รีวิว MSI Crosshair 16 HX AI สเปก Core Ultra 9 275HX + RTX 5070 จอ QHD+ @240Hz ราคา 64,990 บาท

Last Updated on 07/17/2025 by admin

รีวิว MSI Crosshair 16 HX AI สเปก Core Ultra 9 275HX + RTX 5070
จอ QHD+ @240Hz  ดีไซน์สวยล้ำ ฟีเจอร์แน่น ราคา 64,990 บาท

MSI Crosshair 16 HX AI เป็นอีก Gaming Notebook สเปกใหม่ในปี 2025 ที่น่าสนใจ ได้จอ 16″ สัดส่วน 16″ 16:10 สเปกชิปประมวลผล Intel Core Ultra 200HX อย่าง Core Ultra 7 255HX / Core Ultra 9 275HX ตัวแรงลื่นขั้นกว่า ค่า TDP 55W ได้ความล้ำหน้าสถาปัตยกรรมใหม่ “Arrow Lake-HX” พร้อมเร่งประสิทธิภาพ AI ด้วย NPU ผสานการทำงานการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ NVIDIA GeForce RTX50 สถาปัตยกรรมล่าสุด “Blackwell” อย่าง RTX 5060 (8GB GDDR7) / RTX 5070 (8GB GDDR7) ค่า TGP 115W ที่นอกจากสเปกภายในที่สดใหม่แล้ว ดีไซน์ยังมีความเป็น Gaming ที่ดูทันสมัยด้วย

อีกทั้งมีการทำงานร่วมกับ MSI AI Engine เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ในการทำงาน CPU + GPU ตอบโจทย์สำหรับการเล่นเกม 3 มิติ หรือทำงานประเภท 3 มิติขั้นสูงได้ยอดเยี่ยมกว่าการ์ดจอรุ่นก่อนๆ ทั้งหมด อีกทั้งมี MUX Switch ช่วยให้ FPS ให้การเล่นเกมดีขึ้น 5% – 10% มีหน้าจอความละเอียด Quad HD+ (2560 x 1600px) พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 240Hz ค่าขอบเขตสี DCI-P3 100% แบบมืออาชีพขั้นสุด ระบบระบายความร้อนก็จะเป็นระบบ Cooler Boost 5 แบบ Shared-Pipe Design ทั้งตัวเครื่องโดยรวมและไฟคีย์บอร์ด RGB แบบ 24 โซน ปุ่มกดได้ที่ระยะ 1.7 มิลลิเมตร พร้อมปุ่มทิศทางก็มีขนาดที่ใหญ่

MSI Crosshair 16 HX AI ติดตั้งแรมมาตรฐานใหม่มาให้ขนาด 16GB DDR5 Bus 6400MHz (up to 96GB) และ SSD M.2 NVMe Gen 4 จัดเต็มที่ความจุ 1TB รวมไปถึงได้ Windows 11 Home และซอฟต์แวร์ MSI Center พร้อม ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 2.5 กิโลกรัม มีความบางที่ 21.8 มิลลิเมตร พาได้สะดวก แบตเตอรี่มีความจุที่ 90Wh ใช้งานได้หลายชั่วโมง พอร์ตการเชื่อมต่อครบครันด้วย USB-C, USB-A, HDMI, LAN เว็บแคมเป็น 720P มีชัตเตอร์เลื่อนปิดเปิด ได้ประกัน 2 ปีตามมาตรฐาน ในราคาเริ่มต้น 56,990 บาท ถือว่าเป็น Notebook สเปก Core Ultra 200HX + RTX50 ที่ราคาดีอีกรุ่นในตลาด

VDO Review

AdminPong Verdict

MSI Crosshair 16 HX AI เป็นการต่อยอดมาจาก MSI Crosshair Series รุ่นก่อนๆ ซึ่งมีการปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยฟีเจอร์ Gaming ใหม่ๆ ตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook สเปกจัดเต็มกับความบางเบาที่พกพาได้ง่าย  โดยได้สเปคแรงกว่าเดิมด้วยชิปประมวลผล Intel Core Ultra 9 275HX ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่แรงลื่นสูงสุด ในกลุ่มของ Core Ultra 200HX พร้อมจับคู่กับการ์ดจอใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX 5070 พร้อมด้วยสเปกอื่นๆ อย่างแรมขนาด 16GB DDR5 และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ส่วนหน้าจอมีทั้ง QHD+ @240Hz ที่ให้การทำงานที่ลื่นไหล แต่ยังไงอัปเกรดแรมเป็น 32GB ก็น่าจะดีกว่า

ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ของ Gaming Notebook จากทาง MSI กันเอง ก็มีความสมเหตุสมผล รองรับการอัพเกรดที่หลากหลาย พร้อมมีซอฟต์แวร์ช่วยปรับแต่งที่ดีที่ง่ายใช้งานสะดวก แม้ว่าอาจจะไม่ใช้ Series ที่จัดเต็มเป็น Gaming ตัวท็อปอย่างพวก Vector หรือ Raider แต่เรื่องระบบระบายความร้อนก็หายห่วงแม้จะดูสูงซักหน่อย ส่วนข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ คงเป็นเรื่อง เว็บแคมความละเอียด HD (720p) ติดตั้งมาอยู่ ที่น่าจะเป็นความละเอียด FHD (1080p) ได้แล้ว และยังไม่มีพอร์ต Thunderbolt 4  แต่ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพต่อราคาแล้วก็ถือว่ายังคงน่าสนใจทีเดียว โดยช่วงนี้ใครจะซื้อโน้ตบุ๊คเล่นเกม ลองดูเป็นMSI Crosshair 16 HX AI ได้เลย

สรุปจุดเด่นที่ชอบ

  • ชิปประมวลผลทรงพลังด้วย Intel Core 9 275HX มี NPU พร้อมรองรับการทำงานหนักๆ แบบจริงจัง
  • การ์ดจอแยกรุ่นใหม่ สถาปะตยกรรมใหม่ GeForce RTX 5070 เล่นเกมลื่นไหล ใช้งาน 3 มิติได้ดีกว่า
  • เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook การ์ดจอ RTX 50 ที่ล้ำที่สุด ในงบประมาณ 6x,xxx บาท
  • ได้แรมขนาด 16GB (อัปได้สูงสุด 96GB) พร้อม SSD ความจุ 1TB (อัปเพิ่มได้อีก 1 ตัวทันที)
  • หน้าจอได้ความละเอียด ความลื่นไหล และสีสันที่ดี เล่นเกมสนุกสมจริง ทำงานมืออาชีพได้
  • มาพร้อมคีย์บอร์ดแบบ Gaming ทั้งการกดที่ดี และมีไฟ RGB กว่า 24 Zone ปรับแต่งได้
  • มีระบบระบายความร้อน ทำได้ดีเยี่ยม เครื่องไม่ร้อนเกินไป ทำงานต่อเนื่องได้เสถียรภาพ
  • ดีไซน์ตัวเครื่องมีความพรีเมียม โดดเด่นเหนือกว่ารุ่นทั่วไป สมกับเป็น Crosshair Series
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสุดที่ 8:30 ชั่วโมง ในโหมดประหยัดพลังงาน
  • บานพับแข็งแรง สามารถกางหน้าจอได้ 180 องศา
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง Thunderbolt 4 / USB-A / HDMI / LAN
  • ได้ชุดโปรแกรม Office Home 2024

ข้อควรรู้ก่อนซื้อ

  • เว็บแคมยังเป็นความละเอียด HD (720p) และมีระบบสแกนนิ้วสแกนหน้า
  • แรมติดเครื่องมาขนาก 16GB แนะนำให้อัปเกรดเป็น 24GB หรือ 32GB

Specification

MSI Crosshair 16 HX AI D2XWFKG-027TH ราคา 56,990 บาท
ดูข้อมูลและสั่งซื้อได้ที่ https://s.shopee.co.th/4VQZXKa8bo

  • CPU : Intel Core Ultra 7 255HX (20C/20T, up to 5.2GHz)
  • GPU : Intel Graphics + GeForce RTX 5060 (8GB, TGP 115W)
  • RAM : 16GB DDR5 Bus 6400MHz (8GB x 2)
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
  • DISPLAY: 16″ IPS QHD+ @240Hz, DCI-P3 100%
  • OS : Windows 11 Home
  • Software: Office Home 2024
  • Warranty : 2 Years (1 Year Global+ 1 Year Thailand)

MSI Crosshair 16 HX AI D2XWFKG-026TH ราคา 58,990 บาท
ดูข้อมูลและสั่งซื้อได้ที่ https://s.shopee.co.th/1g6zeN8EtT

  • CPU : Intel Core Ultra 9 275HX (24C/24T, up to 5.4GHz)
  • GPU : Intel Graphics + GeForce RTX 5060 (8GB, TGP 115W)
  • RAM : 16GB DDR5 Bus 6400MHz (8GB x 2)
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
  • DISPLAY: 16″ IPS QHD+ @240Hz, DCI-P3 100%
  • OS : Windows 11 Home
  • Software: Office Home 2024
  • Warranty : 2 Years (1 Year Global+ 1 Year Thailand)

MSI Crosshair 16 HX AI D2XWGKG-022TH ราคา 64,990 บาท
ดูข้อมูลและสั่งซื้อได้ที่ https://s.shopee.co.th/60FyoX4QRC

  • CPU : Intel Core Ultra 9 275HX (24C/24T, up to 5.4GHz)
  • GPU : Intel Graphics + GeForce RTX 5070 (8GB, TGP 115W)
  • RAM : 16GB DDR5 Bus 6400MHz (8GB x 2)
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
  • DISPLAY: 16″ IPS QHD+ @240Hz, DCI-P3 100%
  • OS : Windows 11 Home
  • Software: Office Home 2024
  • Warranty : 2 Years (1 Year Global+ 1 Year Thailand)

Hardware / Design

หน้าตาการออกแบบเอง MSI Crosshair 16 HX AI ต้องบอกว่ามีความโดดเด่นทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน สีสัน Cosmos Gray ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดี โดดเด่นที่สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 16″ ใหญ่กำลังดี แต่ก็ยังได้เรื่องของน้ำหนักที่เบา พกพาสะดวก ใกล้เคียงกับพวกรุ่นหน้าจอ 15.6″ ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมคีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 24 โซน ที่จัดเต็มยิ่งหว่า ตามมาตรฐาน DNA ของ MSI Gaming 2025 ระดับกลางค่อนบน ที่ให้ความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน

ซึ่งมีดีไซน์และแนวทางการออกแบบเหมือนกับ MSI Crosshair รุ่นก่อนหน้านั้น โดยมีการอัปเกรดสเปกชิปประมวลผลและการ์ดจอตัวแรง ซึ่งเป็น Gaming Notebook ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ดูดี รูปทรงกระทัดรัด แต่ใน MSI Crosshair 16 HX จะเน้นคอนเซปที่ได้ความพรีเมียมมากกว่า ได้เส้นสายเหลื่ยมสันที่ลงตัวตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งด้วยน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม และมีความบางที่ 21.8-27.9 มิลลิเมตร ที่ต้องบอกว่ามีน้ำหนักที่มาตรฐาน อยู่ในเกณฑ์ของ Gaming Notebook หน้าจอ 16″ ที่เน้นประสิทธิภาพ จากชุดระบายความร้อนที่จัดเต็มกว่า ไม่เบาเหมือนรุ่นเน้นประหยัด

วัสดุตลอดทั้งตัวเครื่องเป็นพลาสติกคุณภาพดี โดยฝาหลังจะเป็นโลหะที่ให้ความพรีเมียม โลโก้ Dragon Shide แบบมันวาว มีลวดลายที่โดดเด่น สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ พร้อมกันนั้นในส่วนของขอบตัวเครื่องล่สงซ้ายมีการทำลวดลายเป็น Digital ที่ได้ทั้งความสวยงามดุกัน อีกทั้งด้านในที่วางข้อมือก็มีเช่นกัน และการจับถือได้สะดวก ซึ่งขอบด้านหน้าเป็นพลาสติกมีการเว้นพื้นที่เว้าเอาไว้ให้เปิดฝาหน้าจอได้ง่าย ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นพลาสติกรูปแบบเดียวกับกับตัวเครื่องเป็นสีดำด้านที่สวยงาม

Keyboard / Touchpad

ตัวเครื่อง MSI Crosshair 16 HX AI มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 16″ ซึ่งมีการติดตั้งคีย์บอร์ด Full Size โดยมีการติดตั้ง Numpad แป้นตัวเลขด้วย ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี ทั้งฟีลแรงกด การตอบสนองของแป้นพิมพ์ และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมกัน ซึ่งทำได้แม่นยำ มาพร้อมไฟ RGB แบบ 24 โซน บนเทคโนโลยี Silver Lining Print ที่สวยเสริมความสวยงามให้ไฟสี RGB สว่างน่าใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นถึง WASD / ปุ่มทิศทาง / ปุ่ม Power และขอบปุ่ม Spacebar เป็นแบบโปร่งแสงเข้ากับตัวเครื่อง เรียกได้ว่าดีกว่ารุ่นก่อนหน้า

โดยรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Gamers Hotkey อย่างปุ่มเร่งพัดลมให้ทำงานเต็มที่ Cooler Boots และปุ่มเรียกใช้ Crosshair ไว้สำหรับช่วยเล็กเป้าในเกมต่างๆ ที่เป็น FPS ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของปุ่มทิศทาง พร้อมมีปุ่ม Fn + F7 ใช้ปรับโหมดการใช้งานต่างๆ และอีกมากมายในส่วนของแถวบนสุดคีย์บอร์ด ในส่วนของทัชแพดเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาทำให้ดูเป็นเนื้อเดียวกัน มีลวดลายเข้ากับตัวเครื่องโดยรวม โดยปุ่มกดไม่แข็งไม่นิ่มเกินไป ผิวสัมผัสของทัชแพดเป็นแบบด้านๆ การใช้งานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

Screen / Speaker

MSI Crosshair 16 HX AI มีหน้าจอขนาด 16″ ซึ่งขอบจอด้านล่างจะมีโลโก้ MSI แบบใหม่อยู่ 1 จุด มาพร้อมความละเอียด Quad HD+ ที่ 2560 × 1600 พิกเซล พาเนล IPS คุณภาพดี มีมุมมองด้านซ้าย ด้านขวาและด้านบนล่างที่กว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare มาตรฐาน แสงสว่างเพียงกับการใช้งานในบริเวณที่มีแสงจ้า พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ด้วยกว่าลื่นไหลที่มากกว่าหน้าจอ 60Hz ทั่วไป พร้อมติดตั้งเว็บแคม HD และไมโครโฟน 2 ตัว ส่วนบานพับสามารถกางได้ 180 องศา

ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอที่มากับเครื่อง กับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานมืออาชีพ ที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ที่นับว่าเป็นพาเนลที่ดีเยี่ยม ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Calibrite Display Plus HL พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์เอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรตก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลง จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย โดยได้ค่าขอบเขตสีที่ไปได้ถึงระดับ sRGB 146% / AdobeRGB 100.6% / P3 103.4% ซึ่งถือว่าดีมากๆ

ลำโพงของ MSI Crosshair 16 HX AI ยังจัดวางมาในตำแหน่งมาตรฐาน ซึ่งเป็นส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนใต้เครื่องตามมาตรฐน แบบขนาด 2W x 2 คุณภาพดี ไดร์เวอร์ใหญ่ ให้เสียงเบสแน่นลึกยิ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อย พร้อมด้วยการใช้ระบบเสียง Hi-Res Audio และ Nahimic สามารถปรับแต่งได้ เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง อย่างไรก็ตามต่อหูฟังหรือลำโพงแยกยังไงก็ดีกว่า

Connector / Thin And Weight

MSI Crosshair 16 HX AI เป็น Gaming Notebook จอ 16″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ติดตั้งไว้ที่ขอบตัวเครื่องทั้งด้านข้างซ้ายขวา และด้านหลังของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, Thunderbolt 4 จำนวน 1 ช่อง แบบ Full Function สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ DisplayPort 1.4 รวมถึงชาร์จไฟกลับด้วยมาตรฐาน Power Delivery 3.0 พร้อม HDMI 2.1 เพื่อเชื่อมต่อหน้าจอภายนอก รวมไปถึงมี LAN RJ45 แน่นอนว่ามีช่องต่อไฟอแดปเตอร์ พร้อมยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3

มิติของตัวเครื่องโดยรวมเน้นการออกแบบให้มีความบางเบากว่า Gaming Notebook ยุคก่อนๆ โดยยังคงประสิทธิภาพตามแบบฉบับโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมเป็นหลักโดยมีขนาดความมิติต่างๆ ที่เล็กกระชับกว่ารุ่นก่อนๆ โดยมีน้ำหนักที่ 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น มิติโดยรวมที่ 359 x 266.4 x 21.8-27.9 ม.ม. ซึ่งรวมอแดปเตอร์ขนาด 240 Watt แล้วจะหนักประมาณ 3 กิโลกรัม สามารถพกพาได้อย่างสะดวก ซึ่งกระเป๋าเองก็สามรถใช้มาตรฐานกระเป๋าโน๊ตบุ๊คทั่วไปขนาดหน้าจอ 15.6″ / 16″ ได้เลย หนุ่มๆ แบกไปทำงานตามออฟฟิศหรือไปมหาวิทยาลัยก็ทำได้สบาย

Inside / Upgrade

การแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ MSI Crosshair 16 HX AI สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมดประมาณ 10 ตัว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี การแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดของ ก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว ซึ่งการแกะฝาล่างของ MSI Notebook สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุดแต่อย่างใด ขอแค่ว่าอย่าแกะจนเกิดความเสียหายก็พอ รวมไปถึงการใส่กลับด้วย ยังไงก็ตามต้องทำด้วยความระมัดระวัง

เมื่อแกะออกมาแล้วจะเห็นว่าติดตั้งแรมมาแล้วขนาด 16GB DDR5 Bus 5600 MHz เป็น 8GB จำนวน 2 แถว ที่รองรับการใช้งานได้ขนาดสูงสุด 96GB (48GB x 2) ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB จำนวน 1 ตัว พร้อมมี SSD Slot เพิ่มการอัปเกรดได้ทันที 1 ตัว ด้านระบบระบายความร้อนก็จะเป็นระบบ Cooler Boost 5 ซึ่งเน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นกว่าปกติทั่วไป โดยจะมีช่องระบายความร้อนทั้งหมดถึง 4 ช่อง เป็นด้านหลัง 2 ด้านข้างซ้ายขวาอีก 2 ช่อง พร้อม Heat Pipe แบบใหม่ที่มีการเชื่อมต่อกัน

Performance / Software

โดย MSI Crosshair 16 HX AI รุ่นที่รีวิว มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบาอย่างชิปประมวลผล Intel Core Ultra 200HX อย่าง Core Utra 9 275HX ที่ออกแบบมาเพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการงานที่ต้องการการประมวลผลสูงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การตัดต่อวิดีโอ หรือการทำงานกราฟิกส์ โดยมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดถึง 5.4 GHz เป็นการทำงานแบบ P-Core และ E-Core แบ่งเป็น 24 Core 24 Threads โดยมีค่า TDP 55W สมกับเป็นรุ่นท็อป

การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Graphics ตามปกติของ Core i ไว้ใช้งานทั่วไป อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 5070 (8GB GDDR6) ค่า TGP ตามสเปกคือ 115W ซึ่งก็ถือว่าให้กำลังไฟกว่าหลายๆ รุ่น ใน Gaming Notebook และยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ได้ประสิทธิภาพสูง รองรับ DLSS + Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับชิปประมวลผลมันได้ความแรงมากๆ

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core Utra 9 275HX คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก สมกับเป็นชิปประมวลผลแบบไฮบริดคอร์ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดก็ตาม ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เพื่อการใช้งานที่ต่างกัน เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ เช่นการต่อต่อวีดีโอโปรเซสไฟล์ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องเป็น SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB มาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 เมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD ทั่วไป ก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 6824 MB/s และเขียนที่ 5833 MB/s  สมกับเป็น SSD ที่ติดตั้งบน Gaming Notebook ระดับกลางค่อนสูง ถือว่าน่าพอใจ เหลือเฟือแล้วในการใช้งาน พร้อมอัปเกรด SSD M.2 Gen 5 อีกตัวด้วย

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 8257 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลยุคใหม่ ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปด้วย ก็สามารถทำได้เลย อย่างที่รุ่นอื่นๆ ทำไม่ได้

สำหรับคะแนนในการเล่นเกมจากการทดสอบเน้นการทำงานผ่านทางการ์ดจอแยก RTX 5070 ด้วยโปรแกรม 3D Mark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 13952 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Qud HD ได้ 105+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ รองรับการเล่นเกม 3 มิติขั้นสูง หรือทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อนได้เทียบเท่าการ์ดจอ PC Desktop ได้เลยล่ะ

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Delta Force / Cyberpunk 2077 / Forza Horizon 5 / GTA V / SCUM ที่เรียกได้ว่ามีความหลากหลาย ซึ่งสามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ด้วยหน้าจอสวยงาม ซึ่งให้ความเรียบเนียน ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 91 – 175 แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหล ทำให้เราได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มอารมณ์

เกมออนไลน์ใช้ทรัพยากรน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด ที่ 115 – 184 กรณีเราใช้เล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync รวมไปถึงบางเกมก็สามารถปรับความละเอียดเป็น 1920 x 1200 ก็ได้ เครื่องก็จะได้ไม่ทำงานเต็มที่ตลอดเวลา สรุปแล้ว MSI Crosshair 16 HX ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ กับสเปกชิปประมวลผล Core Utra 9 275HX การ์ดจอ RTX 5070

MSI Center เป็นโปรแกรมที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อน คือ ใช้งานสะดวกและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัพเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ และสามารถดูสภานะการทำงานได้ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย ที่สำคัญคือการปรับโหมดการใช้งานต่างๆ 

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Crosshair 16 HX AI มีความจุที่สูง 90Whr ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำเหลือ 10% พร้อมเลือกโหมดประหยัดพลังงานของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ  8:30 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้มากกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ จากเครื่องสเปกที่แรงขั้นสุด แต่แบตใช้งานได้นานขนาดนี้ ถือว่าดีทีเดียว

ด้านการทดสอบอุณหภูมิสำหรับ MSI Crosshair 16 HX AI เครื่องนี้ที่ให้ฮีทไปป์มาทั้งหมด 5 เส้น Cooler Boost 5 ได้พัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่อง เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดีมากเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ  40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งไม่ได้เปิดโหมด Cool Boots เร่งรอบพัดลมสูงสุดเอาไว้ คาดว่าถ้าเปิดน่าจะเย็นกว่านี้

ชิปประมวลผล Core Utra 9 275HX ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark และเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 103 องศาเซลเซียสไม่เกินจากนี้ จัดว่าค่อนข้างสูงตามมาตรฐานของรุ่นนี้ แต่ก็เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแล้ว และการ์ดจอแยกอย่าง RTX 5070 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีมาก ร้อนสุดที่ 83.4 องศาเซลเซียส ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว กับ Gaming Notebook รุ่นนี้

Facebook
Facebook
YouTube
Instagram