รีวิว ASUS ExpertBook B3 Flip สเปก i3, i5, i7 ลื่นไหล ครบเครื่อง พับจอได้ 360 สายมืออาชีพ เริ่ม 26,900

Last Updated on 05/24/2022 by admin

ASUS ExpertBook B3 Flip (B3402) สเปก Intel Core i Gen 11 ทั้ง i3, i5, i7 ซึ่งใช้งานได้ลื่นไหล เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน ExpertBook Series ในราคาที่ค้าค่าน่าซื้อ จากที่ผ่านมาทาง ASUS ได้นำเสนอโน๊ตบุ๊คระดับมืออาชีพเน้นใช้งานแบบพกพาไปทำงานนอกสถานที่ มีรุ่นใส่ซิมเพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต 4G ได้ ที่เบาเพียง 1.6 กิโลกรัม ทั้งด้วยสเปคประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมและมีแบตเตอรรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน เน้นการทำงานแบบองค์กรที่ต้องการความน่าเชื่อถือพร้อมความปลอดภัยรอบด้าน อย่างการสแกนนิ้วรวมไปถึง TPM 2.0 และมีการติดตั้งกล้องที่ 2 เพื่อการใช้งานที่เหนือชั้น อีกทั้งตัวเครื่องยังป้องกันแบคทีเรียได้

สำหรับ ASUS ExpertBook B3 Flip (B3402) เป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอ 14″ พับหน้าจอทัชสกรีนได้ 360 องศา มีปากกา ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบทัชสกรีน มีปากกาในตัว ที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ทั้งเบาและแข็งแรงพรีเมียม ทั้งยังผ่านการทดสอบความทนทาน MIL-STD 810H Military Standard มาตรฐานกองทัพ ได้สเปกแรม 4 – 8GB และ SSD M.2 256 – 512GB อีกทั้งพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันทั้ง Wi-Fi 6 AX + Thunderbolt 4 ประกันก็ดีเยี่ยมเพราะเป็นแบบ On-site Service ระยะเวลา 3 ปี (และ Global Warranty 3 ปี) มีประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกด้วย ราคา 26,900 – 35,990 บาท

VDO Review

Conclusion / Verdict

ASUS ExpertBook B3 Flip ถูกออกแบบมาเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับมือาชีพหน้าจอ 13.3″ ซึ่งเป็นประเภท 2-in-1 Notebook ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพพร้อมความบางเบาเพื่อคนทำงานแบบองค์กร ที่สำคัญคือได้ความพิเศษจากกล้องตัวที่ 2 ที่ช่วยบันทึกงาน ในมุมมองที่แตกต่าง อีกทั้งได้ความครบถ้วนในทุกๆ ทาง เน้นความทนทาน ปลอดภัย ไว้ใจได้ มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เหมาะกับการทำงานทั่วไป หรืองานที่ต้องความสถียรขั้นสูง จากรุ่นที่นำมารีวิวใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 อย่าง Core i5-1135G7 การ์ดจออนชิปดีอย่าง Iris Xe Graphics และสเปกอื่นๆ รวมถึงฟีเจอร์จัดเต็ม อาทิ ASUS Antibacterial Guard, ปากกาสไตลัสในตัว และการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดอย่าง Thunderbolt 4

กล้องเว็บแคมจะมีฟีเจอร์ของ Privacy Shield มาให้ รวมไปถึงมี IR Camera และสแกนลายนิ้วอีกด้วย แบตเตอรี่ยาวนานสุดๆ ที่ประมาณ 10 ชั่วโมงขึ้นไปจากการทดสอบจริง สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง ให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมที่ดีกว่า Notebook ในกลุ่มทั่วไป โดดเด่นเหนือชั้นกว่าเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ทั้งจากฮาร์ดแวร์ภายในระดับ BIOS และภายนอก สมราคาค่าตัว 26,900 – 35,900 บาท สำหรับสเปกตัวเริ่มต้นที่เป็น i3 จนไปถึงตัวท็อปสุดอย่าง i7 ซึ่งส่วนตัวแล้ว ถ้าเลือกได้จะแนะนำเป็นรุ่น i5 ที่เราได้รับมารีวิว ด้วยราคา 30,900 บาทที่นับว่าคุ้มค่า เว้นแต่ว่าใครต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบ 4G ด้วย ก็คงต้องจัด i7

แม้ว่า ASUS ExpertBook B3 Flip เน้นเข้ามาบุกตลาดระหว่างองค์กร, ธุรกิจขนาดกลาง หรือคนที่ต้องการความแตกต่าง ชูจุดแข็งเรื่องดีไซน์เครื่องที่ได้ความบางเบา แข็งแรงทนทาน และประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูง หรือถ้าคนทั่วไปอยากได้โน๊ตบุ๊คบางเบามาตรฐานสูงก็สามารถหาซื้อมาใช้งานเช่นเดียวกัน ได้การรับประกัน On-site Serice ซ่อมฟรีถึงบ้าน ระยะ 3 ปี ที่สำคัญเป็นแบบทั่วโลก อีกทั้งมีประกันอุบัติเหตุในปีแรก อย่าง ASUS Premium Care ด้วย เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คทำงานตัวจริง ที่ต่อยอดความสำเร็จของโน๊ตบุ๊คตระกูลสายธุรกิจระดับมืออาชีพได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ในเรื่องบริการหลังการขาย

ตอบโจทย์องค์กรขนาดใหญ่ หรือว่า SME / SMB ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่ถูกกว่าตลาดสำหรับการเป็น Commercial Notebook ให้แตกต่างจาก ZenBook Seires โดยยังมี ExpertBook รุ่นอื่นๆ อีก ในราคาที่ย่อมเยาว์กว่า รวมไปถึงรุ่นที่สูงกว่าอย่าง ExpertBook B5, ExpertBook B7, ExpertBook B9 ส่วนข้อสังเกตที่เราควรรู้ไว้ก็คือ ความเร็วของ SSD M.2 น้อยกว่ารุ่นทั่วไป ถ้าได้สเปกที่เร็วกว่านี้น่าจะดีกว่า ส่วนหน้าจอ IPS เป็นเกรดกลางๆ ขอบเขตไม่ได้ระดับ sRGB 100% อีกทั้งสามารถอัปได้เพียงหน่วยความจำแรมเท่านั้น ถ้าไม่ติดอะไรตรงจุดนี้ก็สามารถไปซื้อหามาใช้งานกันได้เลย

จุดเด่น ASUS ExpertBook B3 Filp

• ตัวเครื่องทั้งหมดใช้วัสดุเป็นโลหะ ทนทานตามมาตรฐาน MIL-STD-810H
• เป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอ 14″ แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็ก พกพาไปใช้งานได้สะดวก
• มีความเบาที่ 1.6 กิโลกรัม ซึ่งนับว่าเบามากๆ และบางเพียง 19.5 มิลลิเมตร
• ดีไซน์พิเศษบานพับ ErgoLift Hinge ช่วยให้ใช้งานดีขึ้น ในหลายๆ ส่วน
• หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD รองรับการทัชกรีนทั้งนิ้วและสไตลัส
• ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
• ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วยสเปกทดสอบ Core i5-1135G7 + RAM 8GB + SSD 512GB
• แรมออนบอร์ดมา 1 แถว และรองรับการอัปเกรดแรมแบบ SO-DIM อีก 1 ตัวทันที
• มาพร้อม Fingerprint ใช้งานผ่านทาง Windows Hello ได้ความสะดวกและปลอดภัย
• ไมโครโฟนมีระบบตัดเสียงรบกวน AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการประชุมวิดีโอ
• ฟีเจอร์ NumberPad 2.0 ช่วยการใช้งานแป้นตัวเลข ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ง่าย
• มี Windows 11 Home ใช้งานทันที มีซอฟต์แวร์ MyASUS / Business Manager ช่วยจัดการ
• ได้โปรแกรมชุด Office Home and Student 2021 มี Word, Excel, Power Point ใช้งานติดเครื่อง
• ระบบคามปลอดภัยระดับองค์กรครบเครื่อง สไตล์ Commercial Notebook
• ฟีเจอร์ ASUS Antibacterial Guard ช่วยลดการเติบโตของแบคทีเรียที่เครื่อง
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 10  ชั่วโมง พร้อมมีฟีเจอร์ชาร์จไฟกลับเร็ว
• มีการติดตั้ง Thunderbolt 4 มาให้ถึง 2 พอร์ต รองรับ Full Function
• ประกันเป็น On-site Service ทั่วโลกระยะเวลา 3 ปี พร้อมประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรก
• ได้อุปกรณ์บันเดิล อาทิ เมาส์ไร้สาย และอแดปเตอร์เป็น USB-C
• ราคาคุ้มค่า ประสิทธิภาพดี ฟีเจอร์เพียบ ใช้งานจริงได้ เมื่อเทียบแบรนด์อื่นๆ

ข้อสังเกต ASUS ExpertBook B3 Flip

• การแกะอัปเกรดทำได้ไม่ยาก แต่สามารถอัปได้เพียงหน่วยความจำแรมเท่านั้น
• เน้นการควบคุมความร้อนของชิปประมวลผล เลือกที่จะลดความเร็วลงมา เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป
• ความเร็วของ SSD M.2 น้อยกว่ารุ่นทั่วไป ถ้าได้สเปกที่เร็วกว่านี้น่าจะดีกว่า
• หน้าจอ IPS เป็นเกรดกลางๆ ขอบเขตไม่ได้ระดับ sRGB 100%

Specification

สเปกของ ASUS ExpertBook B3 Flip แบ่งออกด้วยกัน 3 รุ่น โดยเราได้รุ่นกลางมารีวิว ซึ่งชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-1135G7 ซึ่งด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ที่ความเร็ว 2.40 GHz – 4.20 GHz สถาปัตยกรรม Core i Gen 11 (Tiger Lake) มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 10 nm SuperFin ที่แรงขึ้นมากจาก Gen 10 พร้อมด้วย AI ช่วยทำงานบางอย่างในตัว เพิ่มเติมด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ส่วนการ์ดจอเป็น Intel Iris Xe Graphics ที่เพียงพอกับใช้งานพื้นฐานแน่นอน รวมไปถึงงาน 3 มิติ หรือเล่นเกมออนไลน์ก็ดีกว่ารุ่นก่อนหน้านั้นทั้งหมด แต่ก็ไม่แนะนำให้ซื้อไปเล่นเกมเป็นหลักนะครับ

โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″ จอกระจก รองรับการทัชสกรีนได้ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล OLED ที่ดีที่สุด แรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 3200MHz แบบออนบอร์ด ซึ่งรองรับกับการใช้งานทั่วไปได้ทันที หรือใครจะอัปเกรดเพิ่มอีกเป็น 16GB ก็ได้ พร้อมที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ความจุ 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.2 ด้วย นอกจากนี้ในส่วนของเว็บแคม HD รองรับการใช้งาน VDO Call และกล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 13MP พร้อมไมค์ 2 ตัว (support noise cancellation) อีกทั้งมี Fingerprint ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home

การรับประกันมีระยะ 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน อีกทั้งมีบริการอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้อย่างไม่ยุ่งยาก และมีประกันอุบัติเหตุในปีแรกอย่าง ASUS Premium Care ในส่วนของบันเดิลเองก็มีความพิเศษ แน่นอนว่าต้องมีปากกาสไตลัส ซึ่งเป็นแบบติดตั้งในตัวเครื่อง ชาร์จไฟ 15 วินาที ใช้งานได้ทึคง 45 นาที โดดเด่นด้วยอแดปเตอร์ชาร์จไฟ ที่เป็นมาตรฐาน USB-C แบบ USB PD ปิดท้ายด้วยเมาส์ไร้สายอีก 1 ตัว (แต่แอบเสียดายที่เป็นแบบ USB Receiver)

ASUS ExpertBook B3 Flip B3402FEA-EC0543WS ราคา 26,900 บาท

• CPU : Intel Core i3-1115G4 (2C/4T : 3.0 – 4.1 GHz)
• GPU : Intel UHD Graphics
• RAM : 4GB DDR4 Bus 3200 MHz
• DISPLAY: 14″ Full HD IPS Touch Screen
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 256GB
• OS : Windows 11 Home
• Software : Office Home and Student 2021
• Warranty : 3 Years On-site Service + 1 Year Perfect Warranty

ASUS ExpertBook B3 Flip B3402FEA-EC0544WS ราคา 30,900 บาท

• CPU : Intel Core i5-1135G7 (4C/8T : 2.4 – 4.2 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics
• RAM : 8GB DDR4 Bus 3200 MHz
• DISPLAY: 14″ Full HD IPS Touch Screen
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
• OS : Windows 11 Home
• Software : Office Home and Student 2021
• Warranty : 3 Years On-site Service + 1 Year Perfect Warranty

ASUS ExpertBook B3 Flip B3402FEA-EC0961WS ราคา 35,900 บาท

• CPU : Intel Core i7-1165G7 (4C/8T : 2.8 – 4.7 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics
• RAM : 8GB DDR4 Bus 3200 MHz
• DISPLAY: 14″ Full HD IPS Touch Screen
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
• Connection : 4G LTE support
• OS : Windows 11 Home
• Software : Office Home and Student 2021
• Warranty : 3 Years On-site Service + 1 Year Perfect Warranty

Hardware / Design

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ExpertBook B3 Flip เหนือชั้นด้วยรูปทรงที่ดูเป็นทางการ น่าเชื่อถือ สามารถนำไปใช้งานในรูปแบบองค์กรได้อย่างเหมาะสม พร้อมใช้สีสันสีดำที่ไปในทางโทนน้ำเงินเล็กน้อยอย่าง Star Black พื้นผิวไม่เรียบ ให้ความรู้สึกเป็นหมู่ดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน ส่วนด้านข้างตัวเครื่องจะมีปุ่ม Volume ด้วย ที่จัดเต็มไปด้วยสเปกและฟีเจอร์อย่างที่หาไม่ได้ในโน็ตบุ๊คทั่วไปอย่าง Vivobook, Zenbook พวกฟีเจอร์ความปลอดภัยหลายๆ ด้าน โดยเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11  ที่จะเน้นความแรงลื่น สเปกใหม่สุดๆ ตัวเครื่องดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบปกติทั่วไป หรือแม้แต่ประเภท 2-in-1 Notebook ด้วยกัน เนื่องด้วยมีขอบจอที่บางมากแบบ Nano Edge ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด

ASUS ExpertBook B3 Flip ยังได้เรื่องของการพกพาที่น่าประทับใจ น้ำหนักเบาสุดๆ เพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางเท่ากันที่ 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่ามิติตัวเครื่องมีความกระทัดรัดเหมาะต่อการพกพา ด้วยดีไซน์ของขอบจอที่บาง ด้วยหน้าจอกว่า 80% เป็นพื้นที่แสดงผล รวมถึงมีฟีเจอร์ ASUS BacGuard ซึ่งเป็นสารเคลือบป้องกันการสะสมและเติบโตของแบคทีเรีย โดยได้รับการรับรอง ISO 22196 ที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้เกิน 99% ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังทนทานต่อผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ช่วยให้ทำความสะอาดได้ตามหลักสุขอนามัย ปราศจากการแพร่กระจายของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย

ตัวเครื่องส่วนของตัวเครื่องด้านในและฝาหลังรวมถึงใต้ตัวเครื่อง เลือกใช้วัสดุที่ดีเยี่ยมอย่างอลูมิเนียมอัลลอยด์ ผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยเครื่องจักร CNC ที่ประณีตและสวยงามในหนึ่งเดียว ทำให้มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบาในการใช้งาน ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป ที่สำคัญผิวสัมผัสยังเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ตรงนี้มีความเหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นใกล้เคียงกันแบบรู้สึกได้ทันที อีกทั้งการออกแบบเครื่องโดยรวมเอาคุณสมบัติที่เสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างเป็นพิเศษเพื่อรับมือกับความทนทานของการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยการเสริมด้วยแผ่นโลหะภายในตัวเครื่อง พร้อมกับโลหะตามพอร์ตต่างๆ รอบเครื่อง อย่างที่โน๊ตบุ๊คทั่วไปไม่มีกัน

อีกทั้งเรื่องความทนทานยังมีความโดดเด่นด้วยเกรดมาตรฐานที่ใช้ในกองทัพสหรัฐอเมริกา MIL–STD 810H US Military Standard และผ่านการทดสอบความแข็งแรงตามมาตรฐานของ ASUS เพื่อความมั่นใจเต็มเปี่ยมในทุกสภาพแวดล้อม อาทิ ตกกระแทก สั่นสะเทือน อุณหภูมิสูงต่ำ ฝุ่นและละอองน้ำ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน เรียกได้ว่ามีความเชื่อมั่นที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในตลาดแน่นอน ส่วนของคีย์บอดร์ดเองก็มีกันน้ำหกใส่ในระดับ 330 มิลลิลิตรอีกด้วย ทำให้เชื่อมั่นได้เลยว่า ASUS ExpertBook B3 Flip มีความทนทานแน่นอน แน่นอนว่ากางหน้าจอได้ 360 องศาอยู่แล้ว พร้อมพับไปมาที่ 30,000 ครั้งทีเดียว

ASUS ExpertBook B3 Flip เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่ครบเครื่องในทุกๆ ด้าน จัดเต็มด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ตอบโจทย์คนที่จริงจังด้านการทำงานระดับมืออาชีพ ด้วยความพิเศษอย่างไฟ LED สีส้มที่ฝาหลัง แสดงสถานะว่าห้ามรบกวนเพราะกำลังประชุม VDO Conference อยู่ (เลือกเปิดปิดได้) แลได้กล้องตัวที่ 2 ที่หันหน้าออกจากตัวเครื่อง ความละเอียดสูงขนาด 13 ล้านพิกเซล ติดตั้งบริเวณหนือแป้นพิมพ์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดเมื่อถ่ายภาพและวิดีโอในโหมดแท็บเล็ต หรือโหมดเต็นท์ นับได้ว่าเป็น 2-in-1 Notebook ปี 2022 พร้อมมีปากกาสไตลัสในตัว ตอบสนองการพกพาไปใช้งานทุกที่ทุกเวลาอย่างที่สุด เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เดินทางอยู่ตลอดเวลา กับราคาที่ไม่สูงจนเกินไป

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ด ASUS ExpertBook B3 Flip ให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่กำลังดี ปุ่มคีย์บอร์ดมีระยะห่างกำลังดีที่ 1.5 มิลลิเมตร แป้นคีย์บอร์ดให้สัมผัสปลายนิ้วที่นุ่มนวลพร้อมกับระยะกดที่เหมาะสม มีไฟส่องสว่าง Backlit สีขาว ที่สามารถปิดหรือเปิดได้ ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบนของคีย์บอร์ดพร้อมทำงาน Fingerprint สแกนลายนิ้วมือได้ในตัว อีกทั้งแป้นพิมพ์ที่กันน้ำหกสามารถปกป้องตัวเองจากอุบัติเหตุเล็กน้อย (Spill-resistant Keyboard)​ ตัวทัชแพดมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา

การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจในประสบการณ์ใช้งานที่ดี พร้อมการสัมผัสเลื่อนนิ้วไปมาจะที่ลื่นไหลไม่ติดขัด ใช้งานแบบมัลติทัชตอบสนองได้ดีสมควร รวมไปถึงมีฟีเจอร์ NumberPad 2.0 ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการแตะไอคอนตรงมุมขวาบนของทัชแพดค้างไว้ 1 วินาที เส้นไฟสำหรับแบ่งพื้นที่ของแต่ละปุ่มก็จะปรากฏขึ้นมาให้ใช้งานเป็น Numpad ได้ทันที ซึ่งแม้ว่าจะมีปุ่มขึ้นมาแล้ว ผู้ใช้ก็ยังสามารถใช้ทัชแพดในการเลื่อนเคอร์เซอร์ได้อยู่ แต่หากมีการจิ้มลงบนพื้นที่ของแต่ละปุ่มเพื่อคลิกซ้าย ก็จะเปรียบเสมือนการกดปุ่มตัวเลขด้วย (ลดแสงไฟได้ด้วยโลโก้มุมขวาบน) จัดได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่หาไม่ได้ในโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ

Screen / Speaker

หน้าจอ ASUS ExpertBook B3 Flip เป็นขนาด 14″ เป็นพื้นผิวแบบกระจกที่ต้องระวังเรื่องแสงสะท้อน พร้อมทัชกกรีนไดเ ให้ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ที่สัดส่วน 16:9 ได้พาเนล IPS เกรดกลางๆ ซึ่งให้สีสันที่สดใสประมาณหนึ่ง แต่ที่ให้ภาพคมชัดทุกมุมมอง ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า รวมถึงยังมีหลอดไฟ LED สำหรับแสดงสถานะว่ากล้องทำงานอยู่ ได้ความมั่นใจด้วยฟีเจอร์ Webcam Shield ที่สามารถเลื่อนชัตเตอร์เก็บเข้าที่ อีกทั้งแม้ขอบหน้าจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนแบบ 2 ตัว มีระบบตัดเสียงรบกวน เทคโนโลยี AI Noise-Canceling Audio เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการประชุมแบบวิดีโอ

ทดสอบหน้าจอด้วยเครื่องมืออย่าง SdyderXElite ที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ซึ่งผลการทดสอบให้ขอบเขตความกว้างของสีสัน Gamut เทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 65%, AdobeRGB 49%, DCI-P3 48/% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับที่ดีในเกณฑ์ของโน๊ตบุ๊คทั่วไป ซึ่งไม่ได้เน้นเรื่องความแม่นยำและเที่ยงตรงของสีเท่าไรนัก อีกทั้งได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 nit ซึ่งจัดได้ว่าหน้าจอของ ASUS ExpertBook B3 Flip ไม่ได้ตั้งใจออกแบบมาให้ใช้งานเรื่องของงานประเภท Creator รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพ แต่เน้นการใช้งานพื้นฐาน หรืองานเอกสาร ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องของขอบเขตที่และความสว่างมากนัก

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 250 nit แต่สำหรับช่องหลายช่องจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 2 – 12 % เลยที่เดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ แต่ถ้างานทั่วไปก็ไม่ต้องกังวลอะไร และค่า Delta-E อยู่ที่ 2.39 ซึ่งหมายความว่าคลาดสีค่อนข้างเยอะ ตามที่เราเข้าใจกัน ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว แสดงให้เห็นว่าหน้าจอรุ่นนี้คุณภาพสีสันความสว่างที่ได้เน้นใช้งานพื้นฐานจริงๆ

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกแบบ 2W x 2 ตัวให้เสียงที่รองรับกับงานทั่วไป อาทิ ดูหนังฟังเพลง หรือนำเสนองานต่างๆ ได้คุณภาพทั้งเสียงเบสที่มีความบางตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คที่ตัวเครื่องประมาณนี้ ส่วนเสียงกลางและเสียงแหลมมีออกมาแต่ก็ไม่ได้มีความชัดเจน หรือแยกเสียงได้ดี สำหรับตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดีในระดับหนึ่ง โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีตามมาตรฐานของราคา รวมไปถึงซีรีส์นี้ไม่ได้เน้นเรื่องของลำโพงอยู่แล้ว ซึ่งถ้าใครคาดหวังเรื่องของเสียงที่ดีกว่านี้ แนะนำให้ต่อหูฟังหรือลำโพงแยกไปเลยจะดีที่สุด

Connector / Thin And Weight

ในส่วนของรอบๆ ตัวเครื่อง ASUS ExpertBook B3 Flip ติดตั้งพอร์ตถือว่าให้มาพอตัว ด้วยการติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้จำนวน 2 พอร์ตด้วยสำหรับการรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ และการเชื่อมต่อกับอแดปเตอร์ที่เป็น USB-C โดยสนับสนุนการใช้งานแบบ Full Function ทั้งโอนถ่ายข้อมูลสูงสุด 40Gbps / ต่อหน้าจอแยก DisplayPort ที่ 4K/8K / ชาร์จไฟ Power Delivery รวมไปถึงยังมีพอร์ต USB 2.0 Type-A, USB 3.2 Type-A และ HDMI แน่นอนว่ายังมี ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรก็ยังมีอยู่เช่นเดิม และแม้ตัวเครื่องจะบางเบา ก็ยังได้ติดตั้งพอร์ต LAN RJ45 มาด้วย เพื่อใช้งานเชื่อมต่อแบบมีสาย ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการใช้งานในองค์กรต่างๆ

น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็กจ่ายไฟที่ 65W หัวแบบ USB-C กะทัดรัด ชาร์จอุปกรณ์ได้หลากหลาย มีเทคโนโลยีการชาร์จเร็วสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-60% ได้ภายในเวลาเพียง 39 นาที ผ่านการชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ USB-C ขนาด 65Watt ที่ให้มา หรือจะซื้อของแบรนด์อื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน มาใช้งานร่วมกันก็ได้ แน่นอนว่าชาร์จผ่าน Power Bank ที่เป็นมาตรฐาน PD ได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ 2 กิโลกรัมนิดๆ ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบาอย่างเหมาะสมในการพกพา เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14″ ที่พับหน้าจอไปมาได้ เฉพาะตัวเครื่องจะมีน้ำหนักอยู่เกือบ 2 กิโลกรัมอยู่แล้ว

Multi-Mode

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ASUS ExpertBook B3 Flip ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี พร้อมปากกา ASUS Active Pen ที่รองรับแรงกดถึง 4096 ระดับ (10 – 30 กรัม) ที่มีความแม่นยำสูง ช่วยให้เราเก็บทุกรายละเอียดได้อย่างถูกต้อง ทุกครั้งที่วาดภาพ จดบันทึก หรือทำเครื่องหมายบนเอกสาร ซึ่งเป็นแบบพิเศษกว่า Zenbook ด้วยช่องเก็บปากกาสไตลัสในตัวเครื่อง และด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร

Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ ซึ่งก็ถือว่าทำได้เยี่ยมยอดตามาตรฐานของ Commercial Notebook ในปี 2022

Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอปพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก รวมไปถึงการนำเสนองานต่างๆ ด้วย ซึ่งเมื่อพับหน้าจอแล้ว ชุดคีย์บอร์ดจะปิดการทำงานทันที

Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก พร้อมการใช้งานกล้องตัวที่ 2 ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และสำรวจโลกได้ในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญและพนักงานสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้ทำงานกรณีที่จดบันทึกเป็ยสมุกโน๊ต หรือการนำเสนองาน หรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้

สำหรับ ASUS ExpertBook B3 Flip วางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้สูงสุด 30,000 ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน รวมไปถึง 2-in-1 Notebook รุ่นนี้ยังมีที่เก็บปากกา ASUS Active Pen แบบพิเศษที่เป็นแบบซ่อนพร้อมชาร์จไฟในตัว ด้วยฟีเจอร์การชาร์จที่ 15 วินาที ใช้งานได้นาน 45 นาที ไม่ต้องรอนานอีกต่อไป และไม่ต้องใส่ถ่าน ช่วยทำให้เวลาเราถือใช้งานไปไหนมาไหนตัวปากกาก็จะติดไปด้วย แต่ยังไงก็ต้องเรื่องระวังหลุดหายด้วย

Performance / Software

ASUS ExpertBook B3 Flip เครื่องเราได้นำมารีวิว เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i5-1135G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.40 – 4.20 GHz มีค่า TDP เพียง 12W – 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร พร้อมกับมี AI ช่วยในการประมวลผล กับบางงานให้มีความรวดเร็วและลื่นไหล

ประสิทธิภาพแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB เป็นมาตรฐาน DDR4 3200MHz ตามเทคโนโลยีของ Intel Core i Gen 11 ที่ผ่านการปรับแต่งให้เหนือชั้น ซึ่งรองรับการอัปเกรดอีก 1 แถวด้วย (สูงสุดที่ 48GB) พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home แบบลื่นไหลอย่างที่สุด ในทุกๆ การทำงาน

. 

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่เยี่ยมในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส  ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

. 

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD M.2 ก็ทำผลทดสอบเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับเริ่มต้น แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1692 MB/s และเขียนที่ 1108 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับแล้ว แต่ถ้าได้เป็น SSD M.2 NVMe PCIe ระดับสูงน่าจะดีกว่า

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,375 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ  จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 + Iris Xe Graphics ทำให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายและเปิดโปรแกรมได้มากมายอีกด้วย จากการที่ติดตั้งแรมมาขนาด 8GB โดยถ้าใครคิดว่าต้องการใช้งานเปิดโปรแกรมที่หลากหลาย ก็คงต้องแนะให้อัปเกรดเป็นแรม 16GB

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (โดยเปิดเครื่องมาเจอเลยพร้อมมี Hotkey ให้กดใช้งาน) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัปเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ และที่โดดเด่นก็คือการตรวจสอบสถานะการทำงานโดยรวมของเครื่องได้ด้วย ซึ่งก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ก่อนที่เราจะเรียกบริการ On-site Service

รวมไปถึงโหมดพัดลมและโปรไฟล์สีการแสดงผล รวมไปถึงอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังพิเศษด้วย ฟังก์ชั่น “Link to MyASUS” เป็นฟังก์ชันในซอฟต์แวร์ MyASUS เวอร์ชันล่าสุด โดยสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับ ASUS ExpertBook B3 Flip ได้อย่างไร้รอยต่อ สามารถถ่ายโอนไฟล์ URL การแจ้งเตือน อ่าน รับ และส่งข้อความบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งหมดได้บนโน๊ตบุ๊คได้เลย และการใช้งานมือถือของเรา ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Android ให้กลายเป็นเว็บแคมที่มีความคมชัดสูง พร้อมวางตำแหน่งได้อิสระอีกด้วย

โดดเด่นด้วย Trusted Platform Module 2.0 (TPM 2.0) เพิ่มความปลอดภัยสูงสุดด้วยการเข้ารหัสข้อมูลต่างๆ ก่อนบันทึกลงพื้นที่จัดเก็บของเครื่อง ผ่านการใช้งาน ASUS Business Manager ชุดโปรแกรมอรรถประโยชน์ เพื่อการบำรุงรักษาตัวเครื่อง และซอฟต์แวร์ภายในได้อย่างมี ประสิทธิภาพ สามารถบริหารจัดการตัวเครื่องแบบรวมศูนย์ รวมทั้งสนับสนุนการควบคุมจากระยะไกล อีกทั้งยังสามารถควบคุมพอร์ต USB แบบเบ็ดเสร็จ โดยการตั้งค่าหรือล็อกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ USB เพื่อความปลอดภัยเมื่อเชื่อมต่อกับตัวเครื่องอย่างที่ทำไม่ได้ในรุ่นทั่วๆ ไปนั่นเอง

Battery / Heat / Noise

ทดสอบการใช้งานแบตเตอรี่ ASUS ExpertBook B3 Flip ซึ่งเป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ 4-Cell 66Wh (4335 mAh) สามารถใช้งานจริงต่อเนื่องยาวนานได้ประมาณ 10 ชั่วโมงทีเดียว ผ่านการทดสอบดู Youtube ทาง Microsoft Edge และในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร แน่นอนว่าในการทดสอบครั้งนี้ก็ได้ปรับเป็น Power Saver Mode

อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าชิปประมวลผลจะร้อนที่สุดที่ 97 องศาเซลเซียส นับว่าระบบระบายความร้อนของเครื่องนี้ทำออกมาได้ดีแล้วล่ะ เทียบกับโน๊ตบุ๊คสายทำงานสเปกแรงๆ หลายๆ รุ่น นับว่าพัดลมตัวเดียวถือว่าน่าประทับใจในระดับนึง เพราะถ้าเกินระบบจะลดความเร็วชิปประมวลผลลงมา ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ที่ 10 นาโนเมตร ที่ดีขึ้นกว่า Gen ก่อนๆ โดยรวมแล้วก็สามารถใช้งานแบบไร้กังวล ประสิทธิภาพดีไม่มีอาการหน่วงเลย