Last Updated on 11/13/2024 by admin
รีวิว MSI Prestige A16 AI+ สเปก Ryzen AI 9 365 + Radeon 880M
จอ QHD+ @165Hz, P3 100% ราคา 50,990 บาท
MSI Prestige A16 AI+ เป็นโน๊ตบุ๊ค AI PC รุ่นใหม่ที่เป็น Copilot+ PC สาย Creator & Productivity ตัวจริง โดยมีความสดใหม่ ซึ่งใช้เป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series รุ่นล่าสุดอย่าง Ryzen AI 9 365 ตัวแรงตัวล้ำ มี NPU ในตัว ให้ประสิทธิภาพกว่า 50 TOPS (Total 73 TOPS) สามารถประมวลผลด้าน AI ได้อย่างรวดเร็ว โดยพัฒนาให้ใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Copilot พร้อมเพิ่มปุ่ม ซึ่งเป็น AI ของ Microsoft บน Windows 11 Home หน้าจอ 16″ QHD+ ที่เบาเพียง 1.9 กิโลกรัม บางเฉียบ 16.85 มิลลิเมตร ได้สีสัน Urban Silver โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพและฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากมาย
อีกทั้งได้การ์ดจอออนชิปตัวแรง Radeon 880M ที่มีความแรงมากกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมแรมขนาด 32GB LPDDR5x Bus 7500Hz และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ที่ 1TB จัดเต็ม อีกทั้งได้หน้าจอแสดงผลด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้มากยิ่งขึ้น พาเนล IPS ความละเอียด 2560 x 1600px ลื่นไหลที่ 165Hz ค่าขอบเขตสีมาตรฐาน DCI-P3 ที่ 100% สามารถกางจอได้ 180 องศา และ Filp & Share ได้ พร้อมด้วยฟีเจอร์สแกนนิ้ว สแกนใบหน้า IR เว็บแคม FHD มีแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน ที่สำคัญคือได้ระบบระบาย Dynamic Cooler Boost ทำให้การใช้งานมีความสเถียรสูง รองรับการใช้ต่อเนื่อง
การเชื่อมต่อ MSI Prestige A16 AI+ ครบครันด้วย USB-C 4.0 x 2 และ Wi-Fi 7 + BT 5.4 สนับสนุนทั้งทำงานมืออาชีพและเล่นเกมที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ มี Windows 11 Home และ MSI Center S ช่วยจัดการ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI ที่จัดเต็ม อย่างความทนทานระดับ Military Grade และมี Enterprise-Grade Security เหมาะกับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นความแรงลื่นและสีสันเที่ยงตรงในน้ำหนักตัวเครื่องเบา พกพาสะดวก ประกัน 2 ปี เรียกว่าเป็น AI PC รุ่นใหม่ที่เป็นอีกหนึ่ง Copilot+ PC สเปก AMD Ryzen AI 300 ที่น่าสนใจจริงๆ ในราคาที่ไม่แพงเลย
VDO Review
AdminPong Verdict
MSI Prestige A16 AI+ เหมาะกับคนทำงานสายงานหลากหลาย ทั้งงานทั่วไป รวมไปถึงงาน Content Creator ไม่ว่าจะเป็น Youtuber / กราฟิกดีไซน์เนอร์ / ช่างภาพ / ช่างวีดีโอ / นักตัดต่อวีดีโอ อีกทั้งคนที่ต้องการ Notebook ที่ดีดูพรีเมียม น่าเชื่อถือ ซึ่งได้ฟีเจอร์ครบถ้วนกว่า Notebook ทั่วไป ช่วยให้การทำงานด้านประมวลผลงาน 3 มิติ หรือเล่นเกมได้ลื่นไหล เทียบเท่าการ์ดจอแยก ที่นอกจากชิปประมวลผลที่แรงและล้ำแล้ว ยังได้แรมและที่เก็บข้อมูลที่จัดเต็มกว่า พร้อมด้วยฟีเจอร์สแกนนิ้ว Fingerprint และสแกนใบหน้า IR เว็บแคมเป็น FHD ที่คมชัด ด้วย AI ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ต่างๆ ตัวเครื่องความทนทานระดับ Military Grade ที่มั่นใจ
การเชื่อมต่อ MSI Prestige A16 AI+ ครบครันด้วย USB-C 4.0 แบบ Full Function ให้มา 2 พอร์ต และ Wi-Fi 7 + BT5.4 ที่จัดว่าใหม่สุดดีที่สุด สนับสนุนทั้งงานมืออาชีพและเล่นเกมที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊กบางเบารุ่นอื่นๆ มีการติดตั้ง Windows 11 Home พร้อมใช้งาน อีกทั้งมีการติดตั้ง Office Home & Student 2021 ได้ โปรแกรม Word, Excel, Power Point มาให้ทันที และ MSI Center S เวอร์ชั่นใหม่ช่วยจัดการ อีกทั้งได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI และมี Enterprise-Grade Security เหมาะกับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คทำงาน Productivity / Creator ที่เน้นความแรงลื่นและสีสันเที่ยงตรงในน้ำหนักตัวเครื่องเบา พกพาสะดวก ในราคาที่เหมาะสม ช่วง 50,000 บาท
จุดเด่นที่ใช้แล้วชอบ
- ชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 300 แรงล้ำใหม่ล่าสุด มี NPU รองรับ AI ยุคใหม่
- มีการ์ดจอออนชิป Radeon 800M รุ่นใหม่ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งทำงานและเล่นเกม
- ได้สเปกอื่นๆ จัดเต็ม กับแรมขนาด 32GB และที่เก็บข้อมูล SSD 1TB ใช้ยาวๆ
- จอคุณภาพสูง ขนาดพอดี ที่ความละเอียดสูง ลื่นไหล ขอบเขตสีแบบมืออาชีพ
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม มีความบาง ได้ความพรีเมียม เบาเพียง 1.9 กิโลกรัม
- บานพับแข็งแรง พร้อมกางหน้าจอได้ 180 องศา มีปุ่ม F12 เพื่อ Flip&Share
- ระบบระบายความร้อนทำงานแบบ Full Load ได้ต่อเนื่อง ตัวเครื่องเย็นกว่า
- แบตใช้งานได้ยาวนาน 11 ชั่วโมง พร้อมได้อแดปเตอร์ 100W เป็น USB-C
- คีย์บอร์ดกดใช้งานได้ดีกว่า Notebook บางเบาทั่วไป จากระยะกด 1.7 ม.ม.
- มีระบบสแกนนิ้ว Fingerprint และ IR Camera สแกนใบหน้าในเครื่องเดียว
- เว็บแคมเป็น FHD มีม่านเปิด-ปิดด้วย พร้อมไมค์ 3 ตัว VDO Call ได้ดีกว่า
- มีเซ็นเซอร์ Proximity ทำหน้าที่ตรวจจับล็อตเครื่องอัตโนมัติ เมื่อเราไม่อยู่
- เป็น Notebook ที่ได้พอร์ตครบอย่าง USB 4.0 x 2 + USB-A + HDMI
- ได้การเชื่อมไร้สาย Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 เป็นมาตรฐานใหม่ดีที่สุด
- ซอฟต์แวร์ MSI Center S หน้าตาดูดีขึ้น ใช้งานปรับแต่งก็ง่ายยิ่งขึ้นด้วย
- ตัวเครื่องมีความเข็งแรงทนทานกับการใช้งานมาตรฐาน Military Standard
- มาพร้อมชุดโปรแกรม Office Home & Student 2021 ใช้งานติดเครื่อง
ข้อควรรู้ก่อนซื้อ
- เป็น Notebook จอ 16″ สายทำงาน ที่ไม่ได้บางและที่สุดในตลาด
- ยังได้เป็น micro-SD Card Reader ไม่ใช่ SD Card ตัวเต็ม
- แรมเป็นแบบออนบอร์ดมาเลย ไม่สามารถอัปเกรดเพิ่มได้
Specification
MSI Prestige A16 AI+ A3HMG-052TH ราคา 50,990 บาท
กดลิ้งค์สั่งซื้อได้ที่ https://s.shopee.co.th/qRwrkQJ1M
- CPU : AMD Ryzen AI 9 365 (10C/20T, Up to 5.0GHz)
- GPU : AMD Radeon 880M (12C, 2900 MHz)
- NPU : Up to 50 TOPS (Total 73 TOPS)
- RAM : 32GB LPDDR5x Bus 7500 MHz
- DISPLAY: 16″ IPS QHD+ @165Hz, P3 100%
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 1TB
- OS : Windows 11 Home
- Software : Office Home & Student 2021
- Warranty : 2 Years (1Y Intel / 1Y Thailand)
Hardware / Design
สำหรับดีไซน์ MSI Prestige A16 AI+ เป็น AI PC เรียบหรูดูพรีเมียม กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับสีสัน Urban Silve rวัสดุตัวเครื่องทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ตลอดทั้งตัวเครื่อง แตกต่างจาก Gaming Notebook ของทาง MSI รุ่นอื่นๆ ชัดเจน เน้นเรื่องความพรีเมียมเรียบง่าย สมกับฉายา Prestige แน่นอนว่าจะเอาไปทำงานทั่วไปและ AI ก็ลงตัว หรือจะเอาไปทำงาน Creator ก็เหมาะสม หรือหลังเลิกงานแล้ว จะเล่นเกมด้วยเครื่องเดียวกันนี้ ก็ถือว่าลื่นไหล แป้นคีย์บอร์ดมีขนาดกำลังพอดี ใช้งานกดสะดวกพร้อมไฟคีย์บอร์ดสีขาวให้ความดูดี ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมกว่ารุ่นทั่วไป
พร้อมติดตั้งทัชแพดมีขนาดใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับมิติตัวเครื่อง เป็นลักษณะผืนผ้าออกแนวยาวๆ ดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่องตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์เช่นกัน ได้ความทนทาน และพรีเมียม แตกต่างจากชิ้นงานพลาติกในรุ่นอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก ตัวเครื่องความทนทานระดับ Military Grade อาทิ ทนต่อการ ตกกระแทก ฝุ่นละเอง ความร้อนความเย็นความชื้น พกพาไม่ไหนมาไหนใช้งานนอกสถานทีมั่นใจได้
ในแง่ของการพกพา MSI Prestige A16 AI+ โดดเด่นด้วยการมีตัวเครื่องเบาเพียง 1.9 กิโลกรัม บางเฉียบ 16.85 – 18.95 มิลลิเมตร กับการที่เป็น Notebook สเปกแรง มีการ์ดจอแยก ที่สำคัญยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกด้านฐานล่างตัวเครื่องดูแล้วเป็นหนึ่งด้วยกับตัวเครื่องกับงานประกอบที่เรียบร้อย พร้อมมียางรองช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี สมกับเป็น Productivity / Creator Notebook ปี 2024 รุ่นระดับบนของแบรนด์ เหมาะกับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสายสร้างสรรค์และ AI ที่เน้นความแรงลื่น
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ด MSI Prestige A16 AI+ ต้องบอกว่าแตกต่างจาก Notebook ทั่วไป กับการตอบสนองได้ดี โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด โดยมีระยะกดที่ 1.7 มิลลิเมตร ที่ลึกเหมือน Gaming ไฟส่องสว่างสีขาว ให้ความพรีเมียมและใช้งานง่ายในที่แสงน้อย รวมไปถึงมีปุ่ม Hot-key ต่างๆ ที่ปุ่ม Fn แถวบน พร้อมปรับแต่งซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน MSI Center S ได้ด้วยเช่นกัน แน่นอนมีแป้น Numpad ด้วย ใช้งานสะดวก จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่เล็ก เป็น Notebook ที่ดีไซน์บานพับให้กางหน้าจอได้ 180 องศา มีปุ่ม Flip&Share ที่ปุ่ม F12
ทัชแพดมีขนาดใหญ่ ถ้าเทียบกับรุ่นปีก่อนๆ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง แต่สัมผัสจะให้ความลื่นไหลมากกว่า ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี พร้อมรองรับ Multi Gesture ลื่นไหล ทำงานร่วมกับ Windows 11 Home ได้เป็นอย่างดี โดยปุ่ม Power อยู่ที่มุมขวาบน ส่วนปุ่ม Fingerprint มีการติดตั้งไว้ที่มุมซ้ายล่างของคีบ์บอร์ด
Screen / Speaker
MSI Prestige A16 AI+ มีหน้าจอแสดงผลขนาด 16″ ความละเอียด QHD+ (2560 x 1600px) รองรับ Refresh Rate ลื่นไหลที่ 165Hz ทำให้ภาพความลื่นไหลตามมาตรฐาน ได้เป็นพาเนล IPS คุณภาพสูง โดยให้มุมมองที่กว้าง สีสันก็สดใส เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี พร้อมติดตั้งเว็บแคมแบบ FHD (1080p) มีชัตเตอร์เลื่อนปิดเปิดได้ และไมโครโฟนจำนวน 2 ตัว ขอบด้านบน พร้อมโมดูลต่างๆ อาทิ IR Camera สแกนใบหน้าเข้าใช้งาน พร้อมมี Ambient Light Sensor / Proximity Sensor ติดตั้งไว้ที่ขอบขอด้านบนสุดอีกด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอที่มากับเครื่อง กับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานมืออาชีพ ที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ที่นับว่าเป็นพาเนลที่ดีเยี่ยม ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Calibrite Display Plus HL พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์เอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรตก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลง จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย โดยได้ค่าขอบเขตสีที่ไปได้ถึงระดับ sRGB 145% / AdobeRGB 99.9% / P3 102.7% ซึ่งถือว่าดีมากๆ
ระบบเสียงก็น่าประทับใจ ด้วยไมคโฟนตัวที่ 3 ที่ทำงานหน้าที่ร่วมกับอีก 2 ตัว เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ด้วยลำโพงแบบ 2 ตัว (2x 2W) คุณภาพดีที่ทาง MSI ใช้งานมาอย่างยาวนาน แม้จะไม่ใช้รุ่นที่มีลำโพงหลายตัวก็ตาม (แต่ก็ขาดเสียงทุ้ม) ติดตั้งไว้ที่ขอบตัวเครื่องด้านหน้า โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุนระบบ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก
Connector / Thin and Weight
MSI Prestige A16 AI+ เป็น Productivity / Creator Notebook หน้าจอ 16″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ติดตั้งไว้ที่ขอบตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 1 ช่อง, USB-C 4.0 จำนวน 2 ช่อง แบบ Full Function โอนถ่ายข้อมูลได้เร็วสุด 40Gbps พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ DisplayPort 1.4 รวมถึง Power Delivery 3.0 พร้อม HDMI 2.1 เพื่อเชื่อมต่อหน้าจอภายนอก รวมไปถึงมี micro-SD Card Reader เหมาะกับสายงานที่ได้ใช้งาน micro-SD Card บ่อยๆ อย่างเช่นกันดึงไฟล์จากเว็บ Action Cam / Drone / Smartphone แต่ได้ถ้าเป็น SD Card จะเหมาะกับช่างภาพช่างวีดีโอมากกว่า
เชื่อมต่อไร้สายด้วย Qualcomm FastConnect 7800 Wi-Fi 7 + Bluetooth 5.4 ได้ความสดใหม่ในเทคโนโลยี ที่เรียกได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนอีกหนึ่งรุ่น แม้ว่าจะขาดส่วนของ LAN RJ45 แต่ก็พอจะทดแทนด้วยการต่อกับ USB-C Hub ส่วนของการพกพาก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 1.9 กิโลกรัม ที่สำคัญอแดปเตอร์ USB-C จ่ายไฟที่ 100 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่ารุ่นก่อนๆ เลยทีเดียว (ชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ก็ได้) รวมๆ กันแล้วหนักเพียง 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้ MSI Prestige A16 AI+ เป็น Creator Notebook พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบายๆ เทียบกับความแรงที่ได้
Inside / Upgrade
การแกะอัปเกรดต้องแกะฝาล่าง MSI Prestige A16 AI+ ซึ่งการแกะฝาล่างนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงไขน๊อตแบบหัวแฉกประมาณ 10 ตัว โดยเมื่อแกะออกมาแล้ว ก็จะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในทั้งหมด ติดตั้งแรมมาแล้วขนาด 32GB LPDDR5x Bus 7500 MHz เป็น 16GB จำนวน 2 แถวแบบออนบอร์ด แน่นอนว่าอัปเกรดใดๆ ไม่ได้ ที่รองรับการใช้งานได้แบบสบายชัวร์ๆ ทั้งงานทั่วไป หรืองานประมวลผลหนักๆ โดยมีกรอบโลหะครอบเอาไว้อยู่ ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB จำนวน 1 ตัว 1 Slot เท่านั้น ซึ่งถ้าจะอัปเกรดความจุ ก็ต้องถอดของเดิมออกก่อน และแบตเตอรี่ความจุสูงที่ 82 Wh
ในส่วนของระบบระบายความร้อนก็จะเป็นระบบ Dynamic Cooler Boost ซึ่งเน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นกว่าปกติทั่วไป โดยจะมีช่องระบายความร้อนทั้งหมดถึง 2 ช่อง เป็นด้านหลัง ทำงานกับพัดลม 2 ตัว พร้อม Heat Pipe แบบใหม่ที่บางพิเศษ จำนวน 2 เส้นขนาดใหญ่ที่มีการเชื่อมต่อกัน ส่งผลในการใช้งานแบบ Full Load ทำได้อย่างเสถียรภาพสูง ซึ่งการแกะฝาล่างของ MSI Notebook สามารถทำได้ง่าย โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุดแต่อย่างใด ขอแค่ว่าอย่าแกะจนเกิดความเสียหายก็พอ รวมไปถึงการใส่กลับด้วย ฉะนั้นต้องทำด้วยความระวัง
Performance / Software
โดย MSI Prestige A16 AI+ มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง ด้วย AMD Ryzen AI 300 Series “Strix Point” สถาปัตยกรรม Zen 5 เทคโนโลยีการผลิตที่ 4 นาโนเมตร อย่าง Ryzen AI 9 365 ตัวแรงตัวล้ำ มี NPU ในตัว ให้ประสิทธิภาพกว่า 50 TOPS สามารถประมวลผลด้าน AI ได้อย่างรวดเร็ว โดยพัฒนาให้ใช้ร่วมกับฟีเจอร์ Copilot โดยมีความเร็วในการประมวลผลอเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5 GHz เป็นการทำงานแบบเป็น 10 Core 20 Threads แบ่งเป็น 4x Zen 5 , 6x Zen 5c เพื่อความแรงในการทำงานที่เหนือชั้นกว่า รวมไปถึงประหยัดพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยมไปพร้อมๆ กัน
อีกทั้งมี NPU อย่าง XDNA 2 ช่วยงานด้านเร่ง AI แบบออฟไลน์ ที่ความเร็ว 50 TOPS และเมื่อรวมกับ CPU + GPU จะเป็น 73 TOPS เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการประมวลผลสำหรับงานที่ใช้งาน AI มืออาชีพ ได้ความแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา การ์ดจอเป็นแบบออนชิป AMD Radeon 800M อย่าง Radeon 880M ตามเทคโนโลยี AMD Ryzen AI 300 Series เป็นสถาปัตยกรรมสถาปัตยกรรม RDNA 3.5 ทำงานแบบ 12 Core ที่ความเร็วสูงสุด 2900 MHz ที่แรงกว่าเทียบเท่าการ์ดจอแยก อีกทั้งยังประหยัดพลังงานด้วย ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่นยิ่งขึ้น
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 9 365 คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ กับเป็นชิปประมวลผลแบบไฮบริดคอร์ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดก็ตาม ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องเป็น SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB มาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 เมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD ทั่วไป ก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 5041 MB/s และเขียนที่ 3654 MB/s สมกับเป็น SSD ที่ติดตั้งบน Creator Notebook ระดับกลางค่อนสูง ถือว่าน่าพอใจ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 7601 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลยุคใหม่ ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปด้วย ก็ทำได้ลื่นไหล
สำหรับคะแนนในการเล่นเกมจากการทดสอบการ์ดจอแยกด้วยโปรแกรม 3D Mark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 3713 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Full HD ได้ 75+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ รองรับการเล่นเกม 3 มิติข หรือทำงาน 3 มิติ เทียบเท่าการ์ดจอแยกใน Gaming Notebook ได้เลยล่ะ
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Cyberpunk 20277 / GTA V / SCUM ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ด้วยหน้าจอสวยงาม ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 33 – 66 fps แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหลประมาณนึง ซึ่งถ้าอยากให้ลื่นกว่านี้ ปรับกราฟิกลดลงมาอีกก็ได้
เกมออนไลน์ใช้ทรัพยากรน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 41 – 85 fps กรณีเราใช้เล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync จะดีกว่า เครื่องก็จะได้ไม่ทำงานเต็มที่ตลอดเวลา สรุปแล้วเป็น Creator Notebook บางเบา ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ ซึ่งก็อาจะไม่ได้แรงเท่า Gaming Notebook ในช่วงราคาหรือสเปกพอๆ กัน
MSI Center S เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนๆ คือ ใช้งานสะดวก สามารถช่วยเหลือ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว พร้อมได้ธีมที่เข้ากับตัวเครื่อง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ และสามารถดูสภานะการทำงานได้ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Prestige A16 AI+ มีความจุที่สูง 82 Wh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำเหลือ 10% พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขได้ราวๆ 11 ชั่วโมง ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ดีกว่า Creator Notebook ที่เป็นรุ่นการ์ดจอแยกทั่วไป จากเครื่องสเปกที่แรงแบบนี้
ด้านการทดสอบอุณหภูมิสำหรับ Creator Notebook เครื่องนี้ที่ให้เป็น Dynamic Cooler Boost ได้พัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ พร้อม Heat Pipe เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดี มีความสเถียรมาก เมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมด Cooler Boots เร่งรอบพัดลมสูงสุดไว้
ทดสอบชิปประมวลผล AMD Ryzen AI 9 365 ด้วยโปรแกรม Benchmark และเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 96.5 องศาเซลเซียสไม่เกินจากนี้ จัดว่าจัดการได้ดี แต่ก็เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแล้ว และการ์ดจอออนชิป Radeon 880M นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีเท่าที่ได้ กับร้อนสุดที่ 88 องศาเซลเซียส ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจ