Last Updated on 04/05/2023 by admin
MacBook Air จอ 13.4″ OLED กำลังจะมาในอนาคต
สเปกใช้ชิปประมวลผล Apple M3 พร้อมดีไซน์ใหม่ บางเบาลง
ในอนาคตในปี 2025 จะมีการนำเสนอ MacBook Air รุ่นใหม่อีกครั้ง คราวนี้จะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 13.4″ ใช้ชิปประมวลผล Apple M3 พร้อมดีไซน์ดีเปลี่ยนไป โดยในตอนนี้ MacBook Air M2 รุ่นปี 2022 ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี กับ Notebook บางเบาที่สุดของ Apple โดยเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาขนาดหน้า 13.6″ ที่เหมาะสมกับการพกพาสุดๆ โดยดีไซน์ใหม่มาในแนวเดียวกับ MacBook Pro 14 / Pro 16 โดยมีน้ำหนักที่ 1.24 กิโลกรัม รวมไปถึงความบางของตัวเครื่องก็บางเพียง 11.3 มิลลิเมตร วัสดุทั้งหมดทำมาจากการขึ้นรูปอลูมิเนียมกระบวนการ CNC มาเป็นอย่างดี แข็งแรง พรีเมียม งานประกอบเนี๊ยบ
ล่าสุดทางสื่อเมืองนอกได้รายงานข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นมา จากคุณ Ross Young ที่เป็น CEO of Display Supply Chain Consultants (DSCC) ซึ่งเป็นไปได้และน่าเชื่อถือ จากการที่ iPad Pro รุ่นใหม่ จะใช้เป็น OLED แทนที่ Mini LED ที่ใช้ในรุ่นล่าสุดที่ขายอยู่ ทำให้ MacBook Air เจนใหม่ ก็จะใช้หน้าจอที่เป็น OLED นี้ด้วย แน่นนอว่าให้การแสดงผลที่ดีกว่า จากการที่เทคโลยีนี้สามารถทำราคาได้ดีกับ Apple แล้ว พร้อมกับถึงเวลาอัปเกรดใหม่เป็นชิปประมวลผลเป็น Apple M3 อีกทั้งในปี 2025 ยังถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงดีไซน์ภายนอก พร้อมปรับหน้าจอเป็นขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมลงน้อยที่ 13.4″ ทำให้เครื่องเล็กลงและเบาลงไปอีก
คาดว่าในส่วนของสีสัน MacBook Air M3 จอ OLED ได้สีสัมาตรฐานอย่าง เงิน Silver , เทา Space Gray และอาจจะมีสีอื่นๆ ที่สวยงาม อาจจะได้สเปกจอเป็น Liquid Retina Display XDR ที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล QHD+ ความสว่างสูงสุด 1000nits มีฟีเจอร์ True Tone กับสัดส่วน 16:10 เหมือนกับ MacBook รุ่นอื่นๆ ที่เคยมีมา พร้อมติ่งก็น่าจะหายไป โดยซ่อนโมดูลกล้องไว้ใต้น้าจอแทน ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริงและมุมมองที่กว้างขว้างมาตรฐาน DCI-P3 100% และลำโพงคงใช้สเปกเดิมด้วยการติดตั้งแบบ 4 ตัว ระบบ Dolby Atmos เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่ให้ประสบการณ์ด้านภาพและเสียงที่ประทับใจ
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB ซึ่งควรจะเป็นมาตรฐานใหม่ได้แล้ว (เลือก CTO ได้เป็น 24 – 32GBGB) นอกจากนี้ได้ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD ความเร็วสูงที่ 256 – 512 GB เหลือเฟือกับการทำงานมากๆ (CTO ได้สูงสุด 2TB) พร้อมติดตั้งกล้อง Webcam ความคมชัดระดับ 1080p (Full HD) และไมโครโฟนแบบ 3 ตัว ช่วยเรื่องการตัดเสียงรบกวน ทำให้ใช้งาน VDO Call ได้อย่างคมชัดลื่นไหล แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 10 กว่าชั่วโมง พร้อมฟีเจอร์ชาร์จไฟกลับไว้ ใช้เวลา 30 นาที จาก 0% ไป 50% มีปุ่มเปิดเครื่องเป็น Touch ID ใช้งานการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งานต่างๆ ตามมาตรฐานของ Apple ใน MacBook ทุกรุ่น
โดยพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ เอง ก็คาดว่าจะเป็นมาตรฐาน Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต ส่วนช่องต่อหูฟังอย่าง Audio Combo Jack 3.5 ตามปกติ พร้อมกันนั้นยังได้พอร์ตชาร์จ MagSafe 3 เหมือนกับใน MacBook Pro รุ่นใหม่แล้วแน่นอนว่ารองรับการเชื่อมไร้สายอย่าง Wi-Fi 6E , Bluetooth 5.3 ได้ระบบปฏิบัติการ macOS รุ่นล่าสุดกับราคาคาดการณ์เริ่มต้นที่ 4x,xxx บาท ประกัน 1 ปีตามสไตล์ Apple ตัวอย่างสเปก น่าจะประมาณนี้ที่ได้ แรม 16GB พร้อม SSD 256GB ซึ่งแน่นนอว่าในส่วนของ MacBook Pro 14 / Pro 16 รุ่นปี 2024 ก่อนหน้า MacBook Air 2025 รุ่นนี้ ก็น่าจะได้เป็นจอ OLED ไปแล้วเช่นกัน