Last Updated on 04/02/2023 by admin
PC DIY 2023 สเปก Intel Core i Gen 13
ทั้ง i5 / i7 / i9 สำหรับสาย Creator / Gamer
แรงคุ้มหรือเน้นแรงล้ำทรงพลังกว่า ราคาเริ่มต้นที่ 40,000 บาท
PC DIY 2023 สเปค Intel Core i Gen 13 เป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมประสิทธิ์ภาพที่มากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงปี 2023 เพื่อนๆ อาจกำลังวางแผนจะประกอบคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่อยู่พอดี ในบทความนี้เราจะมาลองจัดสเปค PC 2023 ที่ใช้ชิป Intel Core i Gen 13 ที่โดดเด่นเรื่องการทำงานแบบไฮบริดคอร์ สูงสุดที่ 24 Core / 32 Thread ความเร็วสูงสุด 6.0GHz พร้อม Intel Thread Directot ช่วยจัดการงานแบบชาญฉลาด ซึ่งในขณะนี้ก็จะมีด้วยกันหลากหลายรุ่น
ซึ่งแต่ละรุ่นก็ทำออกมาตอบโจทย์ที่แตกต่างกันไป จะแบ่งง่าย ๆ ก่อนเลยคือ รุ่นที่ลงท้ายด้วย K เป็นรุ่นที่โอเวอร์คล็อกได้ และจะมีกราฟิกชิป (เข้าใจง่าย ๆ ก็คือชิปการ์ดจอ) ในตัว เหมาะกับการใช้ในการช่วยประมวลผลด้านกราฟิก สตรีมมิ่ง เรนเดอร์งาน ส่วนรุ่นที่มีรหัสลงท้ายด้วย F ก็คือไม่มีกราฟิกในตัว ทำให้ราคาประหยัดลง แต่เราต้องหาการ์ดจอแยกมาใส่เองจึงสามารถแสดงผลได้ ซึ่งซีพียูแต่ละรุ่นเราสามารถเลือกได้ตามการใช้งาน เพื่อการทำงาน Creator หรือ Gamer ได้ลงตัว อีกทั้งตอนนี้ทาง Intel ยังได้มีการนำเสนอการ์ดจอแยก ARC ทั้ง 3 รุ่นลงตลาดประเทศไทย โดยแบ่งเป็น ARC A380 / ARC A750 / ARC A770 ด้วย เรียกว่าน่าสนใจในการจัดสเปคมากๆ
สำหรับในบทความ PC DIY 2023 สเปก Intel Core i Gen 13 นี้ จะแบ่งเป็นตามรุ่น CPU ไล่ตั้งแต่กลุ่ม i5 เป็นต้นไป แล้วในแต่ละกลุ่มจะแยกเป็นสเปคแนะนำสำหรับสายครีเอเตอร์/เน้นความคุ้มค่า และสเปคสำหรับสายเกมเมอร์/เน้นความแรง โดยราคาจะเป็นการอ้างอิงจากราคากลางของร้านจำหน่ายสินค้าไอทีในไทยเป็นหลัก ซึ่งราคาซึ่งจริงรวมๆ แล้วถูกกว่านี้ โดยสเปคที่แนะนำจะเป็นเฉพาะส่วนของฮาร์ดแวร์หลักที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ไม่รวมอุปกรณ์เสริม เช่น มอนิเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์ ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนสำหรับเน้นเก็บข้อมูล พัดลมระบายอากาศในเคส นะครับ
แนะนำ PC DIY 2023 สเปก Intel Core i5 Gen 13
จัดสเปค Intel Core i5 Gen 13 สำหรับครีเอเตอร์/เน้นความคุ้มค่าราคารวม 41,800 บาท
- CPU : Intel Core i5-13600K (14,500)
- GPU : Asrock Intel ARC A380 CHALLENGER ITX 6GB OC (5,900)
- MB : Asrock H670 Steel Legend DDR4 (7,500)
- RAM : Kingston FURY BEAST DDR4 RGB 16GB (8GBx2) DDR4 3200 (2,600)
- Storage : SSD Samsung 970 EVO PLUS 500GB (2,900)
- Power Supply : Cooler Master MWE GOLD 750 Fully Modular – 750W 80 PLUS GOLD (3,600)
- CPU Cooler : Cooler Master MasterLiquid ML240L V.2 (2,800)
- Case : GALAX REVOLUTION 01 (2,000)
สำหรับสเปคนี้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการประกอบคอมที่ใช้ Intel Core i5 Gen 13 รุ่นใหม่ล่าสุด โดยตัวของ i5-13600K ก็จะมาพร้อมกราฟิก UHD Intel 770 ที่ใช้งานทั่วไปได้ดี โดยเฉพาะกับงานที่ต้องใช้การ encode/decode วิดีโอ เช่น งานตัดต่อวิดีโอ งานสร้างสรรค์คอนเทนต์ของกลุ่มครีเอเตอร์ เพราะโปรแกรมตัดต่อส่วนใหญ่ต่างก็รองรับการนำกราฟิกใน CPU มาช่วยเสริมการทำงานกันแทบทั้งนั้นแล้ว ซึ่งจะช่วยลดภาระของการ์ดจอและระบบโดยรวมลง โดยเฉพาะสำหรับการสตรีมมิ่ง
ส่วนการ์ดจอ ถ้าเป็นกลุ่มของครีเอเตอร์ก็อาจจะมองเป็น Intel Arc A380 ก็น่าสนใจ ด้วยการออกแบบชุดประมวลผลที่เน้นสำหรับงานสายครีเอเตอร์โดยเฉพาะ แถมยังมีค่าตัวที่กำลังน่าสนใจอีกด้วย ส่วนสำหรับถ้าต้องการนำชุดนี้มาใช้เล่นเกม ก็อาจจะเปลี่ยนมา RTX 3050 แทน ที่ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่หรือถ้าอยากประหยัดลงไปอีก และไม่ต้องการนำมาใช้งานด้านวิดีโอ จะเปลี่ยน CPU เป็น i5-13600KF ที่ไม่มีกราฟิกในตัวก็ได้เช่นกัน พร้อมค่าตัวที่ลดลงไปอีกพันกว่า ๆ เลย
ส่วนเมนบอร์ดก็ใช้เป็นรุ่นสุดคุ้มสำหรับชิปเซ็ต H670 ที่มี I/O มาแบบครบ ๆ ภาคจ่ายไฟจัดว่าโอเค รองรับแรม DDR4 ที่แนะนำว่าควรจะใส่ขั้นต่ำ 16GB ขึ้นไป เพื่อความสบายในการใช้งาน ต่อมาคือ SSD ที่เลือกเป็น Samsung 970 EVO Plus ซึ่งเหมาะกับสายครีเอเตอร์ที่ต้องทำงานกับไฟล์จำนวนมาก และไฟล์ขนาดใหญ่ ที่แม้จะเป็น SSD PCIe 3.0 แต่จะมีข้อได้เปรียบคือเป็น SSD ที่มี DRAM cache ในตัว ซึ่งจะช่วยให้ SSD ทำงานได้ต่อเนื่อง เพราะมี DRAM มาช่วยเป็นตัวกลางในการพักข้อมูล ทำ index และช่วยลดภาระงานของชิป NAND ใน SSD ลง ซึ่งน่าจะช่วยลดอาการโหลดไฟล์ช้า ความเร็วตกได้ ถ้าต้องทำงานหนัก ๆ
ที่เหลือก็เป็นของจำเป็นครับ เช่น power supply ที่ควรจะเลือกเผื่อไว้ซัก 750W ไปเลย รวมถึงชุดระบายความร้อน เพราะ Intel ไม่ได้แถมพัดลมมาให้กับ CPU แล้ว ซึ่งสำหรับ Core i5 จะเลือกเป็นซิงค์พัดลมคุณภาพดีหน่อยก็ได้ครับ แต่ถ้าต้องการใช้เครื่องหนัก ๆ นาน ๆ การขขับมาใช้เป็นชุดระบายความร้อนด้วยน้ำแบบปิดก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลย แถมได้เสียงการทำงานที่เงียบกว่าด้วย
จัดสเปค Intel Core i5 Gen 13 สำหรับเล่นเกม/เน้นประสิทธิภาพสูง ราคารวม 48,700 บาท
- CPU : Intel Core i5-13600KF (12,900)
- GPU : PNY Geforce RTX 3070 TI TRIPLE FAN XLRGB (18,000)
- MB : Asrock H670 Steel Legend DDR4 (7,500)
- RAM : Kingston FURY BEAST DDR4 RGB 16GB (8GBx2) DDR4 3200 (2,600)
- Storage : SSD WD Black SN770 – PCIe 4/NVMe M.2 500GB (2,700)
- Power Supply : THERMALTAKE SMART BX1 750W 80 PLUS BRONZE (2,500)
- CPU Cooler : Cooler Master MasterLiquid ML240L V.2 (2,800)
- Case : GALAX REVOLUTION 01 (2,000)
พอขยับมาเป็นสเปคเน้นเล่นเกม เน้นความแรงมากขึ้น CPU รุ่นที่แนะนำก็จะเป็น i5-13600KF ที่ตัดกราฟิกในตัวออก เพื่อใช้ชิปสามารถทำงาน และระบายความร้อนในตัวได้เต็มที่ขึ้น แต่ก็แน่นอนว่าอีกสิ่งที่ต้องขยับตามมาก็คือการ์ดจอ โดยรุ่นที่น่าสนใจในตอนนี้ก็จะเป็น RTX 3070 Ti ที่ยังแรงอยู่มาก ๆ แถมราคาในช่วงนี้ก็จัดว่าน่าซื้อมากขึ้นแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องขึ้นไปถึงขั้น RTX 4080 ที่ราคากระโดดไปครึ่งแสนก็ได้ แถมมีบางยี่ห้อปรับราคาลงมาอยู่ในช่วงเดียวกันกับ RTX 3070 ด้วยซ้ำ
ส่วนฝั่งของ SSD หลักในเครื่อง อาจจะปรับมาเป็น WD Black SN770 500GB ที่เป็น PCIe 4.0 แทน ซึ่งมีความเร็วทั้งการเขียน/อ่านที่ดี แม้จะไม่มี DRAM ในตัวก็ตาม แถมตามร้านออนไลน์ชอบมีโปรลดราคากันบ่อย ๆ ด้วย ถ้าเลือกช่วงดี ๆ อาจจะได้รุ่นความจุ 1TB ที่ราคาสองพันปลาย ๆ ก็ได้ บอกเลยว่าคุ้มมาก ส่วนของ power supply ก็ขยับลงมาเป็น Thermaltake Smart BX1 750W ก็ได้ครับ ประสิทธิภาพดีใช้ได้เลย เพื่อโยกเงินไปลงกับการ์ดจอแทน
แนะนำ PC DIY 2023 สเปก Intel Core i7 Gen 13
จัดสเปค Intel Core i7 Gen 13 สำหรับครีเอเตอร์/เน้นความคุ้มค่า ราคารวม 59,800 บาท
- CPU : Intel Core i7-13700K (18,500)
- GPU : Intel ARC A750 Limited Edition (9,900)
- MB : GIGABYTE Z790 UD (8,500)
- RAM : Kingston FURY BEAST DDR5 5200MHz 32GB (7,000)
- Storage : SSD Samsung 980 PRO M.2 2280 1TB (6,000)
- Power Supply : Cooler Master MWE GOLD 750 Fully Modular – 750W 80 PLUS GOLD (3,600)
- CPU Cooler : Cooler Master MasterLiquid ML360R ARGB (3,400)
- Case : CORSAIR 4000D AIRFLOW (2,900)
พอขยับมาเป็น Core i7 ทางเลือกที่ดีก็คือการปรับฮาร์ดแวร์หลาย ๆ อย่างให้รองรับการอัปเกรดในอนาคตไปด้วยเลย เช่น การเลือกใช้เมนบอร์ดชิปเซ็ต Z790 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่รองรับแรม DDR5 และ PCIe 5.0 สำหรับการ์ดจอไปเลย เป็นต้น โดยจุดที่น่าสนใจก็คือฝั่งของการ์ดจอครับ โดยถ้าเป็นการนำเครื่องมาใช้ทำงาน เน้นการเรนเดอร์ ตัดวิดีโอ สร้างสรรค์คอนเทนต์ การเลือก Intel ARC A750 Limited Edition จะดูเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กว่า
ด้วยจุดเด่นที่เหนือกว่าการ์ดจอเล่นเกมอย่างเดียว เพราะได้เรื่องงานครีเอเตอร์ด้วย ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับชิปประมวลผล Intel Core i ที่มี iGPU จะมีความแรงยิ่งขึ้นไป ด้วยฟีเจอร์ Deep Link รวมถึงตัวการ์ดยังกินไฟต่ำด้วย ลงตัวกับการใช้งานติดต่อกันนาน ๆ ในยุคที่ค่าไฟก็ปรับสูงขึ้นอย่างในปัจจุบันได้ดีเลย แต่ถ้าเป็นสายเล่นเกมจริงจัว แต่อยากจัดสเปค Core i7 gen 13 ก็แนะนำว่าเปลี่ยนการ์ดจอเป็น RTX 3070 Ti จะดีกว่า ราคาใกล้ ๆ กันเลยด้วย
ด้านของ SSD ก็มีสองทางเลือกเช่นเดิมครับคือ Samsung 980 PRO ที่เป็น PCIe 4.0 และมี DRAM cache ในตัว ซึ่งจะราคาสูงขึ้นไปหน่อย ทั้งนี้ แนะนำว่าเลือก SSD หลักที่มีความจุซัก 1TB เลยจะสบายใจกว่า เผื่อต้องใช้ในการทำงานร่วมกับไฟล์ใหญ่ ๆ แบบที่ต้องทำจากในเครื่องเอง หรือจะใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ก็สามารถลงได้แบบไม่ต้องคิดเยอะ ส่วนของระบบระบายความร้อนของ CPU ก็ควรขยับเป็นแบบชุดน้ำ 3 ตอนไปเลย จะแบบปิดหรือแบบเปิดก็ได้ แล้วแต่ความชอบครับ
จัดสเปค Intel Core i7 Gen 13 สำหรับเล่นเกม/เน้นประสิทธิภาพสูง ราคารวม 83,300 บาท
- CPU : Intel Core i7-13700KF (17,500)
- GPU : GALAX GEFORCE RTX 3080 TI SG – 12GB GDDR6 (30,000)
- MB : ASUS PRIME Z790-P-CSM (10,600)
- RAM : Kingston FURY BEAST DDR5 5200MHz 32GB (7,000)
- Storage : SSD WD Black SN770 – PCIe 4/NVMe M.2 1TB (4,900)
- Power Supply : THERMALTAKE TOUGHPOWER GF3 1000W GOLD (7,000)
- CPU Cooler : Cooler Master MasterLiquid ML360R ARGB (3,400)
- Case : CORSAIR 4000D AIRFLOW (2,900)
ส่วนถ้าเป็นฝั่งเล่นเกม เน้นความแรง จุดที่แนะนำก็จะเป็นการขยับเมนบอร์ดมาเป็น ASUS PRIME Z790-P-CSM ที่จัดเต็มมาก ทั้งภาคจ่ายไฟ พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบสุด ๆ สำหรับการใช้งานยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น PCIe 5.0 ช่องใส่ M.2 PCIe 4.0 x4 ถึง 3 ช่อง และยังมีพินสำหรับเสียบสายเพื่อใช้งานพอร์ต Thunderbolt/USB 4 ได้ด้วย เมื่อจับคู่กับแรม DDR5 และ CPU ซีรีส์ KF บอกเลยว่าตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการโอเวอร์คล็อกแน่นอน
ด้านของการ์ดจอก็จะขยับขึ้นมาเป็น RTX 3080 Ti ที่ความแรงไล่ ๆ มากับ RTX 40 series เลย แต่ได้ราคาที่ย่อมเยากว่ากันเป็นหลักหมื่น ซึ่งจะใช้ตัวนี้ไปซักระยะก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนมาเป็น RTX 40 series ก็ได้ครับ เพราะเมนบอร์ดตัวนี้รองรับ PCIe 5.0 และ power supply เองก็รองรับ ATX 3.0 กับ PCIe 5.0 อยู่แล้วด้วย เท่ากับว่ายอมจ่ายหนักรอบนี้ครั้งเดียว แต่รองรับการอัปเกรดไปได้แบบยาว ๆ แน่นอน ด้วยอุปกรณ์ฐานหลักอย่างเมนบอร์ดและ power supply ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดแล้ว
แนะนำ PC DIY 2023 สเปก Intel Core i9 Gen 13
จัดสเปค Intel Core i9 Gen 13 สำหรับครีเอเตอร์/เน้นความคุ้มค่า ราคารวม 88,100 บาท
- CPU : Intel Core i9-13900K (25,900)
- GPU : Intel ARC A770 Phantom Gaming D 8GB OC (13,900)
- MB : ASUS PRIME Z790-P-CSM (10,600)
- RAM : CORSAIR DOMINATOR PLATINUM RGB DDR5 5600MHz 32GB (16,000)
- Storage : SSD Samsung 980 PRO M.2 2280 1TB (6,000)
- Power Supply : THERMALTAKE TOUGHPOWER GF3 1000W GOLD (7,000)
- CPU Cooler : Cooler Master MasterLiquid ML360R ARGB (3,400)
- Case : LIAN LI LANCOOL III RGB (5,300)
ทีนี้ถ้าเป็น Intel Core i9-13900K ที่เป็นรุ่นท็อปสุดในตอนนี้ แน่นอนว่าฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่องก็ต้องจัดในระดับไฮเอนด์พอกัน เริ่มที่เมนบอร์ดก็เป็น Z790 ที่รองรับการเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่ ๆ ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป แรมก็ยังเป็น DDR5 32GB แต่ขยับบัสขึ้นไปเป็น 5600MHz หรือถ้างานที่ใช้ เป็นงานที่เน้นปริมาณแรมมากกว่า อาจจะปรับเป็น DDR5 5200MHz 64GB แทนก็ได้ ราคารวมออกมาใกล้เคียงกันครับ และอีกส่วนที่ต้องขยับเพิ่มด้วยก็คือเคส โดยจะแนะนำเป็นเคสขนาดใหญ่ไปเลย เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถติดตั้งการ์ดจอขนาดใหญ่ เช่นซีรีส์ RTX 4080 ขึ้นไปได้แบบไม่อึดอัด รวมถึงยังมีช่องติดตั้ง SSD/HDD เพิ่มได้เยอะ และระบายอากาศได้ดีด้วย
แต่จุดที่มีผลกับราคารวมที่สุดก็คือการ์ดจอครับ โดยถ้าเป็นสายครีเอเตอร์ หรือคนที่ต้องการจัดสเปคคอมมาใช้ทำงานเป็นหลัก จะเลือกเป็น Intel ARC A770 Phantom Gaming D 8GB OC เลยก็น่าสนใจ แม้อาจจะมีจำนวนคอร์ CUDA, Tensor, RT รวมถึงแบนด์วิธหน่วยความจำที่น้อยกว่า RTX 4080 ก็จริง แต่มีเทคโนโลยี XeSS ที่เป็น AI Upscale เพื่อเพิ่มเฟรมเรทในการเล่นเกม เหมาะกับการใช้งาน Creator + Gamer แต่ถ้าต้องการจัดสเปคที่ใช้ทั้งงานครีเอเตอร์และการเล่นเกมได้แรง ๆ ลื่น ๆ ไปเลย ก็อาจจะขยับไปใช้ RTX 4080 ก็ได้เช่นกัน ด้วยราคาที่บวกขึ้นไปหลักหมื่น
จัดสเปค Intel Core i9 Gen 13 สำหรับเล่นเกม/เน้นประสิทธิภาพสูง ราคารวม 125,000 บาท
- CPU : Intel Core i9-13900KF (24,800)
- GPU : GIGABYTE GEFORCE RTX 4080 16GB EAGLE – 16GB GDDR6X (51,500)
- MB : ASUS PRIME Z790-P-CSM (10,600)
- RAM : CORSAIR DOMINATOR PLATINUM RGB DDR5 5600MHz 32GB (16,000)
- Storage : SSD WD Black SN770 – PCIe 4/NVMe M.2 1TB (4,900)
- Power Supply : THERMALTAKE TOUGHPOWER GF3 1200W GOLD (8,500)
- CPU Cooler : Cooler Master MasterLiquid ML360R ARGB (3,400)
- Case : LIAN LI LANCOOL III RGB (5,300)
ส่วนการจัดสเปคเล่นเกมที่ใช้ Intel Core i9 gen 13 ก็จะใกล้เคียงกับชุดที่ผ่านมาสำหรับครีเอเตอร์เลย แต่ปรับ SSD ลงมาเป็น WD Black SN770 1TB แทน ไม่จำเป็นต้องใช้ SSD ที่มี DRAM cache ก็ทำได้สบาย ๆ ส่วนอีกจุดที่แตกต่างกันก็คือ power supply ที่ปรับมาเป็น 1200W แทน แต่ก็ยังเป็นรุ่นที่รองรับ ATX 3.0 และมีช่องจ่ายไฟสำหรับการ์ดจอ RTX 40 series มาให้ด้วย ด้านของการ์ดจอ เอาแค่เป็น RTX 4080 ก็เหลือเฟือแล้ว เนื่องจากประสิทธิภาพไม่ได้ทิ้งห่างจาก RTX 4090 มากนัก ในขณะที่ต้องเพิ่มเงินร่วม 20,000 บาท เว้นแต่ว่าต้องนำไปใช้งานที่ใช้ VRAM มากกว่า 16GB
สรุปปิดท้าย
สำหรับการจัดสเปค PC 2023 ที่ใช้ชิป Intel Core i Gen 13 ถ้าสำหรับในตอนนี้ ก็ต้องบอกว่าค่อนข้างเลือกได้ง่ายครับ เพราะมีออกมาแค่รุ่น unlocked ที่สามารถโอเวอร์คล็อกได้ เน้นความแรงแบบเต็ม ๆ จะต่างกันก็แค่รุ่น K มีการ์ดจอในตัว และรุ่น KF ที่ไม่มีการ์ดจอในตัว ทำให้สามารถจำแนกได้ง่ายเลย เช่น ถ้าต้องการจัดสเปคคอมไปใช้งานกราฟิก ตัดต่อ เรนเดอร์ การเลือกชิปรุ่นที่ลงท้ายด้วย K จะค่อนข้างเหมาะกว่า
ต่อมาก็เรื่องการ์ดจอ ถ้าสายเน้นทำงานเป็นหลักในราคาคุ้มค่าน่าซื้อ ลองดูเป็น Intel ARC ก็จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ทั้ง ARC 380, ARC 750, ARC 770 แถมยังมีโปรแกรมที่รองรับเยอะอีกด้วย ส่วนถ้าเป็นการนำไปเล่นเกม ถ้าในตอนนี้ RTX 3070 Ti จัดเป็นรุ่นที่น่าสนใจมาก หรือใครอยากสุดก็เป็น RTX 4090 สำหรับคนที่อยากได้เครื่องแรง ๆ เล่นเกมไปได้อีกหลายปี ด้วยราคาที่ปรับลงมากว่าช่วงก่อนหน้านี้พอสมควร
ประเภทของแรม ถ้าเน้นประหยัดงบหน่อย จะใช้เป็น DDR4+เมนบอร์ดที่รองรับ DDR4 และ Intel gen 13 ก็ยังสบาย ๆ อยู่ครับ แล้วค่อยไปอัปเกรดอีกทีในช่วงที่ DDR5 ถูกลงแล้ว แต่ถ้ามีงบ แล้วกะว่าจะใช้งานยาว ๆ ไม่อยากไล่เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ก็ขยับไป DDR5 ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าให้ใช้ความจุอย่างต่ำ 16GB ไว้ก่อน แต่ถ้าอยากใช้งานได้แบบสบาย ๆ ก็ค่อยอัปเป็น 32GB ภายหลังก็ได้
ปิดท้ายด้วยเรื่องของ Power Supply เพื่อการใช้งานที่สบายใจ ส่วนกำลังไฟที่รองรับ ตัวเลขที่ระบุเช่น 750W 1000W พวกนี้คือกำลังไฟสูงสุดที่จ่าย ราคาสูงหน่อยแต่จบแน่นอน แต่จะเป็นแบบเครื่องกินแค่ไหน ก็จ่ายไฟแค่นั้น ซึ่งส่วนที่กินไฟหนัก ๆ จะเป็นการ์ดจอเป็นหลัก ดังนั้นการเลือกซื้อเผื่อไว้ซักหน่อยก็จะเป็นการดี โดยเฉพาะ RTX 40 series ที่ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้ PSU หลัก 1,000 วัตต์ขึ้นไปจะดีที่สุด