Last Updated on 07/16/2023 by admin
Intel NUC ที่เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ล่าสุดไม่ทำต่อแล้ว
หลังที่ทำมายาวนานตั้งแต่ปี 2012 เปิดทางให้แบรนด์ Partner
สำหรับ Intel ที่เป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ไอทีระดับโลก ที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี กับการเป็นผู้ผลิตชิปประมวลผล CPU รวมไปถึงธุรกิจไอทีอื่นๆ และสำหรับตัวคอมพิวเตอร์เองก็มีการนำเสนอคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่าง NUC (Next Unit of Computing) หรือหลายๆ คนอาจจะเรียกว่า Mini PC ก็ได้ โดยทาง Intel ที่นำเสนอมายาวนานตั้งแต่ช่วงปี 2012 เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กดแค่ฝ่ามือ หรือขนาดใหญ่กว่านั้นก็มี ได้ความแรงฟีเจอร์ได้ครบๆ สเปกหลักๆ ก็เป็น Core i3, i5, i7 พร้อมแรมและ Storage ที่เราอัปเกรดเพิ่มได้
จุดประสงค์ของ NUC หรือ Mini PC เครื่องนี้ อยู่ที่ความสามารถที่พอเหมาะพอดี เพื่อการใช้งานร่วมกับตัวงานหรือในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์สำนักงาน การประชุมออนไลน์ ในการดูหนังฟังเพลง หรือความบันเทิงต่างๆ ในบ้าน และคอมพิวเตอร์แบบฝังตัวสำหรับตลาดองค์กร รวมไปถึงถ้าเป็น NUC Extreme / NUC Canyon ก็จะเล่นเกมหนักๆ ได้ เพราะใส่การ์ดจอแยกเพิ่มได้อีกที อีกทั้งยังเลือกใช้เป็นสเปก Core i9 ด้วย อีกทั้งเอาไปทำงานกราฟิกพื้นฐาน พวกงาน Creator ก็ทำได้ลื่นไหล เช่นการตัดต่อ โปรเซสไฟล์
ซึ่งล่าสุด Intel เปลี่ยนมาให้แบรนด์ Partner ต่างๆ เป็นผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ Intel เองก็จะไม่ผลิต NUC / Mini PC ขายเองแล้ว พร้อมกับเตรียมแผนการสนับสนุนให้กับเหล่า Partner ไปเดินหน้าการผลิตกันต่อ อีกทั้งปัจจุบันทาง Intel มี Partner ทั้งแบรนด์ Dell, Lenovo, MSI และอีกหลายเจ้า ที่ยังมีการพัฒนาและผลิต Mini PC ออกมาในตลาด คาดว่าการที่ Intel หยุดการนำเสนอ NUC ของตัวเองเกิดจากการที่ถึงเวลาสมควร เพราะที่ผ่านมาก็สร้างตลาดของคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ให้คนทุกได้รู้จักกันมาเพียงพอแล้ว
และสำหรับใครคนไหนที่มี NUC ใช้งานอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องตกใจกันไป เพราะว่า Intel ออกมายืนยันแล้วว่า ยังมีการสนับสนุนให้กับสินค้าที่วางจำหน่ายไปแล้วเหมือนเดิม ซึ่งนอกจาก NUC แล้ว ทาง Intel ก็จะค่อยๆ ตัดธุรกิจไม่สำคัญออกไปเรื่อยๆ ด้วย จากตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจ NAND/SSD, ธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย, ธุรกิจชิป Optane เพื่อหันมาโฟกัสกับธุรกิจหลักอย่างชิปประมวลผล และการ์ดจอของตัวเองให้มากขึ้น อย่าง Intel ARC ให้เกิดการแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น สุดท้ายนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภค
ที่มา theverge