Last Updated on 01/25/2023 by admin
จะประกอบ PC Desktop ให้สเปกตอบโจทย์การใช้งาน บอกเลยว่าชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Intel อย่าง 13th Gen Intel Core เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จากการที่ชิปประมวลผล (CPU) เปรียบเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ ล่าสุดกับการมาของ Intel Core i Gen 13 อย่าง i7-13700K ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า เป็นชิปประมวลผลสำหรับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่ทรงพลัง เพื่อการเล่นเกมและทำงานพร้อมกันที่ดีที่สุด อย่างที่ไม่มีชิปประมวลผลในยุคก่อนไม่สามารถให้ส่วนนี้ได้
ด้วยจำนวนคอร์สูงถึง 16 Core แบ่งเป็น 8P-Core และ 8E-Core รวมเป็น 24 Thread ร่วมกันทำงานอย่างชาญฉลาด ผ่าน Intel Thread Director ที่ช่วยจัดการงาน กับความเร็ว 5.4GHz ทำให้ Core i7-13700K สามารถส่งมอบประสบการณ์ชั้นยอดสำหรับการเล่นเกมแบบมือชีพ พร้อมสตรีมแบบมือโปร ด้วยการบันทึกภาพและเสียงได้อย่างลื่นไหล ส่งผลให้การทำงานโดยรวมนั้นราบรื่นที่สุด โดยไม่ถูกขัดจังหวะใดๆ
โดย Intel Core i Gen 13 รองรับการทำงาน Multi-tasking ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพการทำงานจริงแบบเธรดเดียวที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานจริงแบบหลายเธรดที่ดีขึ้นได้อีก เรียกว่าช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้มากขึ้นเพื่อปลดล็อกการเล่นเกมระดับท็อปกราฟิกแบบ AAA ความละเอียดสูง ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า ที่สำคัญยังให้ประสบการณ์การเร่งความแรงด้วยการ Overclock ที่ใครๆ ก็ทำได้
สำหรับการทำงาน P-Core คือแกนประมวลผลหลัก เน้นประสิทธิภาพ โดย 1 Core จะมี 2 Thread เอาไว้รับงานหนักๆ เช่น การเล่นเกม การตัดต่อ ส่วน E-Core คือแกนประมวลผลรอง ซึ่ง 1 Core จะมี 1 Thread ไว้ทำงานเบาๆ เช่น เปิดเว็บไซต์ งานพื้นฐาน รวมถึงงานเบื้องหลัง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากนั้นเรายังได้เทคโนโลยีใหม่ๆ อีกมากมายที่ติดมาใน 13th Gen Intel Core นี้ด้วย
จากการใช้งานจริงที่ Gamer หรือคนทำงาน Creator ในยุคนี้ไม่ได้เปิดแค่เกมหรือโปรแกรมเดียวอีกต่อไป แต่เปิดแบบ Multi-tasking คือเปิดโปรแกรมอื่น ๆ ไปพร้อมกัน เช่น การ Export ไฟล์ VDO 4K จากโปรแกรม Premiere Pro และเล่นเเกมไปด้วย รวมถึงการเปิดโปรแกรม OBS ไว้สตรีมเกมที่เราเองก็เล่นไปพร้อมๆ กัน ซึ่งการที่ 13th Gen Intel Core มี Core การทำงานสองแบบ ทำให้ตอบสนองได้อย่างลื่นไหลไม่สะดุด
อีกทั้งในแง่ของการใช้งานจริงชิปประมวลผล Intel Core i7-13700K มีอัตราการใช้พลังงานที่ 125 – 253 W ซึ่งถ้าต้องการประสิทธิภาพก็สามารถเร่งได้จาก P-Core + E-Core ทำงานพร้อมกัน แต่ถ้าใช้งานเบาๆ อย่างโปรแกรม Word, Powerpoint หรือดู Youtube, Netlix รวมถึงงานเบื้องหลัง ก็จะใช้งานเพียง E-Core โดยจะประหยัดพลังงาน แน่นอนเป็นการรักษ์โลกไปในตัว เพราะใช้งานพลังงานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
โดยเครื่องที่แอดมินโป้งนำมาทดสอบรีวิว จัดว่าเป็น PC DIY ในฝันเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากชิปประมวลผล Intel Core i7-13700K ที่ทรงพลังแล้ว Component ก็นับว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม จากการที่ใช้การ์ดจอ เมนบอร์ด เคสพีซี หน้าจอ และ Gaming Gear ของทาง ASUS กับราคาค่าตัวรวมๆ แล้วตกอยู่ที่ประมาณ 211,900 บาท สำหรับรายละเอียดแต่ละชิ้น เพื่อนๆ สามารถดูเป็นแนวทางได้ตามนี้เลย
PC DIY Intel x ASUS ชุดนี้รวมๆ แล้วประมาณ 165,050 บาท
- CPU : Intel Core i7-13700K ราคา 18,200 บาท
- GPU : TUF Gaming Geforce RTX 4090 OC ราคา 75,900 บาท
- MB : ROG Maximus Z790 Hero ราคา 27,900 บาท
- RAM : KINGSTON FURY BEAST DDR5 RGB 32GB ราคา 7,990 บาท
- Storage : HIKVISION E2000 PCIe/NVMe 2280 ราคา 2,290 บาท
- PSU : ROG Thor 1000W Platinum II ราคา 12,890 บาท
- CPU Cooling : ROG Strix LC II 360 ARGB ราคา 8,490 บาท
- Case : ROG STRIX HELIOS GX601 ราคา 11,390 บาท
Gaming Gear อื่นๆ จอ, เมาส์, คีย์บอร์ด, หูฟัง รวม 46,850 บาท
- Monitor : ROG Swift PG279QM ราคา 29,990 บาท
- Mouse : ROG Spatha X ราคา 4,990 บาท
- Keyboard : ROG Strix Scope RX ราคา 3,290 บาท
- Headset : ROG Delta S Animate ราคา 6,990 บาท
- Mouse Pad : ROG Scabbard II ราคา 1,590 บาท
*** ราคาอุปกรณ์ต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามร้านค้าปลีกอีกครั้ง ***
ก่อนไปดูผลทดสอบ พาไปดูดีไซน์โดยรวมของของ PC DIY เครื่องนี้กัน
ทดสอบประสิทธิภาพชิปประมวลผล Intel Core i7-13700K
สำหรับ Intel Core i7-13700K เป็นชิปประมวลผลเน้นประสิทธิภาพสูง ทำงานแบบ 16C/24T โดยมีความเร็ว Clock อยู่ที่ 3.40 GHz ซึ่งสามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.40 GHz (ยังไม่ Overclock) มีฟีเจอร์เด่นอย่าง Intel Thread Director ที่ช่วยจัดการงาน และ Intel Quick Sync Video ที่ช่วยประมวลผลงานด้าน Creator พร้อมกับสามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 11 ได้ดีที่สุด
ซึ่งในการทดสอบลองเทียบประสิทธิภาพความแรงของชิปประมวลผล Intel Core i7-13700K ที่เราใช้งานอยู่ เทียบกับฐานข้อมูลของ Intel Core i9-13900K ผ่านโปรแกรม CPU-Z จะเห็นได้ว่าในแง่ของการทำงานแบบ Singer Thread เดียวนั้น มีความแรงเพิ่มขึ้นมาที่ 1% ส่วนถ้าเทียบแบบการทำงาน Multi-Thread จะแรงขึ้นที่ 12% เลยทีเดียว เรียกว่า i7 Gen 13 นั้น แรงงกว่า i9 Gen 12 ก็ว่าได้เลยทีเดียว
ทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึงระดับ 9,635 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเกมที่กินสเปก, งานตกแต่งรูปภาพไฟล์ RAW รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอแบบความละเอียด 4K ส่วนผลการทดสอบของโปรแกรม 3D Mark Time Spy ก็ไปถึง 31,276 คะแนนเลยทีเดียว เรียกว่าทรงพลังสุดๆ
ทดสอบการเล่นเกมต่างๆ ทั้ง SCUM, PUBG, DOTA 2 ที่ทั้งแบบการเล่นเกมธรรมดา รวมไปถึงเล่นเกมไปด้วย Export ไฟล์ VDO 4K ไปด้วย โดยทดสอบแบบปรับกราฟิกสุดหมดทุกอย่าง กับละเอียดหน้าจอแบบ Native ก็สามารถเล่นให้ลื่นไหลได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ทั้งแบบที่เล่นเกมอย่างเดียว หรือเล่นเกมไป Export ไฟล์ไปด้วยพร้อมๆ กัน
ส่วนการทำงานแบบมืออาชีพ สาย Content Creator ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี ผ่านทางโปรแกรม Adobe Premiere Pro ทั้งในการตัดต่อ และ Export ไฟล์ 4K หรือแม้แต่การสลับโปรแกรมไปมา ที่ปกติแล้วแรมจะทำหน้าที่หลักในการสำรองข้อมูล ก็ทำได้ดีเยี่ยมแบบไร้รอยต่อ อีกทั้งยังมี Intel Quick Sync Video ร่วมกับ iGPU ซึ่งเป็นส่วนช่วยให้การ Export ไฟล์ ก็มีความรวดเร็วอย่างที่สุดด้วย อย่างที่เหลือเฟือในการใช้งานจริงมากๆ
สำหรับอุณหภูมิดูจากโปรแกรม Hardware Monitor ในส่วนของ CPU จากการทดสอบเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ 40 – 60 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบให้เครื่องทำงานหนักหน่วงแบบ 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ พร้อมการเล่นเกมไปด้วย เพื่อให้เห็นถึงความเสถียรภาพในการทำงาน ซึ่งประสิทธิภาพโดยรวมยังลื่นไหล ซึ่งชิปประมวลผลร้อนสุด ที่ 94 องศาเซลเซียส
สรุปรีวิว PC DIY สเปก Intel Core i7-13700K
สรุปแล้วการที่ 13th Gen Intel Core มี Core สองแบบ อย่างที่รุ่นอื่นๆ ไม่มี จะช่วยให้ทุกอย่างลื่นไหลสุดๆ ชีวิตไม่มีสะดุดให้หัวเสียอีกต่อไป ตอบโจทย์เกมเมอร์หรือคนทำงานในยุคนี้ไม่ได้เปิดแค่เกม หรือโปรแกรมเดียวอีกต่อไป โดยรองรับ Multi-tasking อย่างแท้จริง อีกทั้งมีตัวเลือก i5-13600K หรือ i9-13900K ด้วยนะ เลือกกันได้ตามงบประมาณและรูปแบบการใช้งานได้เลย ส่วนตัวแล้ว i7-13700K ก็กำลังดีนะ
สำหรับการจัดสเปค PC 2023 ที่ใช้ชิป 13th Gen Intel Core ถ้าสำหรับในตอนนี้ ก็ต้องบอกว่าค่อนข้างเลือกได้ง่าย โดยรุ่น unlocked ที่สามารถ Overclock ได้ เน้นความแรงแบบเต็มๆ จะต่างกันที่รุ่น K มีการ์ดจอเป็น i-GPU ในตัว และรุ่น KF ที่ไม่มีการ์ดจอในตัว ทำให้สามารถจำแนกได้ง่ายเลย เช่น ถ้าต้องการจัดสเปคคอมไปใช้งานกราฟิก ตัดต่อ เรนเดอร์ การเลือกชิปรุ่นที่ลงท้ายด้วย K จะค่อนข้างเหมาะกว่า
สำหรับการ์ดจอ ถ้าสายเน้นทำงานเป็นหลัก การ์ดจอ NVIDIA ในซีรีส์ Quadro จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดี แถมยังมีโปรแกรมที่รองรับเยอะอีกด้วย ส่วนถ้าเป็นการนำไปเล่นเกมหรืองาน Creator ลองดูเป็น GeForce ถ้าในตอนนี้ RTX 40 จัดเป็นรุ่นใหม่ที่น่าสนใจมาก สำหรับคนที่อยากได้เครื่องแรงๆ เล่นเกมและทำงานไปได้อีกหลายปี ด้วยราคาที่อาจจะสูงหน่อย หรือจะเลือกเป็น RTX 30 ก็ได้ ราคาก็จะถูกลงมา และมีตัวเลือกพอสควร
และประเภทของแรม ถ้าเน้นประหยัดงบหน่อย จะใช้เป็น DDR4 + เมนบอร์ดที่รองรับ DDR4 และ 13th Gen Intel Core ก็ยังสบาย ๆ อยู่ครับ แล้วค่อยไปอัปเกรดอีกทีในช่วงที่ DDR5 ถูกลงแล้ว แต่ถ้ามีงบ แล้วกะว่าจะใช้งานยาว ๆ ไม่อยากไล่เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ก็ขยับไป DDR5 ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าให้ใช้ความจุอย่างต่ำ 16GB ไว้ก่อน แต่ถ้าอยากใช้งานได้แบบสบายๆ ก็ค่อยอัปเป็น 32GB ภายหลังก็ได้
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ หรือคนไหนที่กำลังจะจัดสเปก PC DIY รุ่นใหม่ๆ ในปี 2023 ที่ต้องการประสิทธิภาพความแรง มีความเสถียรไว้ใจได้ในการทำงานแบบมืออาชีพสาย Creator หรือคนที่เล่นเกมระดับ Pro Player ทั้งสเปกชิปประมวลผล Core i5, i7, i9 Gen 13 ก็สามารถไปซื้อกันได้เลยที่ร้านค้า ไอทีชั้นนำทั่วประเทศ หรือลองคลิกช้อปออนไลน์ได้ที่