รีวิว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport สเปก i9-13900H + RTX 4070 จอ OLED UHD+ บางเบาพรีเมียมสุดๆ

Last Updated on 10/18/2023 by admin

รีวิว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport

สเปก i9-13900H + RTX 4070 จอ OLED UHD+ บางเบาพรีเมียมสุดๆ

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport สเปกจัดเต็ม i9-13900H + RTX 4070 จอ OLED UHD+ เบา 1.88 โล บาง 19.9 มม ลำโพง 6 ตัว ของบันเดิลก็เป็น AMG แบบพรีเมียม เรียกได้ว่าเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญของ MSI และ Mercedes-AMG ที่นำเสนอ Gaming Notebook ที่ได้ความพรีเมียมแตกต่าง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ได้ทั้งสเปกที่ใหม่ล่าสุดและดีไซน์เฉียบล้ำ อย่างที่หาไม่ได้ในรุ่นอื่นๆ ในตลาด กับราคาล่าสุด 94,990 บาท ได้ของบันเดิลพรีเมียมากมาย

MSI Stealth 16

สัมผัสขั้นสูงสุดของความเร็วและความหรูหรา MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport รุ่นใหม่มาพร้อมการออกแบบอันเหนือระดับ กับสี Selenite Grey ที่เป็นสีพิเศษของรถ Mercedes-AMG ประดับความเท่ด้วยลวดลาย AMG Rhombuses สุดพิเศษบนตัวเครื่องที่ทำจาก Magnesium-Aluminum Alloy การออกแบบอันเรียบหรูนี้ เป็นสิ่งที่นำเสนอเป็นอย่างดีถึงความพรีเมียมในการร่วมมือกันระหว่าง Mercedes-AMG และ MSI อย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นกันบ่อยๆ

VDO Review

AdminPong Verdict

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport ติดตั้งการ์ดจอแยก Gaming ตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4070 (8GB GDDR6) TGP 105W เน้นทั้งประสิทธิภาพที่ดี มีฟีเจอร์ในกาiเล่นเกมที่ช่วยให้ดีขึ้น รวมไปภึงการทำงาน 3 มิติขั้นสูง ส่วนหน่วยความจำแรมเป็นขนาด 32GB DDR5 Bus 5200MHz ส่วนที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 2TB ตอบสนองได้ทั้งพื้นฐาน หรืองานระดับมืออาชีพ รวมถึงเล่นเกม 3 มิติได้อย่างลื่นไหล

โดย MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 16″ พาเนล OLED แบบ UHD+ ได้ P3 100% ทำงานค่าสีระดับมืออาชีพ ที่เน้นความบางเบาหรูหรา ซึ่งต่อยอดมาจาก MSI Stealth รุ่นก่อนๆ ด้วยวัสดุ Magnesium-Aluminum Alloy สีสันตัวเครื่อง Selenite Grey โดดเด่นทุกๆ สัดส่วน พร้อมด้วยไฟคีย์บอร์ด Per-Key RGB ที่สวยงาม พร้อมติดตั้งลำโพง Dynaudio แบบ 6 ตัว ให้เสียงดีแน่นอน โดยแบตมีความจุใหญ่ที่ 99.9 Whr ใช้ได้นาน

MSI Stealth 16

นอกจากนี้ดีไซน์ก็โดดเด่น พร้อมได้ฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบระบายความร้อน Cooler Boots พอร์ตครบครันอย่าง Thunderbolt 4 และอื่นๆ มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6E และ LAN เป็น Killer ที่ปรับแต่งจัดลำดับได้ ส่วนเว็บแคมที่เลื่อนปิดเปิดได้ เป็น FHD ได้ IR Camera มาให้ใช้งานสแกนใบหน้า และ Fingerprint ในการสแกนนิ้วก็มีมาให้ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ใช้งานได้ทันทีและซอฟต์แวร์ MSI Center ช่วยปรับแต่งต่างๆ ในการใช้งาน

MSI Stealth 16

เรียกได้ว่าเป็นการนำเสนอ Gaming Notebook สายบางเบาช่วงงบประมาณไม่เกิน 100,000 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ที่สเปกเหมือนๆ กัน แต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่ Gaming Notebook ทั่วไปไม่สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานแบบนี้ได้ อย่างไรก็ตามในการเล่นเกม ปรับมาเป็นความละเอียดในเกมเป็น QHD+ จะได้ความลื่นไหลกว่า รวมไปถึงยังคงได้ Card Reader ที่ได้มาเป็น micro-SD Card ซึ่งถ้าได้เป็น SD Card Reader น่าจะเหมาะสมกว่า

จุดเด่นที่ใช้แล้วชอบ

  • ความพิเศษของเครื่องที่โดดเด่น จากการที่เป็นรุ่นพิเศษ MSI x AMG
  • ดีไซน์พรีเมียมจากวัสดุแม็กนีเซียม มีความบางเบากว่า Gaming Notebook ทั่วไป
  • สเปกแรงแบบตัวท็อปด้วย Core i9-13900H + GeForce RTX 4070 (มี Mux Switch)
  • สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มทั้งแรมขนาด 32GB และ SSD ความจุ 2TB (อัปเกรดได้อีก 1 Slot ทันที)
  • หน้าจอพาเนลเกรดดีที่สุด OLED สีสดใส ความสว่างสูง ความละเอียด UHD+ ค่าสี P3 100%
  • ติดตั้งลำโพง Dynaudio เสียงดี 6 ตัว ได้ประสบการณ์เสียงที่ดีมากๆ ในทุกๆ การใช้งาน
  • มีระบบ IR Camera สแกนใบหน้า + Fingerprint แสกนนิ้ว เพื่อความสะดวกและปลอดภัย
  • คีย์บอร์ด SteelSeries ใช้งานได้ดีเยี่ยม พร้อมมีไฟ RGB แบบ Per-key ได้ทัชแพดใหญ่ขึ้น
  • อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าจัดการได้ดี มีความสเถียร ด้วย Cooler Boost 5 แบบใหม่
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน และมี Thunderbolt 4 ใช้ได้ Full Function รองรับทุกๆ อย่าง
  • เว็บแคมความละเอียด Full HD ให้ความคมชัดพร้อมม่านเลื่นเปิดปิดได้
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 7 ชั่วโมง พร้อมชาร์จไฟผ่าน Thunderbolt 4 ได้
  • มาพร้อม Windows 11 Home และ Office Home & Student 2021 ใช้งานได้ทันที
  • ประกัน 3 ปี ถือว่าให้มากกว่า MSI Notebook รุ่นอื่นๆ
  • จัดว่าน่าซื้อมาใช้งานมากๆ ทั้ง Gaming / Creator หรือแฟนของรถ Mercedes-AMG

ข้อควรรู้ก่อนซื้อ

  • ถ้าได้จอเป็นความละเอียด 3.2K แล้วได้ Refresh Rate ที่ 120 – 165Hz น่าจะดีกว่า
  • ในการเล่นเกม ปรับมาเป็นความละเอียดในเกมเป็น QHD+ จะได้ความลื่นไหลกว่า
  • Card Reader ที่ได้มาเป็น micro-SD Card ถ้าได้เป็น SD Card น่าจะเหมาะสมกว่า

Specification

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport จัดว่าเป็น Gaming Notebook บางเบา พร้อมตอบโจทย์การทำงาน เพื่อมารองรับประสิทธิภาพที่แรงกว่าเดิม จากการเลือกใช้งานโดยชิปประมวลผลสูงสุดเป็น Core i Gen 13H TDP 45Watt รุ่น i9-13900H ที่จัดว่าแรงลื่น เทียบเคียง i7-13700HX มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนๆ และการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 4070 กับค่า TGP 105W ซึ่งนอกจากสเปกที่น่าสนใจแล้ว ยังมีของบันเดิลมากมายด้วย

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13VG-269TH ราคา 94,990 บาท
กดสั่งซื้อพร้อมรับข้อเสนอ
https://shope.ee/7KUB9hQ9IA

  • CPU : Intel Core i9-13900H (14C/20T & 1.9 – 4.1GHz + 2.6 – 5.4 GHz)
  • GPU : Iris Xe + GeForce RTX 4070 (8GB GDDR6)
  • RAM : 32GB DDR5 Bus 5200MHz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 2TB
  • DISPLAY: 16″ OLED UHD+ (3840 x 2400px)
  • OS : Windows 11 Home
  • Software : Microsoft Office Home & Student 2021
  • Warranty : 3 Years (1Y Intel + 2 Year Thailand)

รับฟรีภายในกล่อง

  • MSI x AMG Pouch มูลค่า 2,000 บาท
  • MSI x AMG Dual Drive 128GB มูลค่า 1,400 บาท
  • MSI x AMG RGB Gaming Mouse M99 Pro มูลค่า 1,590 บาท
  • MSI x AMG Mousepad มูลค่า 990 บาท
  • MSI x AMG Cable Tie มูลค่า 190 บาท
  • MSI x AMG Postcard มูลค่า 100 บาท

Hardware / Design

สำหรับดีไซน์ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport ให้เรียบหรูดูพรีเมียม กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีสันเงินด้านอย่าง Selenite Grey ที่เป็นสีพิเศษ ตลอดทั้งตัวเครื่อง แตกต่างจาก Gaming Notebook ของทาง MSI รุ่นอื่นชัดเจน ให้กลายเป็นสีเดียวกัน เน้นเรื่องความพรีเมียมเรียบง่าย สมกับฉายา Stealth แน่นอนว่าจะเอาไปเล่นเกมก็ดุดัน จะเอาไปทำงานก็ลงตัวทีเดียว แป้นคีย์บอร์ดมีขนาดกำลังพอดี ใช้งานกดสะดวกพร้อมไฟคีย์บอร์ดปรับสี RGB แบบ Per-key ผ่านทางซอฟต์แวร์ และไฟ LED ที่ท้ายตัวเครื่อง

ที่สำคัญคือให้ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปชัดเจนสุดๆ ติดตั้งทัชแพดมีขนาดใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับมิติตัวเครื่อง เป็นลักษณะผืนผ้าออกแนวยาวๆ ดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่องตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นแม็กนีเซียมอัลลอยด์ที่สวยงาม ทนทาน และพรีเมียม แตกต่างจากอะลูมินียมในรุ่นอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก พร้อมลายละเอียดธงลายหมากรุกในหลายๆ ส่วน

ที่สำคัญยังมีรายละเอียดอื่นๆ ทั้งไฟด้านหลังตัวเครื่อง และโลโก้ MSI x Mercedes-AMG อยู่หลายตำแหน่งของเครื่องถ้าฝาหลังด้านใน ส่วนขอบหน้าจอมุมซ้ายขวาก็มี AMG ที่ด้านซ้าย และ MSI ที่มุมขวา ให้ความแตกต่างจาก MSI Notebook รุ่นอื่นๆ อีกด้านฐานล่างตัวเครื่องดูแล้วเป็นหนึ่งด้วยกับตัวเครื่องกับงานประกอบที่เรียบร้อย พร้อมมียางรองช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี สมกับเป็น Notebook รุ่นระดับบนรุ่นพิเศษของแบรนด์

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ด MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport ต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไป จากการที่ใช้ไฟ RGB แบบ Per-key จาก SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่ไฟ RGB สามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macro Keys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน MSI Centerได้ด้วยเช่นกัน แน่นอนมีแป้น Numpad ด้วย แต่ก็อาจจะแคบหน่อย จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่เล็ก

ทัชแพดมีขนาดใหญ่ ถ้าเทียบกับรุ่นปีก่อนๆ  โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง แต่สัมผัสจะให้ความลื่นไหลมากกว่า ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี  พร้อมรองรับ Multi Gesture ลื่นไหล ทำงานร่วมกับ Windows 11 Home ได้เป็นอย่างดี และ Fingerprint ก็มีการติดตั้งไว้ข้างๆ กันด้วย

Screen / Speaker

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport มีหน้าจอแสดงผลขนาด 16″ ความละเอียด UHD+ (3840 x 2400px) รองรับ Refresh Rate ที่ 60Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลกว่าพร้อมได้เป็นพาเนล OLED คุณภาพสูง โดยให้มุมมองที่กว้าง สีสันก็สดใส เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับกางสุดได้ถึง 180 องศา พร้อมติดตั้งเว็บแคมแบบ 1080p มีชัตเตอร์เลื่อนปิดเปิดได้ และไมโครโฟนขอบด้านบน พร้อม IR Camera

ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอที่มากับเครื่อง กับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ใช้หน้าจอพาเนล OLED ที่นับว่าเป็นพาเนลที่ดีที่สุด ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder X Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์เอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรตก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลง จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย โดยได้ค่าขอบเขตสี sRGB 100% / AdobeRGB 97% / DCI-P3 100%

ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 500 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐาน ความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง ก็จะเห็นได้ว่าช่องมุมขวาล่างมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมซ้ายล่างจะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 6% และค่าคลาดสีเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 0.75 สำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไรนัก ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.5 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เอาไปใช้งานสาย Creator แบบมืออาชีพมั่นใจได้ หรือจะใช้งานทั่วไปก็นับว่าเป็นหน้าจอที่ดีมากๆ

ระบบเสียงก็น่าประทับใจมาก ด้วยลำโพงแบบ 6 ตัว (2x 2W Speaker / 4x 2W Woofer) แบรนด์ชั้นนำอย่าง Dynaudio คุณภาพดีที่ทาง MSI ใช้งานมาอย่างยาวนาน โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุน VR และ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก

Connector / Thin and Weight

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 16″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 1 ช่อง, USB 3.2 Type-C จำนวน 1 ช่อง รองรับการเชื่อมต่อ DisplayPort และ Thunderbolt 4 จำนวน 1 ช่อง แบบ Full Function ซึ่งรองรับการใช้งานที่ครบถ้วนทั้งชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูล, พร้อมด้วย HDMI 2.1 เพื่อเชื่อมต่อหน้าจอภายนอก รวมไปถึงมี micro-SD Card อีกด้วย อย่างไรก็ตามก็เสียดายที่ว่า Card Reader น่าจะเป็น SD Card น่าจะได้ใช้มากกว่าสำหรับคนที่ใช้กล้องหลัก

พร้อมด้วยพอร์ต Killer Gb LAN (Up to 2.5G) เชื่อมต่อไร้สายด้วย Intel Killer AX Wi-Fi 6E + Bluetooth 5.3 ที่เรียกได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนอีกหนึ่งรุ่น แต่พอร์ตถ้าให้ดีกว่า กรณีของ Thunderbolt 4 ถ้าได้มาเป็น 2 พอร์ตเลยจะดีมากๆ ส่วนของการพกพาก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 1.88 กิโลกรัม ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 240 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่ารุ่นก่อนๆ เลยทีเดียว รวมๆ กันแล้วหนักเพียง 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบาย

Inside / Upgrade

การแกะอัปเกรดต้องแกะฝาล่าง MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport ซึ่งการแกะฝาล่างนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงไขน๊อตประมาณ 10 ตัว โดยเมื่อแกะออกมาแล้ว ก็จะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในทั้งหมด ติดตั้งแรมมาแล้วขนาด 32GB DDR5 Bus 5200 MHz เป็น 16GB จำนวน 2 แถว (Max 64GB) ที่รองรับการใช้งานได้แบบสบายชัวร์ๆ โดยมีกรอบโลหะครอบเอาไว้อยู่ ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ /TB จำนวน 1 ตัว พร้อมมี Slot อัปได้อีก 1 ตัวทันที และ แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ และลำโพง 6 ตัวคุณภาพสูง ที่ติดตั้งไว้ฝั่งละ 3 ตัว

ในส่วนของระบบระบายความร้อนก็จะเป็นระบบ Cooler Boost 5 ซึ่งเน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นกว่าปกติทั่วไป โดยจะมีช่องระบายความร้อนทั้งหมดถึง 4 ช่อง เป็นด้านหลัง 2 ด้านข้างซ้ายและขวาอีก 2 ช่อง พร้อม Heat Pipe แบบใหม่ที่บางพิเศษ จำนวน 5 เส้นที่มีการเชื่อมต่อกัน ส่งผลในการใช้งานแบบ Full Load ทำได้อย่างเสถียรภาพสูง ซึ่งการแกะฝาล่างของ MSI Notebook สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุดแต่อย่างใด ขอแค่ว่าอย่าแกะจนเกิดความเสียหายก็พอ รวมไปถึงการใส่กลับด้วย

Performance / Software

โดย MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ตัวแรง อย่าง Intel Core i9-13900H ที่เป็นรุ่นแรงสุดของ TDP 45W ซึ่งสามารถเอาไปใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง ก็ทำได้ลื่นไหล โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.90 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.40 GHz เป็นการทำงานแบบ P-Core และ E-Core แบ่งเป็น 14 Core 20 Threads

การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Iris Xe Graphics ตามปกติของ Core i อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4070 (8GB GDDR6) ค่า TGP ตามสเปกคือ 105W ซึ่งแรงกำลังดีกับ Gaming Notebook ที่ดีไซน์บางเบา ได้ความร้อนที่ควบคุมได้ดี เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ได้ประสิทธิภาพสูง รองรับ DLSS3 + Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i7-13700H คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจสม กับเป็นชิปประมวลผลแบบไฮบริดคอร์ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดก็ตาม ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องเป็น SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 2TB มาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 เมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD ทั่วไป ก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 5097 MB/s และเขียนที่ 4940 MB/s สมกับเป็น SSD ที่ติดตั้งบน Gaming Notebook ระดับกลางค่อนสูง ถือว่าน่าพอใจ

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 8248 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลยุคใหม่ ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปด้วย ก็ทำได้ลื่นไหล

สำหรับคะแนนในการเล่นเกมจากการทดสอบการ์ดจอแยกด้วยโปรแกรม 3D Mark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 12686 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Quad HD ได้ 120+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ รองรับการเล่นเกม 3 มิติขั้นสูง หรือทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อนได้เทียบเท่าการ์ดจอ PC Desktop ได้เลยล่ะ

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 2042 / Forza Horizon 5 / GTA V / SCUM ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ด้วยหน้าจอสวยงาม ซึ่งให้ความเรียบเนียน ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 90 – 138fps แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหล ทำให้เราได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มอารมณ์

เกมออนไลน์ใช้ทรัพยากรน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 187 – 195 กรณีเราใช้เล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync จะดีกว่า เครื่องก็จะได้ไม่ทำงานเต็มที่ตลอดเวลา สรุปแล้ว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport กับ Gaming Notebook บางเบา ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ ซึ่งก็ถือว่าลื่นพอกับ Hz หน้าจอแล้ว

MSI Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนๆ คือ ใช้งานสะดวก สามารถช่วยเหลือ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว พร้อมได้ธีมที่เข้ากับตัวเครื่อง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ และสามารถดูสภานะการทำงานได้ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport มีความจุที่สูง 99.9Whr ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำเหลือ 10% พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขได้ราวๆ 7:15 ชั่วโมง ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ จากเครื่องสเปกที่แรงขั้นสุด

ด้านการทดสอบอุณหภูมิสำหรับ Gaming Notebook เครื่องนี้ที่ให้เป็น Cooler Boost 5 ได้พัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ พร้อม Heat Pipe เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดี มีความสเถียรมาก เมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ  30 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมด Cooler Boots เร่งรอบพัดลมสูงสุดไว้

ชิปประมวลผล i9-13900H ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark และเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียสไม่เกินจากนี้ จัดว่าค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแล้ว และการ์ดจอแยกอย่าง RTX 4070 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีเท่าที่ได้ กับร้อนสุดที่ 102 องศาเซลเซียส ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว

Facebook
Facebook
YouTube
Instagram