Last Updated on 05/23/2023 by admin
MSI Stealth 14 Studio จัดว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2023 ที่เพิ่งเปิดตัว สายบางเบาแต่แรงลื่นในการเล่นเกม 3 มิติ พร้อมได้การใช้งานระดับมืออาชีพแบบ Creator ซึ่งมีทั้งขนาดหน้าจอ 14″ กับความเบาเพียง 1.7 กิโลกรัม บางสุด 19 ม.ม. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่ที่ได้ความเบาพกพาสะดวก แต่ก็ยังแรงลื่นแบบ Gaming Notebook ตัวจริง ได้ทั้งสเปกที่ใหม่ล่าสุดและดีไซน์เฉียบล้ำ ซึ่งจะเอาไปทำงานแบบจอดีสีตรง หรือเล่นเกมได้ทั้งหมด
โดย MSI Stealth 14 Studio ใช้สเปกใหม่ล่าสุด ทั้งชิปประมวลผล Intel Core i Gen 13H (TDP45W) อย่าง Core i7-13700H ทำงานแบบ 14 Core / 20 Thread ที่ความเร็วสูงสุด 5.0GHz โดยมี P-Core และ E-Core โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพขั้นสูง ซึ่งมี Intel Thread Director ช่วยประมวลผลจัดการงาน กับงานที่หลากหลาย และการ์ดจอออนชิปที่ดีที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics เรียกได้ว่าแรงลื่นยิ่งกว่า Intel Core i Gen 12H ที่เจนก่อนได้อย่างน่าสนใจ
ติดตั้งการ์ดจอแยก Gaming ตัวแรงรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 40 อย่าง RTX 4050 (6GB GDDR6) TGP 90W เน้นทั้งประสิทธิภาพที่ดี มีฟีเจอร์ในการเล่นเกมที่ช่วยให้ดีขึ้น รวมไปภึงการทำงาน 3 มิติขั้นสูง ส่วนหน่วยความจำแรมเป็นขนาด 16GB DDR5 Bus 5200MHz (8GB x 2) ส่วนที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB ตอบสนองได้ทั้งพื้นฐาน หรืองานระดับมืออาชีพที่ซับซ้อน รวมถึงเล่นเกม 3 มิติได้อย่างลื่นไหล ทำทุกอย่างได้ในเครื่องเดียว
โดย MSI Stealth 14 Studio เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ พาเนลเป็น IPS เกรดสูงที่ QHD+ @240Hz ที่เน้นความบางเบาหรูหรา พร้อมได้ความแรงสุดๆ ซึ่งต่อยอดมาจาก MSI Stealth รุ่นก่อนๆ ด้วยวัสดุ Magnesium-Aluminum Alloy สีสันตัวเครื่อง Star Blue โดดเด่นทุกๆ สัดส่วน พร้อมด้วยไฟคีย์บอร์ด Per-Key RGB ที่สวยงาม พร้อมติดตั้งลำโพง Dynaudio แบบ 4 ตัว แบบ 4W x 2 / 2W x 2 ให้เสียงดีแน่นอน โดยแบตเตอรี่ก็มีความจุใหญ่ที่ 72Whr ใช้ได้หลายชั่วโมง
ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber พร้อมได้พอร์ตครบครันอย่าง Thunderbolt 4 และอื่นๆ มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Killer Wi-Fi 6E เป็น Killer DoubleShot Pro ส่วนเว็บแคมที่เลื่อนปิดเปิดได้ เป็น HD ได้ IR Camera มาให้ใช้งานสแกนใบหน้า มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ใช้งานได้ทันทีและซอฟต์แวร์ Creator Center เวอร์ชันใหม่ กับราคา 62,990 บาท ได้การรับประกัน 3 ปี พร้อมได้ของแถมเป็น Gaming Mouse
AdminPong Verdict
เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายบางเบาช่วงงบประมาณ 6x,xxx บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ที่สเปกเหมือนๆ กัน แต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่ Gaming Notebook ทั่วไปไม่สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานแบบนี้ได้ ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ Ultimate Performance พร้อมเพิ่มรอบพัดลมอัตโนมัติ จากการที่มีพัดลม 2 ตัวที่หมุนแบบรอบจัด แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว
สรุปจุดเด่นที่ชอบของ MSI Stealth 14 Studio
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-13700H แรงลื่น ทรงพลัง
- การ์ดจอแยก RTX 4050 (90W) พร้อม MUX Switch เพิ่มความแรงไปอีก
- ได้แรม 16GB DDR5 Bus 5200MHz และ SSD 1TB ลื่นไหลพร้อมใช้งาน
- ดีไซน์สวยงามถูกใจตามสไตล์ MSI Gaming งานประกอบแน่นวัสดุดีเยี่ยม
- เครื่องเบา 1.7 โล บาง 19 ม.ม. วัสดุ Magnesium-Aluminum Alloy
- โดดเด่นด้วยไฟ RGB สวยงามแตกต่าง ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- หน้าจอ 14″ พาเนล IPS คุณภาพสูง P3 ใกล้ 100% ที่ QHD+ @240Hz
- ติดตั้งลำโพง DynaAudio เสียงดี 4 ตัว ได้ประสบการณ์เสียงที่ดี
- มีระบบ IR Camera สแกนใบหน้าเข้าใช้งาน เพื่อความสะดวกและปลอดภัย
- คีย์บอร์ดใช้งานได้ดีเยี่ยม พร้อมมีไฟ RGB แบบ Per-key ได้ทัชแพดใหญ่ขึ้น
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าจัดการได้ดี ด้วย Vapor Chamber
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน และมี Thunderbolt 4 ใช้ได้ Full Function
- มาพร้อม Windows 11 Home ใช้งานได้ทันที
- ประกัน 3 ปี ถือว่าให้มากกว่า MSI Notebook รุ่นอื่นๆ
- ด้วยราคา 62,990 บาท จัดว่าน่าซื้อมาใช้งานมากๆ ทั้ง Gaming / Creator
ข้อควรรู้ก่อนซื้อ MSI Stealth 14 Studio
- ไม่มี SD Card Reader มาให้ ถ้าใครใช้งาน Creator ต้องหา USB-C Hub เพิ่ม
- แม้ว่าระบบระบายความร้อนจะดีมาก แต่ก็ยังร้อนที่สุดที่ 100 องศาเซลเซียส
- เว็บแคมมีชัตเตอร์เลื่อนเปิดปิดใช้งานได้ แต่เป็นแค่ความละเอียด HD 720P
- แบตเตอรี่ 72Whr แบตนานสุดประมาณเกือบ 6 ช.ม.
Specification
MSI Stealth 14 จัดว่าเป็น Gaming Notebook บางเบา พร้อมตอบโจทย์การทำงาน เพื่อมารองรับประสิทธิภาพที่แรงกว่าเดิม จากการเลือกใช้งานโดยชิปประมวลผลสูงสุดเป็น Core i Gen 13H TDP 45Watt รุ่น i7-13700H ที่ใหม่ล่าสุดในตลาด มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนๆ และการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 4050 กับค่า TGP 90W ซึ่งมีความแรงที่เทียบเท่า RTX 3060 หรือแรงกว่าในบางกรณี ฉะนั้นเรื่องประสิทธิภาพความแรงนั้นทะลุมาตรฐานโน๊ตบุ๊คทั่วไปในอีกระดับทีเดียว
สเปก MSI Stealth 14 Studio A13VE-023TH (STAR BLUE) ราคา 62,990 บาท
กดสั่งซื้อได้เลยที่ https://shope.ee/4fQvkDL6gM
- CPU : Intel Core i7-13700H (14C/20T & 1.8 – 3.7GHz + 2.4 – 5.0 GHz)
- GPU : Intel Iris + NVIDIA GeForce RTX 4050 (6GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR5 Bus 4800 MHz
- DISPLAY: 14″ IPS QHD+ @240Hz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
- OS : Windows 11 Home
- Warranty : 3 Years
Hardware / Design
สำหรับดีไซน์ทั้งหมดให้เรียบหรูยิ่งขึ้นไปอีก กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีสันน้ำเงินเข้มอย่าง Star Blue ตลอดทั้งตัวเครื่อง แตกต่างจาก Gaming Notebook G Series ของทาง MSI รุ่นอื่นชัดเจน ให้กลายเป็นสีเดียวกัน เน้นเรื่องความพรีเมียมเรียบง่าย สมกับฉายา Stealth แน่นอนว่าจะเอาไปเล่นเกมก็ดุดัน จะเอาไปทำงานก็ลงตัวทีเดียว แป้นคีย์บอร์ดมีขนาดกำลังพอดี ใช้งานกดสะดวกพร้อมไฟคีย์บอร์ดปรับสี RGB แบบ Per-key ผ่านทางซอฟต์แวร์ และไฟ LED ที่ท้ายตัวเครื่อง
ที่สำคัญคือให้ประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปชัดเจนสุดๆ ติดตั้งทัชแพดมีขนาดใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับมิติตัวเครื่อง เป็นลักษณะผืนผ้าออกแนวยาวๆ ดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่องตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นแม็กนีเซียมอัลลอยด์ที่สวยงาม ทนทาน และพรีเมียม แตกต่างจากอะลูมินียมในรุ่นอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก
ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บาง ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมและ IR Camera ถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ ด้านฐานล่างตัวเครื่องดูแล้วเป็นหนึ่งด้วยกับตัวเครื่องกับงานประกอบที่เรียบร้อย พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ส่วนงานประกอบก็เนียบ เรื่องนี้ไว้ใจทาง MSI เค้าได้เลย สมกับเป็น Notebook รุ่นระดับบนของแบรนด์
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไป จากการที่ใช้ไฟ RGB แบบ Per-key จาก SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่ไฟ RGB สามารถตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน MSI Centerได้ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าไม่มีแป้น Numpad จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่เล็กลง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่ ถ้าเทียบกับรุ่นปีก่อนๆ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง แต่มีเฉดสีที่ต่างกันเล็กน้อย ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี พร้อมรองรับ Multi Gesture ลื่นไหล ทำงานร่วมกับ Windows 11 Home ได้เป็นอย่างดี
Screen / Speaker
MSI Stealth 14 Studio มีหน้าจอแสดงผลขนาด 14″ ความละเอียด QHD+ รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลกว่าพร้อมได้เป็นพาเนล IPS คุณภาพสูง โดยให้มุมมองที่กว้าง สีสันก็สดใส เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับกางสุดได้ถึง 180 องศา พร้อมติดตั้งเว็บแคมแบบ 720p มีชัตเตอร์เลื่อนปิดเปิดได้ และไมโครโฟนแบบคู่ไว้ขอบด้านบน พร้อม IR Camera
ทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอที่มากับเครื่อง กับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS แบบทั่วไป ใช้เกรดกลางๆ ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder X Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์เอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรตก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลง จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย โดยได้ค่าขอบเขตสี sRGB 100% / AdobeRGB 87% / DCI-P3 97%
ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 500 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐาน ความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง ก็จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวบนมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องซ้ายขวาแถวกลางจะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 9% และค่าคลาดสีเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 1.16 สำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไรนัก ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.5 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เอาไปใช้งานสาย Creator มั่นใจได้
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพงแบบ 4 ตัว (2W x 4) แบรนด์ DynaAudio คุณภาพดี โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุน VR และ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก
Connector / Thin And Weight
เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 14″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 1 ช่อง, USB 3.2 Type-C จำนวน 1 ช่อง รองรับการเชื่อมต่อ DisplayPort และ Thunderbolt 4 จำนวน 1 ช่อง ซึ่งรองรับการใช้งานที่ครบถ้วนทั้งชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูล, พร้อมด้วย HDMI 2.1 เพื่อเชื่อมต่อหน้าจอภายนอก รวมไปถึงมี micro-SD Card อีกด้วย อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ แต่ก็เข้าใจได้
เชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.3 และ Wi-Fi 6E Killer อีกทั้งยังมีคุณสมบัติต่อจอได้หลากหลายจอแบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 4, HDMI 2.1 และ DisplayPort ของ USB 3.2 Type-C ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 240 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่ารุ่นก่อนๆ เลยทีเดียว รวมๆ กันแล้วหนักเพียง 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้ MSI Stealth 14 Studio พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกสบายแน่นอน
Inside / Upgrade
การแกะอัปเกรดต้องแกะฝาล่าง ซึ่งการแกะฝาล่างนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงไขน๊อตประมาณ 10 ตัว โดยเมื่อแกะออกมาแล้ว ก็จะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในทั้งหมด ติดตั้งแรมมาแล้วขนาด 16GB DDR5 Bus 4800 MHz เป็น 8GB จำนวน 2 แถว ที่รองรับการใช้งานได้แบบสบายชัวร์ๆ โดยมีกรอบโลหะครอบเอาไว้อยู่ ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB จำนวน 1 ตัว และ แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ และลำโพง 4 ตัว พร้อมพัดลมระบายความร้อน 2 ตัวที่ทำงานร่วมกับ Vapor Chamber
ในส่วนของระบบระบายความร้อนก็จะเป็นระบบ Cooler Boost ซึ่งเน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นกว่าปกติทั่วไป โดยจะมีช่องระบายความร้อนทั้งหมดถึง 4 ช่อง เป็นด้านหลัง 2 ด้านข้างซ้ายและขวาอีก 2 ช่อง พร้อม Vapor Chamber แบบใหม่ที่ดีกว่า Heat Pipe ที่มีการเชื่อมต่อกัน ซึ่งการแกะฝาล่างของ MSI Notebook สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุดแต่อย่างใด ขอแค่ว่าอย่าแกะจนเกิดความเสียหายก็พอ รวมไปถึงการใส่กลับด้วย
Performance / Software
โดย MSI Stealth 14 Studio มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพดีปี 2023 เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook รุ่นใหม่ๆ อย่าง Intel Core i7-13700H ที่เป็นรุ่นต่อยอดของ i7-12700H ซึ่งสามารถเอาไปใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง ก็ทำได้ลื่นไหล โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.70 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.0 GHz เป็นการทำงานแบบ P-Core และ E-Core แบ่งเป็น 14 Core 20 Threads โดยมีค่า TDP 45W
การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Iris Xe Graphics ตามปกติของ Core i อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4050 (6GB GDDR6) ค่า TGP ตามสเปกคือ 90W ซึ่งแรงเพียงพอกับ Gaming Notebook ที่ปี 2023 ได้ความร้อนที่ควบคุมได้ดี เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ได้ประสิทธิภาพสูง รองรับ DLSS3 + Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 23 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i7-13700H คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจสม กับเป็นชิปประมวลผลแบบไฮบริดคอร์ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดี แม้ว่าอาจจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดก็ตาม ทั้งแบบ Multi Core หรือ Single Core เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างดี รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องเป็น SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB มาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 เมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD ทั่วไป ก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 6512 MB/s และเขียนที่ 4638 MB/s สมกับเป็น SSD ที่ติดตั้งบน Gaming Notebook ระดับกลางค่อนสูง ถือว่าน่าพอใจ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 7862 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลยุคใหม่ ต้องบอกว่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบนั้นแรงเหลือเฟือจริงๆ ทำให้เราสามารถทำงานประมวลผลไปด้วย และเล่นเกมไปด้วย ก็พอได้เลย
สำหรับคะแนนในการเล่นเกมจากการทดสอบการ์ดจอแยกด้วยโปรแกรม 3D Mark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 8872 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Full HD ได้ 175+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ รองรับการเล่นเกม 3 มิติขั้นสูง หรือทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อนได้เทียบเท่าการ์ดจอ PC Desktop ได้เลยล่ะ
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 2042 / Forza Horizon 5 / GTA V / SCUM ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้ดี ให้ภาพสวยงามสมจริง ด้วยหน้าจอสวยงาม ซึ่งให้ความเรียบเนียน ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 55 – 88 แน่นอนว่าให้ภาพที่ลื่นไหล ทำให้เราได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมเต็มอารมณ์
เกมออนไลน์ใช้ทรัพยากรน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 135 – 188 กรณีเราใช้เล่นเกมจริงๆ แนะนำว่าเป็น V-Sync จะดีกว่า เครื่องก็จะได้ไม่ทำงานเต็มที่ตลอดเวลา สรุปแล้ว MSI Stealth 14 Studio กับ Gaming Notebook จอ 14″ ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ กับสเปกการ์ดจอ RTX 4050 ก็ลื่นไหลใช้ได้
MSI Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนๆ คือ ใช้งานสะดวกและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัปเดทซอฟต์แวร์ต่างๆ และสามารถดูสภานะการทำงานได้ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Stealth 14 Studio มีความจุที่สูง 72Whr ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำเหลือ 10% พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวเกือบๆ 6 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้น้อยกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ จากเครื่องสเปกที่แรงขั้นสุด
ด้านการทดสอบอุณหภูมิสำหรับ Gaming Notebook เครื่องนี้ที่ให้เป็น Cooler Boost 5 ได้พัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ พร้อม Vapor Chamber เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดีมาก เมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมด Cool Boots เร่งรอบพัดลมสูงสุดไว้
ชิปประมวลผล i7-13700H ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark และเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียสไม่เกินจากนี้ จัดว่าค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอดแล้ว และการ์ดจอแยกอย่าง RTX 4050 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีเท่าที่ได้ กับร้อนสุดที่ 100 องศาเซลเซียส ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว