ลือ MacBook Air 15.5″ อาจมาเร็วสุดก่อนเมษายนนี้ ใช้ชิป M2 / M2 Pro ได้ดีไซน์การออกแบบ และฟีเจอร์คล้ายรุ่น 13.6″ แต่จอละเอียดกว่าแบตใหญ่กว่า

Last Updated on 02/17/2023 by admin

ทยอยมาเรื่อยๆ สำหรับข้อมูลลือข่าวหลุด สำหรับการมาของ MacBook Air จอใหญ่ไซส์ 15.5″ ว่า MacBook Air รุ่นใหม่ที่จะมาเติมเต็ม Line Up ของ MacBook จาก Apple โดยเราจะได้เห็นกันเร็วที่สุดคือช่วงก่อนเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ กับงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์จากทาง Apple คาดว่าประมาณปลายๆ เดือนมีนาคม โดยจะเป็นการทำตลาดตีคู่ไปกับรุ่นหน้าจอ 13.6″ โดยใช้ชิป Apple M2 ที่เหมือนกัน ทำให้คนที่ต้องการ MacBook จอใหญ่ แต่ดีไซน์บางเบานั้นมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น (ที่ผ่านมาต้องไป Pro 16 เลย)
MacBook Air
ไม่ต่างไปจาก Notebook แบรนด์ต่างๆ ที่เป็น Windows มีให้ขนาดหน้าจอเลือก ซึ่งดีไซน์หลักๆ ของ MacBook Air 15.5″ นี้ เป็นการต่อยอดแน่ๆ กับรูปทรงและการออกแบบที่เหมือนกัน แต่จะขยายใหญ่ขึ้นในทุกๆ มิติ วัสดุเป็นอลูมิเนียมกระบวนการ CNC และอาจจะมีหลายสีสันให้เลือก พร้อมคีย์บอร์ด TrackPad Touch ID ที่เหมือนๆ กัน แต่ก็จะมีส่วนต่างจากรุ่นจอ 13.6″ ในบางส่วนก็คือ ความละเอียดของหน้าจอต้องมากกว่า และแบตเตอรี่เองก็จะมีความจุที่มากกว่า รวมถึงอาจจะมีชิป M2 Pro ให้เลือก
.
โดยความบางอาจจะเท่าๆ กัน แต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ประมาณ 1.8 กิโลกกรัม ได้หน้าจอเป็นมาตรฐาน Liquid Retina Display ที่มีความหนาแน่นต่อตารางนิ้วที่เหมาะสม ด้วย Pixels Per Inch (PPI) พร้อมมีติ่งเหมือนรุ่น MacBook ยุคใหม่ทุกรุ่น ซึ่งเว้นไว่ใส่เว็บแคมและเซ็นเซอร์ต่างๆ ส่วนการเชื่อมต่อเป็น Thunderbolt 3 / USB 4 จำนวน 2 พอร์ต พร้อมด้วย MagSafe 3 เหมือน MacBook ทุกรุ่น ทำให้รองรับการใช้งานที่ดีตามสไตล์ของ Apple แต่ก็ยังเป็นรองในส่วนของ MacBook Pro อยู่มาก
.
สำหรับ MacBook Air รุ่นจอ 13.6″ ปี 2022 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทีเดียว แม้จะมีราคาค่าตัวที่สูงขึ้น อย่างรุ่น Base Model ราคาจะอยู่ 43,900 บาท (เทียบกับ Air M1 ราคาสูงขึ้นเป็นหมื่นบาท) โดยเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาขนาดกระทัดรัด ที่เหมาะสมกับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่สุดๆ ดีไซน์มาในแนวเดียวกับ MacBook Pro 14 / Pro 16 แต่เล็กกว่าในทุกๆ มิติ โดยมีน้ำหนักที่ 1.24 กิโลกรัม รวมไปถึงความบางของตัวเครื่องก็บางเพียง 11.3 มิลลิเมตร พร้อมด้วยการทำงานแบบไร้พัดลมเพราะเน้นความบาง
MacBook Air
วัสดุทั้งหมดทำมาจากการขึ้นรูปอลูมิเนียมกระบวนการ CNC มาเป็นอย่างดี แข็งแรง พรีเมียม งานประกอบเนี๊ยบ ตามสไตล์ของ MacBook ที่เน้นความบางแบบสุดๆ โดยมีสีทอง Starlight, เงิน Silver , เทา Space Gray และสีน้ำเงิน Midnight ที่สวยงาม โดดเด่นด้วย Liquid Retina Display ที่ 2560 x 1664 พิกเซล QHD+ (224 PPI) กับสัดส่วน 16:10 เหมือนกับ MacBook รุ่นอื่นๆ ได้ความสว่างสูงสุด 500nits มีฟีเจอร์ True Tone ปรับอุณหภูมิสี เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดี แต่ Refresh Rate ยังเป็น 60Hz
.
ลำโพงก็เสียงดีขึ้น ติดตั้งแบบ 4 ตัว ระบบ Dolby Atmos (เสียงดีสุดในหมู่ Notebook จอ 13 – 14″) ประสบการณ์ด้านภาพและเสียงที่ประทับใจ ทั้งในการใช้งานพื้นฐานทั่วไป หรือการทำงาน Creator แบบมืออาชีพก็ตอบโจทย์ ด้านชิปประมวลผล MacBook Air รุ่นจอ 13.6″ เป็น Apple M2 มีทรานซิสเตอร์ 2 หมื่นล้านตัว (มากกว่า M1 ถึง 25%) ต่อยอดมาจาก M1 เมื่อ 2 ปีก่อน โดยทำงาน 8 core พร้อมคอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 Core และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 10 Core ก็เหลือเฟือกับการใช้งาน
.
ส่วน GPU ทำงานกราฟิกแบบ 8core / 10 core ที่เราเลือกรุ่นได้เอง รวมไปถึงมี Neural Engine แบบ 16-core เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นที่เคยมีมาแต่ร้อนน้อยสุดๆ จึงทำงานได้โดยที่พัดลมไม่จำเป็นต้องมีเลย ส่งผลให้ทำงานได้เงียบสนิทเหมือนเดิม (อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบใช้งานจริงต่างๆ ก็ต้องยอมรับว่า พออุณหภูมิร้อนเกินแล้ว ความแรงจะลดลงไป) ซึ่งนั่นก็เป็นข้อจำกัดสำคัญของ MacBook Air ที่แม้ว่าจะเป็นชิป M2 แต่ถ้าวัสดเรื่องของประสิทธิภาพแล้ว Mac mini M2 มีแนวโน้มว่าแรงกว่าเพราะว่ามีพัดลม
MacBook Air
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB ซึ่งพอเพียงกับการใช้งาน ซึ่งถ้าให้ดีแนะนำให้อัปเป็น 16GB (เลือก CTO ได้เป็น 16GB – 24GB) นอกจากนี้ได้ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD ความเร็วสูงที่ 256 – 512 GB เหลือเฟือกับการทำงานมากๆ แต่สเปก 256GB จะมีความเร็วที่ตกลงไป ทำให้ถ้าเลือกได้เลือกเป็น 512GB ก็จะดีกว่า (CTO ได้สูงสุด 2TB) ติดตั้งกล้อง Webcam ความคมชัดระดับ 1080p (Full HD) และไมโครโฟนแบบ 3 ตัว ช่วยเรื่องการตัดเสียงรบกวน ช่วยเรื่อง VDO Call อย่างการประชุมหรือเรียนออนไลน์
.
แบตเตอรี่ตามที่ Apple เคลมไว้คือสามารถใช้งานได้นาน 15 – 18 ชั่วโมง พร้อมฟีเจอร์ชาร์จไฟกลับไว้ ใช้เวลา 30 นาที จาก 0% ไป 50% (ด้วยอแดปเตอร์ 67W ที่ต้องเพิ่มเงิน เดิมๆ คือ 30W) ซึ่งจากการที่แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Notebook ทั่วไปนี้ ก็เป็นผลมาจากชิปประมวลผล Apple เป็นสถาปัตยกรรมเดียวกับ iPhone, iPad นั่นเอง มีปุ่มเปิดเครื่องเป็น Touch ID ใช้งานการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานต่างๆ การเชื่อมไร้สายอย่าง Wi-Fi 6AX , Bluetooth 5.0 ได้ macOS รุ่นล่าสุด
.
นี่เป็นข้อมูลทั้งหมดเท่าที่มีและคาดการณ์ได้ตอนนี้ของ MacBook Air M2 จอ 15.5″ ที่จะมีการเปิดตัวในปี 2023 นี้ รวมถึง MacBook Air M2 จอ 13.6″ ที่มีขายอยู่แล้วในตอนนี้ ไว้ยังไงแอดมินโป้งจะมารายงานกันอีกที เพราะถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์พกพาและผลิตภัณฑ์ Apple อีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ (เป็นไปได้ก็จะซื้อมาเพื่อทำการรีวิวเช่นเดิม) นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการมา MacBook 12 ด้วย หลังจากที่หายจากตลาดไปหลายปี กลับมาคราวนี้ก็ใช้ชิป Apple ยุคใหม่ แต่จะเป็น M1 หรือ M2 ต้องตามกันต่อ
.
ที่มา : http://bit.ly/3XGYrI2
.
#MacBookAirM2 #MacBook2023 #MacBookAir15 #Notebook2023 #AdminPong #thaitechbuyerguide
.
ชวนเข้าตี้…แนะนำและช่วยเลือกซื้อ รีวิว Notebook ใหม่ๆ
.
ฝากติดตามด้วยนะครับ
Facebook
Facebook
YouTube
Instagram