งรอบสูงสุดไว้

ชิปประมวลผล Ryzen AI 9 HX 370 ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark และเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 90 องศาเซลเซียสไม่เกินจากนี้ จัดว่าค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแล้ว และการ์ดจอแยกอย่าง RTX 4070 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีเท่าที่ได้ กับร้อนสุดที่ 89.5 องศาเซลเซียส ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว

Facebook
Facebook
YouTube
Instagram