Last Updated on 04/06/2023 by admin
MSI Raider GE78 HX หนึ่งในที่สุดของ Gaming Notebook ตัวท็อปสุดของ MSI ปี 2023 ได้ขนาดใหม่ที่ 17″ ยกระดับจาก MSI Raider GE Series รุ่นก่อนๆ สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i9-13980HX ตัวแรงลื่น ค่า TDP สูงสุด 75W ได้ความล้ำหน้าจาก P-Core + E-Core พร้อมเร่งประสิทธิภาพได้อีก ผสานการทำงานการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 4080 (12GB GDDR6) ค่า TGP 175W เหนือชั้นด้วย MSI OverBoost Ultra ที่ 250W สุดล้ำและสุดแรงกว่าเดิม
สเปกอื่นๆ MSI Raider GE78 HX ก็จัดเต็มทั้งหน้าจอ IPS เกรดสูง จากที่จอใหญ่สะใจ ยังได้ความละเอียด QHD+ (2560 x 1600px) ได้ Refresh Rate 240Hz ค่าสี DCI-P3 ที่ 100% ตอบสนองได้ทั้ง Gamer + Creator พร้อมแรม 64GB DDR5 Bus 4800MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 เกรดสูงความจุ 4TB พอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย Thunderbot 4 และอื่นๆ มี Killer Doubleshot Pro ทำให้เล่นเกมได้ไม่สะดุดทั้ง LAN และ Wi-Fi รุ่นล่าสุด อย่างที่รุ่นอื่นๆ อาจจะไม่มีส่วนนี้
โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ของ MSI Raider GE78 HX ที่มีความสดใหม่ รวมถึงตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง พร้อมไฟ Mystic Light Matrix Lightbar ที่เป็นไฟ RGB แถวยาวด้านหน้าให้ควาเป็นเอกลักษณ์จากที่ต่อยอดจากรุ่นก่อนอย่าง Raider GE77 HX นอกจากนี้ยังมีไฟ RGB ในส่วนของโลโก้ที่ฝาหลัง และปุ่ม WASD และอื่นๆ ก็มีความโปร่งแสง ตามสไตล์ของ MSI Gaming 2023 โดยเราเองสามารถปรับแต่งได้ผ่านซอฟต์แวร์ MSI Center หรือ SteelSeries GG ได้ตามต้องการ
ประกอบกับไฟ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries พร้อมลำโพง Dynaudio แบบ 6 ตัว ระบบเสียง Nahimic + Hi-Res ทั้งหมดนี้ช่วยให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แบตเตอรี่ 99Whr ที่เป็นความจุที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ส่วนที่น่าสนใจอื่นๆ ก็จะเป็นการติดตั้ง SD Card Reader มาให้เลย ทำให้สะดวกกับสาย Creator มากๆ และเว็บแคมเองก็เป็นความละเอียด FHD ที่คมชัด และมี Shutter เลื่อนได้ พร้อม IR Camera สแกนใบหน้า
แน่นอนว่า MSI Raider GE78HX มีระบบระบายความร้อนเป็น Cooler Boost 5 ที่มั่นใจได้ ติดตั้ง Windows 11 Home ใช้ได้ทันที เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่สเปกใหม่ล่าสุด สายทรงพลังทั้งจาก CPU + GPU รุ่นใหม่ พร้อม MUX Switch และได้จอดีที่สุด และฟีเจอร์อื่นๆ เองก็จัดเต็มสุดๆ ในปี 2023 นี้เลย โดยตัวเครื่องมีน้ำหนักที่ 3.1 กิโลกรัม กับราคา 169,990 บาท พร้อมด้วยประกันที่มากกว่าที่ 3 ปี (ปีแรกมีประกันทั่วโลก) และของแถมอีกมากมาย ที่ถือว่าอัปเกรดจากที่เคยมีมาด้วย
VDO Review
AdminPong Verdict
MSI Raider GE78 HX เป็น Gaming Notebook ปี 2023 อีกหนึ่งรุ่นเครื่องเดียวจบครบในตัวเดียว ประสิทธิภาพแรงลื่นไหล ด้วยสเปกชิปประมวลผล CPU อย่าง Inte Core i Gen 13HX (TDP 55W) ที่ทรงพลังให้ประสิทธิภาพที่สูง รองรับทุกๆ การใช้งานอย่างแท้จริง ทั้ง Gaming หรือ Creator ส่วนการ์ดจอแยก GPU ก็เป็น NVIDIA GeForce RTX 4070 (TGP 175W) รุ่นล่าสุดแรงกว่าเดิมมาก ผสานเทคโนโลยี MSI OverBoost Ultra สามารถเพิ่มพลัง CPU และ GPU ให้สูงขึ้นไปอีก รวม 250W
สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มด้วยแรมขนาด 64GB DDR5 และ SSD ต้องจัดเต็มที่ 2TB – 4TB ที่ความเร็วสูงระดับ 12000 MB/s จอ 17″ QHD+ ที่ Refresh Rate 240Hz รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครัน พร้อมได้คีย์บอร์ดไฟ RGB ที่ไม่ซ้ำใคร รองรับการทำงานหนักๆ และเล่นเกมตอบโจทย์ได้ลงตัวที่สุด เน้นความเป็นไฮเอนด์ซึ่งได้ฟีเจอร์ครบครับ ในราคาที่ต้องยอมรับจัดเต็มกว่า Gaming Notebook ทั่วไป แต่ก็นับว่าเป็นฟีเจอร์เพิ่มการทำงานแบบขั้นสุดของ Gaming Notebook หลายๆ รุ่นของ MSI
MSI Raider GE78HX เปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ หรือคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงที่สุด ได้ไฟ Mystic Light ที่จัดเต็มยิ่งกว่า ซึ่งติดตั้งที่ขอบตัวเครื่องด้านหน้าเป็นแนวยาววัสดุเป็นอะคริลิคที่รมดำเข้ากับตัวเครื่อง ให้การแสดงผล Mystic Light Matrix Lightbar ออกแบบมาเพื่อให้สัมผัสถึงแสงไฟ RGB ที่สวยงาม แน่นอนว่าทำงานร่วมกับไฟคีย์บอร์ด RGB Pre-Key เป็นอย่างดี เอาใจสายคนชอบไฟ RGB รอบๆ ตัวเครื่อง
สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันอาจจะมีตัวเลือกที่ถูกกว่านี้ แต่ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้ อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตอีกหน่อยก็คือ ความร้อนเมื่อทดสอบค่อนข้างดูสูง แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานใดๆ เอาว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
ดูเพิ่มเติ่มได้ที่ https://th.msi.com/Promotion/13th-rtx40-gaming-laptops/nb
จุดเด่น MSI Raider GE78 HX
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรูพรีเมียม
- มีไฟ RGB จัดเต็ม โดดเด่นทั้งไฟคีย์บอร์ด พร้อม Mystic Light Matrix Lightbar ที่สวยล้ำ
- สเปคประสิทธิภาพสูงมากจากทั้ง i9-13980HX และการ์ดจอ RTX 4080 ที่ปรับแต่งมาดี
- สเปกแรมจัดเต็มที่ 64GB DDR5 และที่เก็บข้อมูลความเร็วสูงความจุใหญ่ใตที่ 4TB
- หน้าจอแสดงผลขนาด 17″ QHD+ @240Hz พาเนล IPS ขอบเขตสี DCI-P3 ที่ 100%
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 4, HDMI 2.1 และ SD Card Reader
- ลำโพง Dynaudio ทำงานแบบ 6 ตัว พร้อมระบบเสียง Nahimic 3 ให้เสียงที่ดี
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม ทำงานเต็มที่
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น ในทุกๆ มิติ
- กล้องเว็บแคมความละเอียดเป็น Full HD ให้ภารที่คมชัดกว่าโน๊ตบุ๊คทั้งหมดในตลาด
- มีระบบ Windows Hello ทั้ง IR Camera สมกับเป็น Gaming Notebook รุ่นไฮเอนด์
- คีย์บอร์ด SteelSeries Per-key RGB ปรับเปลี่ยนสีไฟตามปุ่ม ทำงานร่วมกับเกมได้
- ประกัน 3 ปี (ได้ประกันทั่วโลกปีแรก) จาก MSI ถือว่าดีกว่า Notebook รุ่นอื่นๆ ของ MSI
ข้อควรรู้ MSI Raider GE78 HX
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ เพราะเป็น Gaming Notebook สเปกสูงและงานพรีเมียม
- ความร้อนในส่วนของชิปประมวลผลค่อนข้างสูงเมื่อใช้งานหนัก แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานใดๆ
- แบตเตอรี่ตัวเครื่องใช้งานโหมดประหยัดพลังาน ได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมง
- เมื่อเครื่องทำงานแบบ Full Load และปรับพัดลมรอบสุด เสียงจะค่อนข้างดัง
Specification
MSI Raider GE78 HX แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ที่มีสเปกคล้ายๆ กัน แตกต่างกันเฉพาะชิปประมวลผลอย่าง Core i7-13700HX หรือ Core i9-13980HX และที่เก็บข้อมูล SSD ที่ความจุ 2TB หรือ 4TB ที่เหลือทั้งสเปกและฟีเจอร์ Gaming รวมถึงดีไซน์ก็เหมือนกันทั้งหมด กับส่วนต่าง 20,000 บาท เรียกว่าไม่น่าจะเลือกกันยากเลย ถ้างบสามารถไปจบที่ตัว 169,990 บาทได้ เพราะดูแล้วคุ้มที่จะขยับไปซื้อตัวท็อป แต่ถ้าพูดถึงความแรงตัว 149,990 บาท ก็แรงเหลือเฟือแล้ว
สเปก MSI Raider GE78HX 13VH-043TH ราคา 149,990 บาท
- CPU : Intel Core i7-13700HX (16C/24T & 1.5 – 3.7GHz + 2.1 – 5.0 GHz)
- GPU : Intel Iris Xe + NVIDIA GeForce RTX 4080 (GDDR 12GB)
- RAM : 64GB DDR5 Bus 4800MHz
- DISPLAY: 17″ IPS QHD+ 240Hz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 2TB
- OS : Windows 11 Home Connector : Wi-Fi 6E Killer + BT5.2
- Warranty : 3 Years (1 year Global+ 2 Year Thailand )
- Free Bundle : MSI Gaming Mouse_ M99 Pro + Titan Gaming Backpack
สเปก MSI Raider GE78HX 13VH-050TH ราคา 169,990 บาท
- CPU : Intel Core i9-13980HX (24C/32T & 1.6 – 4.0GHz + 2.2 – 5.6 GHz)
- GPU : Intel Iris Xe + NVIDIA GeForce RTX 4080 (GDDR 12GB)
- RAM : 64GB DDR5 Bus 4800MHz
- DISPLAY: 17″ IPS QHD+ 240Hz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 4TB
- OS : Windows 11 Home
- Connector : Wi-Fi 6E Killer + BT5.2
- Warranty : 3 Years (1 year Global+ 2 Year Thailand)
- Free Bundle : MSI Gaming Mouse M99 Pro + Titan Gaming Backpack
Hardware / Design
MSI Raider GE78HX เป็นรุ่นอัปเกรดสเปกภายในจากรุ่นปี 2023 ที่เยี่ยมยอด ได้ DNA รุ่นท็อปสุดอย่าง MSI GT77 Titan และ MSI Raider GE67 HX รุ่นก่อน โดยถูกออกแบบโดดเน้นความล้ำด้วยดีไซน์ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว เน้นโทนสีเทาไทเทเนียมสว่างตลอดทั้งตัวเครื่องด้านนอกด้านใน แตกต่างจากตาม Gaming Notebook ทั่วไปของ MSI โดยจะเน้นความสวยงามทั้งด้านการออกแบบและวัสดุที่พรีเมียม โดยใช้วัสดุโลหะอะลูมิเนียมสีสันสีดำ Core Black แซมด้วยสีแดงและทอง
โดย MSI Raider GE78HX มีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 3.1 กิโลกรัม และตัวเครื่องมีความบางอยู่ที่ 23 มิลลิเมตร รอบๆ ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานต่าง ๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมถูกจัดวางอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีไฟ RGB ในส่วนของโลโก้ที่ฝาหลัง ก็มีความโปร่งแสง ส่วนที่น่าสนใจอื่นๆ ก็จะเป็นการติดตั้ง SD Card Reader มาให้ ส่งผลให้ตอบโจทย์การใช้งานทั้ง Gamer หรือคนที่เป็น Creator ได้ดีกว่าหลายๆ รุ่น (ไม่ต้องพก Hub)
อีกทั้งได้ฟีเจอร์ล้ำๆ ด้วย RGB Light Bar ที่จัดเต็มยิ่งกว่าอย่าง Mystic Light Matrix Lightbar ซึ่งติดตั้งที่ขอบตัวเครื่องด้านหน้าเป็นแนวยาววัสดุเป็นอะคริลิคที่รมดำเข้ากับตัวเครื่อง ให้การแสดงผลแบบ 3 มิติ เพื่อให้สัมผัสถึงแสงไฟ RGB ที่สวยงาม แน่นอว่าทำงานร่วมกับไฟคีย์บอร์ด RGB Pre-Key เป็นอย่างดี สำหรับ MSI Raider GE78HX เป็น Gaming Notebook ระดับสูงมาตรฐานปี 2023 ด้วยหน้าจอขนาด 17″ ดีไซน์ขอบบางพิเศษ ทำให้มีความกระชับกว่ารุ่นจอ 17.3″
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI Raider GE78HX โดดเด่นมากๆ จากการที่ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard รุ่นล่าสุด ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กันที่สำคัญไฟ LED ที่เป็น RGB สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมี Hotkey ตรงปุ่ม F9 ของชุดแป้นคีย์บอร์ด เพื่อปรับเปลี่ยนโปรไฟล์สีของ Steelseries GG ที่เราตั้งค่าเอาไว้
รวมไปถึงในการกดปุ่ม Fn แต่ละครั้ง ไฟทั้งหมดจะดับลง พร้อมไฮไลน์เป็นไฟสีแดงให้เด่นขึ้นมาชัดเจนว่าเราใช้าน Hot Key อะไรได้บ้าง นับได้ว่าเป็นในส่วนที่เจ๋งไม่ซ้ำ Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ เลย อีกทั้งรุ่นใหม่นี้ยังได้ปุ่มโปร่งแสงทั้ง WASD / ปุ่มทิศทาง / ปุ่ม Power เพิ่มความสวยงามด้วย ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ดูแล้วสมส่วนกับตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบซ่อนปุ่ม โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็มีความนุ่มและเด้งรับได้น่าประทับใจ สัมผัสแบบผิวลื่นๆ ไม่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายๆ และควบคุมได้แม่นยำ
Screen / Speaker
MSI Raider GE78HX มีหน้าจอจอแสดงผลขนาด 17″ ขอบบาง ความละเอียด Quad HD+ ที่ 2560 x 1600 พิกเซล สัดส่วน 16:10 พาเนล IPS คุณภาพสูง มีมุมมองด้านซ้าย ด้านขวาและด้านบนล่างที่กว้าง พร้อมมีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 240Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ อย่างที่รู้สึกได้ ทั้งการดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกม สบายตาสมจริงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของยางรองมีตลอดทั้งหน้าจอ อีกทั้งบานพับก็มีความแข็งแรงทนทาน กางได้ประมาณ 145 องศา
โดย MSI Raider GE78HX ติดตั้งเว็บแคมความละเอียดสูงที่ Full HD (1080p) พร้อมกับมีปุ่ม Shutter ที่เราสามารถเลื่อนเปิดปิดได้ เพื่อความสะดวกปลอดภัย กรณีที่เราไม่ใช้งาน ก็สามารถปิดได้เอง พร้อม IR Camera ไว้สำหรับสแกนใบหน้าเพื่อเข้าใช้งาน Windows 11 Home ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยกว่า กว่าการกรอกรหัสผ่านแบบเดิม พร้อมติดตั้งไมโครโฟนแบบคู่มาให้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายด้วยการทดสอบเว็บแคม Full HD ให้ความคมชัดทั้ง VDO Call หรือการสตรีมเกม
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder X Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ซึ่งให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 100% AdobeRGB ที่ 87% และ DCI-P3 ที่ 98%เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับที่ดีมากๆ กว่า Gaming Notebook หลายรุ่น รองงานสาย Creator แบบมืออาชีพได้เลยสบายๆ
ส่วนอื่นๆ ของการทดสอบหน้าจอในด้านต่างๆ ได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 460 nit ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน้ตบุ๊คทั่วไปกว่า 1 – 2 เท่า ส่วนค่าความสม่ำเสมอในการความสว่างทั้งหน้าจอโดยแบ่างออกเป็น 9 ช่อง ก็จะเห็นว่ามีความสว่างที่แตกต่างกันเล็กน้อย สูงสุดที่ 7% เท่านั้น อีกทั้งค่าคลาดสี Delta-E ก็เฉลี่ยแล้วต่ำกว่า 2 ซึ่งดีมากๆ ปิดท้ายกับคะแนนรวมของทุกๆ การทดสอบก็จะอยู่ที่ 4.5 เรียกว่าเป็น Gaming Notebook ที่คุณภาพสูงมาก
ระบบเสียง MSI Raider GE78HX ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพงคุณภาพสูงทำงานแบบ 6 ตัว โดยแบ่งเป็น 2x 2W Speaker แบบปกติที่เน้นเสียงแหลมเสียงกลาง และ 4x 2W Woofer เน้นให้เสียงทุ่มเสียงเบสที่กระหึ่มกว่า ติดตั้งด้านข้างตัวเครื่อง จากเทคโนโลยีใหม่ของ MSI โดยใช้ระบบเสียงระดับโลกอย่าง Dynaudio ทำให้เกิดการสะท้อนของเสียงรูปแบบใหม่จากการใช้ตู้ลำโพงแบบ Passive ทำให้เกิดเสียงเบสที่หนักแน่นและคมชัดในทุกย่านโดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง
Connector / Thin And Weight
สำหรับ MSI Raider GE78HX จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17″ ที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้ง 2 x USB 3.2 Type-A, 2 x USB 3.2 Type-C, HDMI 2.1 , LAN Killer 2.5Gbps, SD Card Reader, รูหูฟังและไมค์โครโฟน 3.5 mm อีกทั้งมีพอร์ต Thunderbolt 4 อยู่อีก 1 พอร์ต ซึ่งรองรับการโอนถ่ายข้อมูลที่ดีที่สุด พร้อมสนับสนุนการต่อหน้าจอมาตรฐาน DisplayPort ด้วย และช่องเสียบอแดปเตอร์เป็นแบบสี่เหลี่ยม Block B ตามมาตรฐานของ MSI
การเชื่อมต่อแบบไร้สายมาตรฐาน Killer Wi-Fi 6E + Bluetooth 5.3 ที่ดีกว่าเดิมในทุกๆ ด้าน ซึ่งตัวเครื่องมาพร้อมฟีเจอร์ Killer Doubleshot Pro จัดลำดับความสำคัญให้กับการเชื่อมต่อของเกมมาเป็นอันดับแรก ทำให้มีความเสถียรของอินเตอร์เน็ตมากกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นพอสมควร สมกับเป็น Gaming Notebook ระดับท็อปสุดของแบรนด์ MSI น้ำหนักชั่งจริงที่ 3.05 กิโลกรัม บวกกับอแดปเตอร์จ่ายไฟแบบพิเศษที่เป็น 330Watt รวมน้ำหนักกันแล้วอยู่ที่ประมาณ 4.2 กิโลกรัม
Inside / Upgrade
การแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ MSI Raider GE78HX สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตไม่กี่ตัว โดยฝาล่างนั้นเป็นพลาสติกที่แข็งแรงแต่ก็พอยืดหยุ่นได้ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ ส่วนประกอบภายในอื่นๆ เห็นได้ชัดถึงระบบระบายความร้อน Cooler Boots 5 ประกอบด้วยฮีท์ไปป์ขนาดใหญ่ 6 เส้นแบบใหม่ พร้อมพัดลมขนาดใหญ่ 2 ตัว เป่าออก 4 ทิศทาง สอดประสานรับกันตลอดทั้งระบบ ทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นนั้นมีทิศทางในการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม
พร้อมเห็นว่าช่องติดตั้งหน่วยความจำแรมที่ใส่มาแล้วขนาด 32GB DDR5 x 2 แถว ใส่เต็มมาแล้วที่ 64GB แน่นอนว่าเป็นแบบ SO-DIM พร้อมมีฝาครอบ รวมไปถึงยังมีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 แบบ 2TB x 2 รวมเป็น 4TB ที่ต้องบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไปเหลือเฟือมากๆ นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook อีกรุ่นในตลาดที่ยัดสเปกฮาร์ดแวร์ภายในมาแบบจัดเต็มที่สุดทั้งแรมขนาด 64GB และ SSD 4TB คือซื้อไปแล้วจบ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอัปเกรดอะไรแล้ว
Performance / Software
โดย MSI Raider GE78HX รุ่นที่รีวิว มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i Gen 13HX อย่าง i9-13980HX ตัวแรงที่สุดของ Intel เน้นนำไปใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.60 GHz เป็นการทำงานแบบ P-Core และ E-Core แบ่งเป็น 24 Core 32 Threads โดยมีค่า TDP 55W แต่เร่งไปได้ที 75W ได้
การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Iris Xe Graphics ตามปกติของ Core i อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4070 (12GB GDDR6) ค่า TGP ตามสเปกคือ 175W ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบการ์ดจอ PC Desktop ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภทประสิทธิภาพสูง รองรับ DLSS3 + Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i9-13980HX คะแนนก็อยู่ในระดับสูงน่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Intel Core i เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 4TB มาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ระดับสูง แบบ 2TB x 2 ตัวต่อกันแบบ Raid 0 เมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD ทั่วไป ก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ทรงพลัง ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 12364 MB/s และเขียนที่ 9613 MB/s สมกับเป็น SSD ที่ติดตั้งบน Notebook ระดับไฮเอนด์
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 8863 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลยุคใหม่ ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปได้พร้อมกันอย่างลื่นไหล
สำหรับคะแนนในการเล่นเกมจากการทดสอบการ์ดจอแยกด้วยโปรแกรม 3D Mark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 18402 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Quad HD ได้ 175+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ รองรับการเล่นเกม 3 มิติขั้นสูง หรือทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อนได้เทียบเท่าการ์ดจอ PC Desktop ตัวแรง
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Forza Horizon 5 / Guardians of the Galaxy / GTA V / SCUM ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ด้วยหน้าจอสวยงาม ซึ่งให้ความเรียบเนียน ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 130 – 180 แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหล ทำให้เราได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มอารมณ์
เกมออนไลน์ใช้ทรัพยากรน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน ในความละเอียดที่เท่ากัน สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด ที่ 220 – 250 กรณีที่เราใช้งานเล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync จะดีกว่า เครื่องก็จะได้ไม่ทำงานเต็มที่ตลอดเวลาด้วย ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว MSI Raider GE78HX ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล สมกับราคาที่จ่ายไปจริงๆ
MSI Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่างเวอร์ชั่น 2 จุดเด่น คือ ใช้งานสะดวกและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัพเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ ก็สามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
นอกเหนือจากนี้ MSI Raider GE78HX ยังมีซอฟต์แวร์อื่นๆ อย่าง SteelSeries GG ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries Per-Key RGB ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้ จากพรีเซ็ทต่างๆ ที่มีมาแล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน รวมไปถึงมี Nahimic ช่วยปรับแต่งด้านเสียง, MSI True Colur ปรับโปรไฟล์สี และ Killer Network ปรับแต่งการใช้งานอินเตอร์เน็ตภายในเครื่อง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Raider GE78HX มีความจุที่สูง 99Whr ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำเหลือ 10% พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ จากเครื่องสเปกที่แรงขั้นสุด
ด้านการทดสอบอุณหภูมิสำหรับ MSI Raider GE78HX เครื่องนี้ที่ให้ฮีทไปป์มาทั้งหมด 6 เส้น Cooler Boost 5 ได้พัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่อง เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดีมากเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมดเร่งรอบพัดลมสูงสุดไว้
ชิปประมวลผล i9-13980HX ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark และเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียสไม่เกินจากนี้ จัดว่าค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแล้ว และการ์ดจอแยกอย่าง RTX 4080 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีมาก ร้อนสุดที่ 89 องศาเซลเซียส ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว