รีวิว MSI Pulse 15 สเปก i7-13700H + RTX 4060 แรงแบบ Gaming ล้ำกว่า จอ 15.6″ FHD @360Hz ลื่นตาแตก ราคา 53,990 บาท

Last Updated on 09/27/2023 by admin

รีวิว MSI Pulse 15 สเปก i7-13700H + RTX 4060 แรงแบบ Gaming

จอ 15.6″ FHD @360Hz ลื่นตาแตก ราคาล่าสุด 53,990 บาท

MSI Pulse 15 เป็น MSI Gaming Notebook ปี 2023 สเปกใหม่ กับการต่อยอด MSI Pulse รุ่นปีก่อน พร้อมให้ความพรีเมียมและโดดเด่นกว่า Katana Series ที่แรงลื่นน่าซื้อกว่าเดิม จากสเปกล่าสุดเป็น Intel Core i Gen 13 Raptor Lake H45 อย่าง i7-13700H /  i9-13900H ทำงานแบบไฮบริด P-Core + E-Core ที่ทรงพลัง และ NVIDIA GeForce RTX 40 Series ทั้ง RTX 4060 (TGP 140W) ได้แรมขนาด 16GB / 32GB DDR5 พร้อมที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMEe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB โดยได้แบตเตอรี่ความจุสูงที่ 90Whr

MSI Pulse 15

MSI Pulse 15 มีหน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920 x 1080px) ที่ Refresh Rate 360Hz ค่าสี sRGB 100% และ Quad HD @240Hz ด้วยวัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะพื้นผิวที่มีเอกลักษณ์ที่ดุดัน ใช้เป็นโทนเทา ลวดลายให้ความเฉียบคมคล้ายชุดเกราะ แนวคิดเดียวนักรบอวกาศสายพันธุ์มังกรแห่งอนาคต ที่โดดเด่นและแตกต่าง น้ำหนักที่ 2.29 กิโลกรัม มีความบางที่ 23.95 มิลลิเมตร ทำให้พกพาได้สะดวก นำไปเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา มีปุ่มปรับโหมด Fn +F7 สามารถเร่งความแรง หรือเปลี่ยนโหมดได้ง่ายขึ้น

MSI Pulse 15

MSI Pulse 15 มาพร้อมคีย์บอร์ดไฟ LED แบบ RGB 4 Zone ปรับรูปแบบการแสดงสีสันได้หลายระดับ พร้อมปุ่ม WASD ที่เป็นไฮไลท์ และปุ่มทิศทางที่ขนาดใหญ่ขึ้น ในส่วนของระบบระบายความร้อนเป็น Cooler Boost 5 สามารถระบายอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การเชื่อมต่อไร้สายเป็น Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi 6E ที่ดีกว่าเดิม พอร์ตเชื่อมต่อได้ USB 3.2 Type-A, USB 3.2 Type-C, USB 2.0 Type-A , HDMI 2.1, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และ LAN ได้ Windows 11 Home การรับประกันเป็น 2 ปี

VDO Review

AdminPong Verdict

MSI Pulse 15 เป็นการต่อยอดมาจาก MSI Pulse GL66 รุ่นก่อนหน้า ซึ่งมีการปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยฟีเจอร์ Gaming ใหม่ๆ ตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook สเปกจัดเต็มกับความบางเบาที่พกพาได้ง่าย  โดยได้สเปคแรงกว่าเดิมด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-13700H หรือ Core i9-13900H ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่แรงลื่น แม้ว่าไม่ใช่ Core i Gen 13H พร้อมจับคู่กับการ์ดจอใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4060 พร้อมด้วยสเปกอื่นๆ อย่างแรมขนาด 16GB – 32GB DDR5 และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ส่วนหน้าจอมีทั้ง FHD @360Hz / QHD @240Hz

ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ของ Gaming Notebook จากทาง MSI กันเอง ก็มีความสมเหตุสมผล รองรับการอัพเกรดที่หลากหลาย พร้อมมีซอฟต์แวร์ช่วยปรับแต่งที่ดีที่ง่ายใช้งานสะดวก แม้ว่าอาจจะไม่ใช้ Series ที่จัดเต็มเป็น Gaming ในทุกด้านเพราะไม่มีไฟ RGB แต่เรื่องระบบระบายความร้อนก็หายห่วงแม้จะดูสูงซักหน่อย ส่วนข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ คงเป็นเรื่องการที่ SSD มี Slot เดียว ทำให้ถ้าจะเพิ่มก็ต้องถอดของเดิมออกก่อน รวมไปถึงยังมีพอร์ต USB 2.0 Type-A + เว็บแคม 720p ติดตั้งมาอยู่ แต่ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพต่อราคาแล้วก็ถือว่ายังคงน่าสนใจทีเดียว โดยช่วงนี้ MSI Pulse 15 ราคาลดลงเยอะด้วยลองพิจารณากันดู

สรุปจุดเด่นที่ชอบ

  • เป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ ระดับกลางค่อนบน ที่ครบเครื่องจากแบรนด์ MSI
  • ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-13700H แรงทั้งเล่นเกมและทำงาน
  • การ์ดจอแยกตัวแรงยอดนิยม RTX 4060 (140W) พร้อม MUX Switch เพิ่มความแรงไป
  • ได้แรม 16GB DDR5 5200 MHz และ SSD Gen 4 512GB ลื่นไหล พร้อมใช้งานได้ทันที
  • หน้าจอความละเอียด FHD ลื่นไหลที่สุดด้วย 360Hz ค่าขอบเขตสี sRGB 100%
  • เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลแรงลื่นได้สนุกสนาน รวมไปถึงในการทำงานประมวลผลต่างๆ
  • ดีไซน์พรีเมียมดุดัน Gaming ถูกใจตามสไตล์ MSI งานประกอบแน่นวัสดุดีเยี่ยม
  • คีย์บอร์ดสวยใช้งานได้ดี พร้อมมีไฟ RGB แบบ 4 Zone หลายๆ ปุ่มแบบโปร่งแสง
  • มีปุ่มปรับโหมด Fn +F7 สามารถเร่งความแรง หรือเปลี่ยนโหมดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
  • อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าจัดการได้ดี ด้วย Cooler Boost 5 แบบแชร์ไปป์
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน โดย USB-C ใช้งานจอต่อแบบ DisplayPort
  • มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E + LAN สามารถจัดการ Network ได้ดีกว่า
  • ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 90 Wh และจัดการได้ดี ดู Youtube ได้ยาวนาน 7 ช.ม.
  • มาพร้อม Windows 11 Homeใช้งานได้ทันที มีซอฟต์แวร์ MSI Center รุ่นใหม่
  • ด้วยราคาล่าสุด 49,990 บาท จัดว่าน่าซื้อมาใช้งานมากๆ สาย Gaming แนว FPS

ข้อควรรู้ก่อนซื้อ

  • อัปเกรด SSD เพิ่มไม่ได้ทันที ต้องถอดของเดิมออกก่อน
  • เว็บแคมเป็น 720p และมีพอร์ต USB 2.0 เพราะใช้ Form Factor เดิม
  • ถ้าบางคนอาจจะอยากได้หน้าจอความละเอียดสูงกว่า ให้เลือกเป็นสเปก i9 ที่เป็นจอ QHD ก็ได้

Specification

MSI Pulse 15 B13VFK-262TH ราคา 53,990 บาท จากปกติ 67,990 บาท

  • CPU : Intel Core i7-13700H (14C/20T & 1.8 – 3.7GHz + 2.4 – 5.0 GHz)
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics + GeForce RTX 4060 (6GB GDDR6)
  • RAM : 16GB DDR5 Bus 5200 MHz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
  • DISPLAY: 15.6″ IPS FHD @360Hz
  • OS : Windows 11 Home
  • Warranty : 2 Years (1 year Global+ 1 Year Thailand)

MSI Pulse 15 B13VFK-1088TH ราคา 55,990 บาท จากปกติ 62,990 บาท

  • CPU : Intel Core i9-13900H (14C/20T & 1.9 – 4.1GHz + 2.6 – 5.4 GHz)
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics + GeForce RTX 4060 (6GB GDDR6)
  • RAM : 32GB DDR5 Bus 5200 MHz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
  • DISPLAY: 15.6″ IPS QHD @240Hz
  • OS : Windows 11 Home
  • Warranty : 2 Years (1 year Global+ 1 Year Thailand)

Hardware / Design

หน้าตาการออกแบบเอง MSI Pulse 15 ต้องบอกว่ามีความโดดเด่นทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีเช่นเดิม ด้วยความโดดเด่นที่สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอใหญ่กำลังดี แต่ก็ยังได้เรื่องของน้ำหนักที่เบา พกพาสะดวก ใกล้เคียงกับพวกรุ่นหน้าจอ 15.6″ ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมคีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ตามมาตรฐาน DNA ของ MSI Gaming 2023 ที่ให้ความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน

ซึ่งมีดีไซน์และแนวทางการออกแบบแตกต่างจาก MSI Pulse GL รุ่นก่อนหน้า ที่เป็นสเปกชิปประมวลผลและการ์ดจอตัวแรง ซึ่งเป็น Gaming Notebook ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ดูดี รูปทรงกระทัดรัด แต่ใน MSI Katana 15 จะเน้นคอนเซปที่ได้ความพรีเมียมมากกว่า ได้เส้นสายเหลื่ยมสันที่ลงตัวตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งด้วยน้ำหนัก 2.25 กิโลกรัม และมีความบางที่ 24.9 มิลลิเมตร ที่ต้องบอกว่ามีน้ำหนักที่มาตรฐาน แต่จากการใช้งานจริงก็ต้องบอกว่าอยู่ในเกณฑ์ของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ปกติ

วัสดุตลอดทั้งตัวเครื่องเป็นพลาสติกคุณภาพดี โดยฝาหลังจะเป็นโลหะที่ให้ความพรีเมียม มีลวดลายที่โดดเด่น สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ ด้พร้อมกันนั้นในส่วนของขอบตัวเครื่องทั้งด้านซ้ายขวาและด้านหน้าจะมีการทำลวดลายเป็น Dot Digital ที่ได้ทั้งความสวยงามดุกัน และการจับถือได้สะดวก ซึ่งขอบด้านหน้าเป็นพลาสติกมีการเว้นพื้นที่เว้าเอาไว้ให้เปิดฝาหน้าจอได้ง่าย ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นพลาสติกรูปแบบเดียวกับฝากหลังแบบสีดำด้านที่สวยงาม

Keyboard / Touchpad

ตัวเครื่อง MSI Pulse 15 มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6″ ซึ่งมีการติดตั้งคีย์บอร์ด Full Size โดยมีการติดตั้ง Numpad แป้นตัวเลขด้วย ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี ทั้งฟีลแรงกด การตอบสนองของแป้นพิมพ์ และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมกัน ซึ่งทำได้แม่นยำ มาพร้อมไฟ RGB แบบ 4 โซน บนเทคโนโลยี Silver Lining Print ที่สวยเสริมความสวยงามให้ไฟสี RGB สว่างน่าใช้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นถึง WASD / ปุ่มทิศทาง / ปุ่ม Power และขอบปุ่ม Spacebar เป็นแบบโปร่งแสงเข้ากับตัวเครื่อง เรียกได้ว่าดีกว่ารุ่นก่อนหน้า

โดยรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Gamers Hotkey อย่างปุ่มเร่งพัดลมให้ทำงานเต็มที่ Cooler Boots และปุ่มเรียกใช้ Crosshair ไว้สำหรับช่วยเล็กเป้าในเกมต่างๆ ที่เป็น FPS ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของปุ่มทิศทาง พร้อมมีปุ่ม Fn + F7 ใช้ปรับโหมดการใช้งานต่างๆ และอีกมากมายในส่วนของแถวบนสุดคีย์บอร์ด ในส่วนของทัชแพดเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาทำให้ดูเป็นเนื้อเดียวกัน มีลวดลายเข้ากับตัวเครื่องโดยรวม โดยปุ่มกดไม่แข็งไม่นิ่มเกินไป ผิวสัมผัสของทัชแพดเป็นแบบด้านๆ การใช้งานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

Screen / Speaker

MSI Pulse 15 มีหน้าจอขนาด 15.6″ ซึ่งขอบจอด้านล่างจะมีโลโก้ MSI แบบใหม่อยู่ 1 จุด มาพร้อมความละเอียด Full HD ที่ 1920×1080 พิกเซล พาเนล IPS คุณภาพดี มีมุมมองด้านซ้าย ด้านขวาและด้านบนล่างที่กว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare มาตรฐาน แสงสว่างเพียงกับการใช้งานในบริเวณที่มีแสงจ้า พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 360Hz เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี ด้วยกว่าลื่นไหลที่มากกว่าหน้าจอ 60Hz ทั่วไป พร้อมติดตั้งเว็บแคม HD และไมโครโฟน 2 ตัว

ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอที่มากับเครื่อง กับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS แบบทั่วไป ใช้เกรดกลางๆ ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder X Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์เอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรตก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลง จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย โดยได้ค่าขอบเขตสี sRGB 99% / AdobeRGB 75% / DCI-P3 76%

ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติ พอใช้งานในที่กลางแจ้งได้ ความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมซ้ายบนมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องบนกลางจะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 11%  และค่าคลาดสีเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 0.86 สำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไรนัก ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ลำโพงของ MSI Pulse 15 ยังจัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนใต้เครื่องตามมาตรฐน แบบขนาด 2W x 2 คุณภาพดี ให้เสียงเบสแน่นลึกยิ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อย พร้อมด้วยการใช้ระบบเสียง Hi-Res Audio และ Nahimic 3 สามารถปรับแต่งได้ เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง อย่างไรก็ตามต่อหูฟังหรือลำโพงแยกยังไงก็ดีกว่า

Connector / Thin And Weight

MSI Pulse 15 เป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ ให้การเชื่อมต่อมาอย่างครบถ้วนในระดับหนึ่ง ติดตั้งไว้ทั้งทางด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง อาทิ USB 3.2 Type-A จำนวน 2 ช่อง ที่ให้มาอย่างจัดเต็มรองรับการเชื่อมต่อที่เพียงพอ นอกเหนือจากนั้นยังมี RJ45, HDMI, USB 3.2 Type-C, และ Audio 3.5mm Mic&Headphone แบบ Combo อย่างไรก็ตามยังมีในส่วนของ USB 2.0 Type-A อีก 1 ช่อง แน่นอนว่ามีช่องต่อไฟอแดปเตอร์ พร้อมยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi 6E

มิติของตัวเครื่องโดยรวมเน้นการออกแบบให้มีความบางเบากว่า Gaming Notebook ยุคก่อนๆ โดยยังคงประสิทธิภาพตามแบบฉบับโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมเป็นหลักโดยมีขนาดความมิติต่างๆ ที่เล็กกระชับกว่ารุ่นก่อนๆ โดยมีน้ำหนักที่ 2.29 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งรวมอแดปเตอร์ขนาด 240 Watt แล้วจะหนักประมาณ 3 กิโลกรัม สามารถพกพาได้อย่างสะดวก ซึ่งกระเป๋าเองก็สามรถใช้มาตรฐานกระเป๋าโน๊ตบุ๊คทั่วไปขนาดหน้าจอ 15.6″ ได้เลย หนุ่มๆ แบกไปทำงานตามออฟฟิศหรือไปมหาวิทยาลัยก็ทำได้สบาย

Inside / Upgrade

การแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ MSI Pulse 15 สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมดประมาณ 10 ตัว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี การแกะตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดของ ก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว ซึ่งการแกะฝาล่างของ MSI Notebook สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุดแต่อย่างใด ขอแค่ว่าอย่าแกะจนเกิดความเสียหายก็พอ รวมไปถึงการใส่กลับด้วย

เมื่อแกะออกมาแล้วจะเห็นว่าติดตั้งแรมมาแล้วขนาด 16GB DDR5 Bus 5200 MHz เป็น 8GB จำนวน 2 แถว ที่รองรับการใช้งานได้แบบสบายชัวร์ๆ ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB จำนวน 1 ตัว แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มี SSD Slot เพิ่มการอัปเกรด ด้านระบบระบายความร้อนก็จะเป็นระบบ Cooler Boost 5 ซึ่งเน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นกว่าปกติทั่วไป โดยจะมีช่องระบายความร้อนทั้งหมดถึง 3 ช่อง เป็นด้านหลัง 2 ด้านข้างซ้ายอีก 1 ช่อง พร้อม Heat Pipe แบบใหม่ที่มีการเชื่อมต่อกัน

Performance / Software

โดย MSI Pulse 15 รุ่นที่รีวิว มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพดีของรุ่นปีก่อน เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบาอย่าง Intel Core i7-13700H ที่เป็นรุ่นยอดนิยมของ Gaming Notebook ในปีนี้ ซึ่งสามารถเอาไปใช้งานหนักๆ  ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง ก็ทำได้ลื่นไหล โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.00 GHz เป็นการทำงานแบบ P-Core และ E-Core แบ่งเป็น 14 Core 20 Threads โดยมีค่า TDP 45W

การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Iris Xe Graphics ตามปกติของ Core i ไว้ใช้งานทั่วไป อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4060 (6GB GDDR6) ค่า TGP ตามสเปกคือ 140W ซึ่งก็ถือว่าให้กำลังไฟกว่าหลายๆ รุ่น ใน Gaming Notebook รุ่นใกล้ๆ กัน แต่ก็ร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ได้ประสิทธิภาพสูง รองรับ DLSS3 + Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i7-13700H คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจสม กับเป็นชิปประมวลผลแบบไฮบริดคอร์ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดก็ตาม ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ เช่นการต่อต่อวีดีโอโปรเซสไฟล์ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องเป็น SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB มาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 เมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD ทั่วไป ก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 4172 MB/s และเขียนที่ 1741 MB/s (แอบน้อยไปนิด) สมกับเป็น SSD ที่ติดตั้งบน Gaming Notebook ระดับกลางค่อนสูง ถือว่าน่าพอใจ

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 7877 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลยุคใหม่ ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปด้วย ก็พอได้เลย

สำหรับคะแนนในการเล่นเกมจากการทดสอบการ์ดจอแยกด้วยโปรแกรม 3D Mark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 10745 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Full HD ได้ 175+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ รองรับการเล่นเกม 3 มิติขั้นสูง หรือทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อนได้เทียบเท่าการ์ดจอ PC Desktop ได้เลยล่ะ

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 2042 / Forza Horizon 5 / GTA V / SCUM ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ด้วยหน้าจอสวยงาม ซึ่งให้ความเรียบเนียน ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 128 – 164 แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหล ทำให้เราได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มอารมณ์

เกมออนไลน์ใช้ทรัพยากรน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด ที่ 206 – 263 กรณีเราใช้เล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync จะดีกว่า เครื่องก็จะได้ไม่ทำงานเต็มที่ตลอดเวลา สรุปแล้ว MSI Pulse 15 ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ กับสเปกการ์ดจอ RTX 4060 ส่วนตัวถ้าเลือกเป็น i9-13900H ก็น่าจะลื่นไหลมากกว่านี้

MSI Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า คือ ใช้งานสะดวกและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัพเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ และสามารถดูสภานะการทำงานได้ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Pulse 15 มีความจุที่สูง 90Whr ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำเหลือ 10% พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ  7 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ จากเครื่องสเปกที่แรงขั้นสุด

ด้านการทดสอบอุณหภูมิสำหรับ MSI Pulse 15 เครื่องนี้ที่ให้ฮีทไปป์มาทั้งหมด 3 เส้น Cooler Boost 5 ได้พัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 3 ช่อง เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดีมากเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ  40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมด Cool Boots เร่งรอบพัดลมสูงสุดไว้

ชิปประมวลผล i7-13700H ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark และเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียสไม่เกินจากนี้ จัดว่าค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแล้ว และการ์ดจอแยกอย่าง RTX 4060 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีมาก ร้อนสุดที่ 93 องศาเซลเซียส ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว

Facebook
Facebook
YouTube
Instagram