Last Updated on 11/27/2023 by admin
รีวิว Intel® Core™ i5 processor 14600KF ชิปไฮบริดคอร์ตัวแรง
ราคาสุดคุ้มของ PC DIY ตอบโจทย์ Creator และ Gamer ได้ลงตัว
จะประกอบ PC DIY ปี 2023 – 2024 ให้สเปกตอบโจทย์การใช้งาน บอกเลยว่าชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Intel® Core™ processors (14th Gen) เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จากการที่ชิปประมวลผล (CPU) เปรียบเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ ล่าสุดกับการมาของ Intel® Core™ i5 / Intel® Core™ i7 / Intel® Core™ i9 ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า เป็นชิปประมวลผลสำหรับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่ทรงพลัง คุ้มค่ากับค่าตัว เพื่อการเล่นเกมและทำงานพร้อมกันที่ดีที่สุด อย่างที่ชิปประมวลผลในยุคนี้ที่ควรจะเป็น กับการมาของเทคโนโลยีไฮบริดคอร์ ที่ช่วยทำงานอย่างแท้จริง
ด้วยจำนวนคอร์สูงถึง 16 Core แบ่งเป็น 6P-Core และ 8E-Core รวมเป็น 20 Thread ร่วมกันทำงานอย่างชาญฉลาด ผ่าน Intel Thread Director ที่ช่วยจัดการงาน กับความเร็ว 5.3GHz ทำให้ Intel® Core™ i5 processor 14600KF สามารถส่งมอบประสบการณ์ชั้นยอดสำหรับการเล่นเกมแบบมือชีพ พร้อมสตรีมแบบมือโปร ด้วยการบันทึกภาพและเสียงได้อย่างลื่นไหล ให้การทำงานโดยรวมนั้นราบรื่นสุดๆ โดยไม่ถูกขัดจังหวะใดๆ เป็นการต่อยอดมาจาก Intel® Core™ รุ่นก่อนๆ ที่เรียกว่าใครจะจัดสเปก PC ในตอนนี้ตอนเลือกเป็น Intel® Core™ processors (14th Gen)
โดย Intel® Core™ processors (14th Gen) มาพร้อมสถาปัตยกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูง (Performance hybrid architecture) รองรับการทำงาน Multi-tasking ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพการทำงานจริงแบบเธรดเดียวที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานจริงแบบหลายเธรดที่ดีขึ้นได้อีก เรียกว่าช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้มากขึ้นเพื่อปลดล็อกการเล่นเกมระดับท็อปกราฟิกแบบ AAA ความละเอียดสูง ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า ที่สำคัญยังให้ประสบการณ์การเร่งความแรงด้วยการ Overclock ที่ใครๆ ก็ทำได้ เพื่อประสิทธิภาพที่มากกว่าการใช้งานเดิมๆ
สำหรับการทำงาน P-Core คือแกนประมวลผลหลัก เน้นประสิทธิภาพ โดย 1 Core จะมี 2 Thread เอาไว้รับงานหนักๆ เช่น การเล่นเกม การตัดต่อ ส่วน E-Core คือแกนประมวลผลรอง ซึ่ง 1 Core จะมี 1 Thread ไว้ทำงานเบาๆ เช่น เปิดเว็บไซต์ งานพื้นฐาน รวมถึงงานเบื้องหลัง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากนั้นเรายังได้เทคโนโลยีใหม่ๆ อีกมากมายที่ติดตั้งมาด้วย อาทิ Intel® Application Optimization (APO) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการแอปพลิเคชัน ควบคู่ไปกับการกำหนดเวลาเธรดในการใช้งาน Intel® Thread Director
จากการใช้งานจริงที่ Gamer หรือคนทำงาน Creator ในยุคปัจจุบันไม่ได้เปิดแค่เกมหรือโปรแกรมเดียวอีกต่อไป แต่เปิดแบบ Multi-tasking คือเปิดโปรแกรมอื่น ๆ ไปพร้อมกัน เช่น การ Export ไฟล์ VDO 4K จากโปรแกรม Premiere Pro และเล่นเเกมไปด้วย รวมถึงการเปิดโปรแกรม OBS ไว้สตรีมเกมที่เราเองก็เล่นไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการที่ Intel® Core™ processors (14th Gen) มี Core การทำงานสองแบบ ทำให้ตอบสนองได้อย่างลื่นไหลไม่สะดุด พร้อมฟีเจอร์ Intel® XTU AI Assist ใหม่สำหรับการโอเวอร์คล็อกที่ได้รับคำแนะนำโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI)
โดยชิปประมวลผล Intel® Core™ i5 processor 14600KF มีอัตราการใช้พลังงานที่ 125 – 181 W ซึ่งถ้าต้องการประสิทธิภาพก็สามารถเร่งได้จาก P-Core + E-Core ทำงานพร้อมกัน แต่ถ้าใช้งานเบาๆ อย่างโปรแกรม Word, Powerpoint หรือดู Youtube, Netlix รวมถึงงานเบื้องหลัง ก็จะใช้งานเพียง E-Core โดยจะประหยัดพลังงาน แน่นอนเป็นการรักษ์โลกอย่างชาญฉลาดไปในตัว เพราะใช้งานพลังงานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แน่นอนว่าค่าไฟที่เราจ่ายก็จะถูกลง ช่วยให้ผู้ที่หลงใหลในการประกอบ PC ได้สัมผัสประสบการณ์ใช้งานโดยรวมที่ดีด้วย
โดยเครื่องที่แอดมินโป้งนำมาทดสอบรีวิว จัดว่าเป็น PC DIY ในฝันเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากชิปประมวลผล Intel® Core™ i5 processor 14600KF พร้อมการ์ดจอ Intel® Arc™ graphics A750 Limited Edition ที่ทรงพลังแล้ว Component ก็นับว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม จากการที่ใช้การ์ดจอ เมนบอร์ด เคสพีซี และชุดน้ำแบบปิด พัดลม RGB ของทาง CORSAIR สายขาว กับราคาค่าตัวรวมๆ แล้วตกอยู่ที่ประมาณ 77,000 บาท สำหรับรายละเอียดแต่ละชิ้น เพื่อนๆ สามารถดูเป็นแนวทางได้ตามนี้เลย ดูไว้แบบแนวทางไปจัดตามนี้
PC DIY Intel x CORSAIR ชุดนี้รวมๆ แล้วประมาณ 77,000 บาท
- CPU : Intel® Core™ i5 processor 14600KF ราคา 12,900 บาท
- GPU : Intel® Arc™ graphics A750 Limited Edition ราคา 9,190 บาท
- MB : ASRock Z790 Steel Legend WIFI ราคา 11,400 บาท
- RAM : CORSAIR VENGEANCE RGB DDR5 ราคา 4,490 บาท
- Storage : CORSAIR MP600 PCIe/NVMe M.2 2280 1TB ราคา 6,590 บาท
- PSU : CORSAIR RM1200x SHIFT ราคา 9,490 บาท
- CPU Cooling : CORSAIR ICUE LINK H150i ราคา 9,990 บาท
- Case Fan : CORSAIR ICUE LINK QX120 x 3 ราคา 5,790 บาท
- Case : CORSAIR 5000X RGB TEMPERED GLASS (WHITE) ราคา 7,290 บาท
*** ราคาอุปกรณ์ต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามร้านค้าปลีกอีกครั้ง ***
ก่อนไปดูผลทดสอบ พาไปดูดีไซน์โดยรวมของของ PC DIY เครื่องนี้กัน
ทดสอบประสิทธิภาพชิปประมวลผล Intel® Core™ i5 processor 14600KF
สำหรับ Intel® Core™ i5 processor 14600KF เป็นชิปประมวลผลเน้นประสิทธิภาพสูง ทำงานแบบ 14C/20T โดยมีความเร็ว Clock ของ E-Core เริ่มต้นอยู่ที่ 2.60 GHz ซึ่งสามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.30 GHz (ยังไม่ Overclock) มีฟีเจอร์เด่นอย่าง Intel Thread Director ที่ช่วยจัดการงานอย่างชาญฉลาด และถ้าเป็นในส่วนของรุ่นที่ไม่อักษร F ต่อท้าย จะมาพร้อมกราฟิกการ์ดออนชิป Intel® UHD Graphics 770 ซึ่งจะมีฟีเจอร์ Intel Quick Sync Video ที่ช่วยประมวลผลงานด้าน Creator ในบางโปรแกรม ซึ่งก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งาน
การ์ดจอแยกเป็นตัวแรงยอดนิยมราคาคุ้มค่าจาก Intel อย่าง Intel® Arc™ graphics A750 Limited Edition มาพร้อมชิปสถาปัตยกรรม Xe High Performance Graphics หรือ Xe HPG ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ดีทั้ง Creator + Gamer ซึ่งติดตั้ง Xe Core ที่ 28 Core และ Ray Tracing อีก 28 Units ที่โดดเด่นยังมีเทคโนโลยี AI Upscale ด้วยอย่าง XeSS พร้อมรองรับ DirectX 12 Ultimate ที่ใช้งานได้ดีไม่เป็นรองรุ่นอื่นๆ ที่ราคาใกล้ๆ กัน ล่าสุดได้ออกไดรเวอร์ 31.0.101.4953 ประจำวันที่ 13 พ.ย. 2023 ซึ่งก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี
ซึ่งในการทดสอบลองเทียบประสิทธิภาพความแรงของชิปประมวลผล Intel® Core™ i5 processor 14600KF ที่เราใช้งานอยู่ เทียบกับฐานข้อมูลของ Intel® Core™ i9 processor 12900K ผ่านโปรแกรม CPU-Z จะเห็นได้ว่าในแง่ของการทำงานแบบ Singer Thread เดียวนั้น มีความแรงเพิ่มขึ้นมาที่ 2% ส่วนถ้าเทียบแบบการทำงาน Multi-Thread ความแรงก็จะเป็นรองประมาณนึง เรียได้กว่า i5 รุ่นนี้นั้น มีความแรงที่เทียบเท่ากับ i9 รุ่นก่อนเลยก็ว่าได้ทีเดียว ส่งผลในการเลือกซื้อมีแนวโน้มว่าเราได้ของที่แรงขึ้นในราคาที่ถูกลงในรุ่นเทียบเคียงกัน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel® Core™ i5 processor 14600KF คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจสม กับเป็นชิปประมวลผลแบบไฮบริดคอร์ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดก็ตาม ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง พร้อม Overclock และการ์ดจอแยกระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 8487 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น PC DIY มีชิปประมวลผลยุคใหม่และการ์ดจอแยกตัวแรง พร้อมฮาร์แวร์ส่วนต่างๆ ที่คุณภาพสูง ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปด้วย ก็ทำได้ลื่นไหล
สำหรับคะแนนและเฟรมเรทในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark ในส่วน Time Spy ได้ผลออกมากับคะแนนรวม 13093 และประมวลผลเกม Battlefield V ปรับสุด 1920 x 1080px ได้ 200+ FPS ซึ่งผลทดสอบนี้แสดงให้เห็นว่าการ์ดจอ Intel® Arc™ graphics A750 Limited Edition นั้นสามารถทำงานเข้าขากับซอฟต์แวร์โดยรวมได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ารองรับการเล่นเกม 3 มิติขั้นสูง อย่างเกมใหม่ๆ หรือทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อนได้สบายๆ กับซอฟต์แวร์ยอดนิยมได้แน่นอน เทียบกับ RTX 3060 ถือว่าน่าสนใจมาก
ทดสอบเกมต่างๆ ทั้งเกมที่กินทรัพยากรหรือเกมออนไลน์ ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียดทั้ง 1920 x 1080px และ 2560 x 1440px โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ซึ่งให้ความเรียบเนียน ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยเป็นที่น่าพอใจ แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหลด้วยฟีเจอร์ XeSS ที่มี AI Upscale มาช่วย อย่างไรก็ตามกรณีที่เราใช้งานเล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync จะดีกว่า พร้อมปรับกราิฟไม่ต้องสุดก็ได้
สำหรับอุณหภูมิดูจากโปรแกรม Hardware Monitor ในส่วนของ CPU จากการทดสอบเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ 30 – 60 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ พร้อมการเล่นเกมไปด้วย เพื่อให้เห็นถึงความเสถียรภาพในการทำงาน ซึ่งประสิทธิภาพโดยรวมยังลื่นไหล ซึ่งชิปประมวลผลร้อนสุด ที่ 80 องศาเซลเซียส และการ์ดจอจะร้อนที่สุดอยู่ที่ 86 องศาเซลเซียสเท่านั้นกับการทำงานแบบ Full Load ซึ่งนับว่ามีความร้อนต่ำมากเมื่อเทียบกับความแรงที่ได้
สรุปรีวิว PC DIY สเปก Intel® Core™ i5 processor 14600KF
สรุปแล้วการที่ Intel® Core™ processors (14th Gen) ด้วยการที่มี Core สองแบบ ซึ่งมีมาตั้งแต่ 12th Gen / 13th Gen จะช่วยให้ทุกอย่างลื่นไหลสุดๆ ชีวิตไม่มีสะดุดให้หัวเสียอีกต่อไป ตอบโจทย์เกมเมอร์หรือคนทำงานในยุคนี้ไม่ได้เปิดแค่เกม หรือโปรแกรมเดียวอีกต่อไป โดยรองรับ Multi-tasking อย่างแท้จริง อีกทั้งมีตัวเลือก Intel® Core™ i7 processor 14700KF หรือ Intel® Core™ i9 processor 14900KF ด้วยนะ เลือกกันได้ตามงบประมาณและรูปแบบการใช้งานได้เลย ส่วนตัวแล้ว Intel® Core™ i5 processor 14600KF ก็กำลังดีนะ
สำหรับการจัดสเปค PC 2023 ที่ใช้ชิป Intel® Core™ processors (14th Gen) ถ้าสำหรับในตอนนี้ ก็ต้องบอกว่าค่อนข้างเลือกได้ง่าย โดยรุ่น unlocked ที่สามารถ Overclock ได้ เน้นความแรงแบบเต็มๆ จะต่างกันที่รุ่น K มีการ์ดจอเป็น Intel® UHD Graphics 770 ในตัว และรุ่น KF ที่ไม่มีการ์ดจอออนชิปในตัว ทำให้สามารถจำแนกได้ง่ายเลย เช่น ถ้าต้องการจัดสเปคคอมไปใช้งานกราฟิก ตัดต่อ เรนเดอร์ การเลือกชิปรุ่นที่ลงท้ายด้วย K จะค่อนข้างเหมาะกว่า แต่ถ้าเน้นการเล่นเกมเป็นหลัก โดยไม่ต้องใช้ออนชิปเลย ก็เลือกเป็น KF ได้เลย
สำหรับการ์ดจอถ้าสายเน้นทำงาน Creator และเล่นเกมในใบเดียว การ์ดจอ Intel® Arc™ graphics A Series จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ไม่ว่าจะเป็น Arc A380 / Arc A750 / Arc A770 แถมยังมีโปรแกรมที่รองรับเยอะอีกด้วย อีกทั้งล่าสุดในส่วนของ Intel® Arc™ graphics Drivers ก็ขับประสิทธิภาพออกมาได้ดีมาก เมื่อเทียบกับราคาก็จัดว่าคุ้มค่าน่าซื้อไปอีก หรือถ้าใครเป็นการนำไปเล่นเกมมากกว่า ที่ต้องการความแรงสุดๆ ลองดูเป็น GeForce RTX 40 จัดเป็นรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ สำหรับคนที่อยากได้เครื่องแรงๆ แต่ราคาเองก็อาจจะสูงหน่อย
และประเภทของแรม ถ้าเน้นประหยัดงบหน่อย จะใช้เป็น DDR4 + เมนบอร์ดที่รองรับ DDR4 และ Intel® Core™ processors (14th Gen) ก็ยังสบาย ๆ อยู่ แล้วค่อยไปอัปเกรดอีกทีในช่วงที่ DDR5 ถูกลงแล้ว แต่ถ้ามีงบ แล้วกะว่าจะใช้งานยาว ๆ ไม่อยากไล่เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ก็ขยับไป DDR5 ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าให้ใช้ความจุอย่างต่ำ 16GB ไว้ก่อน แต่ถ้าอยากใช้งานได้แบบสบายๆ ก็ค่อยอัปเป็น 32GB ภายหลังก็ได้ แน่ในส่วนของ SSD ยังไงก็ขอแนะนำเป็น Gen 4 ที่ความจุ 1TB ขึ้น ส่วนจะเพิ่มเป็น 2TB อันนี้เยี่ยมเลย เพียงพอแน่นอน
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ หรือคนไหนที่กำลังจะจัดสเปก PC DIY รุ่นใหม่ๆ ในปี 2023 – 2024 ที่ต้องการประสิทธิภาพความแรง มีความเสถียรไว้ใจได้ในการทำงานแบบมืออาชีพสาย Creator หรือคนที่เล่นเกมระดับ Pro Player อีกทั้งสเปกชิปประมวลผล Intel® Core™ processors (14th Gen) ทั้ง i5 / i7 / i9 ยังคงสามารถใช้งานร่วมกับชิปเซ็ต Intel® ซีรีส์ 600 และ 700 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถอัปเกรดจาก PC DIY เครื่องเดิมได้อย่างง่ายดาย ใครสนใจก็สามารถไปซื้อกันได้เลยที่ร้านค้า ไอทีชั้นนำทั่วประเทศ หรือลองคลิกช้อปออนไลน์ได้ที่