10 แนวทางการเลือกซื้อ Creator Notebook เพื่อช่างภาพ / นักตัดต่อวีดีโอพร้อมแนะนำรุ่นน่าซื้อ จอ 16″ งบ 2x,xxx – 3x,xxx บาท

Last Updated on 11/19/2023 by admin

10 แนวทางการเลือกซื้อ Creator Notebook 2023 – 2024

เพื่อช่างภาพโปรเซสไฟล์ RAW / นักตัดต่อวีดีโอ VDO Editor

พร้อมแนะนำ 5 รุ่นน่าซื้อ จอ 16″ เน้นคุ้มค่า งบ 2x,xxx – 3x,xxx บาท

Creator Notebook ถูกออกแบบมาให้เน้นใช้งานโปรเซสไฟล์ RAW เพื่องานช่างภาพ หรือคนที่ชอบถ่ายภาพและคนชอบได้ถ่าย ที่ต้องการ Notebook สเปกดีจอสีดีๆ คมชัด เหมาะกับงานต่างๆ ตอบโจทย์คนทำงานมืออาชีพตัวจริง ด้วยการสร้าง Content ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่ง Notebook ประเภท Creator Notebook นั้นจะให้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นกว่า มาพร้อมในช่วงราคาที่กว้างขึ้น ที่หลากหลายรุ่น เรียกได้ว่ามีให้เราเลือกซื้อกันหลายรุ่นเลยในตอนนี้ ซึ่งแม้ว่าจะมีหลายๆ อย่างคล้ายกับ Gaming Notebook แต่ก็มีจุดที่ให้เราต้องให้ความสำคัญต่างกัน โดยมี 10 แนวทางการเลือกซื้อ ดังนี้ 

1. ใช้งานโปรเซสงาน Creator ต้องเน้น CPU เป็น H Series เพื่อประสิทธิภาพ ได้ความแรงพอทำไฟล์จากกล้องยุคนี้
2. พาเนลจอถ้าได้ OLED ก็ดี เพราะได้ ค่าขอบเขตสี P3 100% แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบ เพราะสีมันสดใสเกินจริง
3. อีกทั้ง OLED ต้องระวังว่ามันจะสีจัดจ้านจนเกินไป เช่น ดูจากจอเราว่าสีจัดโอเคแล้ว แต่คนทั่วไปอาจจะดูจืดอยู่
4. กรณีเลือกเป็นจอพาเนล IPS ควรเป็นมาตรฐาน sRGB 100% ก็ได้ที่ความละเอียด Full HD (1920 x 1080px) เป็นขั้นเริ่มต้น
5. แต่ถ้าให้ดีเลือกเป็นความละเอียด Quad HD+ (2560 x 1600px) ขึ้นไป ก็จะได้ความคมชัดกว่ามาก หรือเป็น 2.8K / 3.2K / 4K ก็ได้
6. ขนาดหน้าจอจริงๆ แนะนำให้เลือกขนาดใหญ่ไว้ก่อนถ้าสะดวกพกพา ทั้ง 18″ / 17.3″ / 16″ / 15.6″ / 14″ แต่ส่วนตัวชอบ 16″
7. ถ้าได้จอสัดส่วน 16:10 ก็ดี เพราะมีพื้นที่การใช้งานมากกว่า 16:9 แบบเดิมๆ เหมาะกับหลายโปรแกรม แต่ถ้าเป็น 16:9 ก็ไม่เป็นไร
8. ส่วนตัวถ้าจะซื้อ Notebook ทำงานทั้งที อาจจะเพิ่มงบอีกหน่อย ในงบ 20,000 บาท มันก็ตัวเลือกจำกัดเกินไป ควรจะมากกว่านั้น
9. ลงทุนกับอุปกรณ์อย่าง Notebook ที่สเปกดีฟีเจอร์ได้ ตรงกับลักษณะงาน เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กล้องเลนส์ เพราะเราใช้งานมันหนัก
10. ถ้าใครอยากได้ฟีเจอร์ที่มากกว่า เช่น ลำโพง 6 ตัว หรือสเปกใหม่สุด ประสิทธิภาพแรงสุด มีการ์ดจอแยก ก็ต้องเพิ่มงบไปอีกระดับ

รองรับการทำงานพื้นฐานอย่างออฟฟิศ และก็มีอีกหลายๆ รุ่นที่ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า ที่เน้นในเรื่องของสเปกที่ลื่นไหล ใช้งานทั่วไปได้ดี รวมไปถึงนำไปดูหนังฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต เรียนออนไลน์ ชมวีดีโอสตรีมมิ่งต่างๆ  ดูหนังดูซีรีส์ต่างๆ แน่นอนว่าสนับสนุนการทำงานสาย Content Creator มืออาชีพ อย่างตัดต่อวีดีโอ ด้วย Premiere Pro สำหรับคนที่เป็น VDO Editor และตกแต่งภาพถ่ายด้วย Lightroom กับช่างภาพ คนชอบถ่ายภาพด้วยกล้อง หรืองานทำ Artwork ด้วย Photoshop เป็นต้น ในบทความนี้จะมาแนะนำ Content Creator ทั้ง 5 รุ่น ในช่วงราคา 2x,xxx – 3x,xxx บาท ไปดูกันต่อเลย

1. ASUS Vivobook 16X K3605 สเปกแรงเพียงพอต่องาน
มีการ์ดจอแยก จอ FHD+ 16:10 sRGB 100% @ 120Hz

ASUS Vivobook 16X K3605 โดดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพความล้ำของชิปประมวลผล Intel Core i5-12450H หรือ i7-12650H ทำงานแบบไฮบริดคอร์ ได้การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce RTX 2050 / RTX 3050 / RTX 4050 พร้อมความแรงที่มากกว่า สนับสนุนการทำงานและความบันเทิงเต็มรูปแบบ ดีไซน์สวยด้วยหน้าจอ 16″ ใหญ่กว่า 15.6″ สัดส่วน 16:10 พาเนลเป็น IPS ค่าสี sRGB 100% ที่ความละเอียด Full HD+ (1920 x 1200px) ที่คมชัดพอตัว และมีพื้นที่การทำงานพื้นขึ้น สมกับเป็น Notebook ยุคใหม่ปี 2023

วัสดุ ASUS Vivobook 16X K3605 เป็นโลหะอลูมิเนียมให้ความพรีเมียมดูดี สีสัน Indie Black ตัวเครื่องมีความบางเบาพกพาสะดวก เบาที่ 1.8 กิโลกรัม ซบาง 18.9 มิลลิเมตร อีกทั้งยังสามารถกางหน้าจอได้ 180 องศา ได้ฟีเจอร์ ASUS ErgoSense keyboard และ Fingerprint sensor ที่ติดตั้งที่มุมของ touchpad เทคโนโลยีระบายความร้อน ASUS IceCool พร้อมด้วย ASUS Antimicrobial Guard Plus ยับยั้งและป้องกันไวรัสและแบคทีเรียบริเวณคีย์บอร์ด อีกทั้งตัวเครื่องยังทนทาน ต่อการตกกระแทก ฝุ่น ความร้อน ความชื้น

สำหรับ ASUS Vivobook 16X K3605 แบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้ยาวนานทั้งวันที่ขนาด 50WHr สเปกอื่นๆ ก็ติดตั้งหน่วยความจำแรม 16GB DDR4 Bus 3200MHz (8GB SO DIM + 8GB Onboard) ซึ่งรองรับการอัปเกรดแรมอีก 1 แถว โดยต้องถอดของเดิม 8GB ออก และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ความจุ 512GBการเชื่อมต่อก็ครบถ้วนด้วย 1x USB 3.2 Gen 1 Type-C, 2x USB 3.2 Gen 1 Type-A, 1x HDMI 1.4, 1x 3.5mm Combo Audio Jack พร้อม SD Card Reader และได้ Wi-Fi 6E + BT 5.3 มาเป็นมาตรฐาน

นอกจากนี้ ASUS Vivobook 16X K3605 ยังฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย อย่างเว็บแคม HD 720P มี Privacy shutter โดยได่ความละเอียด 720p พร้อม 3D Noise Reduction และเอฟเฟกต์เว็บแคมใน MyASUS, ลำโพงระบบ SonicMaster, ติดตั้ง Windows 11 Home  มาให้พร้อมใช้งาน ประกันเป็นแบบ 2 ปี ปีแรกมีประกันอุบัติเหตุ กับราคาเริ่ม 27,990 บาทเท่านั้น จนไปถึง 40,990 บาท เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานในสาย Creator ที่เน้นจอใหญ่บางเบา และมีการ์ดจอ Gaming

ASUS Vivobook 16X K3605ZF-N1529W ราคา 22,990 บาท
กดสั่งซื้อได้เลยที่ https://shope.ee/2VR97vASUt

• CPU : Intel Core i5-12450H (8C/12T & 1.7 – 3.5GHz + 2.3 – 4.7 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics + GeForce RTX 2050
• RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz Onboard
• DISPLAY: 16″ IPS FHD+ @120Hz (sRGB 100%)
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 512GB
• OS : Windows 11 Home
• Warranty : 2 Years + 1 Year Perfect Warranty

ASUS Vivobook 16X K3605ZC-N1787W ราคา 33,990 บาท
กดสั่งซื้อได้เลยที่ https://shope.ee/8pLCfyc3Gu

• CPU : Intel Core i7-12650H (10C/16T & 1.5 – 3.3GHz + 2.0 – 4.4 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics + GeForce RTX 3050
• RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz Onboard
• DISPLAY: 16″ IPS FHD+ @120Hz (sRGB 100%)
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 512GB
• OS : Windows 11 Home
• Warranty : 2 Years + 1 Year Perfect Warranty

ASUS Vivobook 16X K3605ZU-N1594W ราคา 30,990 บาท
กดสั่งซื้อได้เลยที่ https://shope.ee/3VJgKDUkGE

• CPU : Intel Core i5-12450H (8C/12T & 1.7 – 3.5GHz + 2.3 – 4.7 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics + GeForce RTX 4050
• RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz Onboard
• DISPLAY: 16″ IPS FHD+ @120Hz (sRGB 100%)
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 512GB
• OS : Windows 11 Home
• Software : Office Home & Student 2021
• Warranty : 2 Years + 1 Year Perfect Warranty

2. Acer Swift Go 16 ราคา 32,990 – 35,990 บาท สเปกแรงลื่น
คุ้มค่าลงตัวสุดๆ จอ OLED 3.2K @120Hz สี P3 100% ลื่นไหล

Acer Swift Go เป็น Swift Series ปี 2023 จัดว่าเป็นรุ่นแทนที่ Swift 3 ที่ทาง Acer ทำตลาดด้วยชื่อนี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งได้หน้าจอ OLED ความละเอียดที่สูงระดับ 3.2K (3200 x 2000px) @120Hz ค่าขอบเขตสี P3 100% ที่ขนาด 16″ โดยมีตัวเครื่องบางเบาดีไซน์เรียบหรู ได้แพลตฟอร์ม Intel EVO รุ่นล่าสุดในราคาคุ้มค่าสุดๆ คาดว่าขายไทยราคาจะอยู่ที่ 32,990 – 35,990 บาท จัดว่าสเปกต่อราคานั้นน่าซื้อมากๆ ตอบโจทย์งาน Creator ยุคนี้ได้อย่างลงตัว

ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 13H (TDP 45W) ตัวแรงอย่าง i5-13500H / i7-13700H ที่เป็นรุ่นที่แรงกว่ารุ่นก่อนได้อีก ทำให้ประมวลผลได้เร็วขึ้นมาก พร้อมใช้การ์ดจอออนชิปที่ดีอย่าง Intel Iris Xe Graphics ได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการ์ดจอแยก ทำให้พอทำงาน 2 – 3 มิติได้เลยในบางโปรแกรมหรือการเล่นเกม โดยแรงกว่า P / U Series อย่างแน่นอน ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 16GB LPDDR5 และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 512GB

รองรับการทำงานพื้นฐานอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง รวมถึงงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ หรือเล่นเกม 3 มิติ ก็ถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ซึ่งทุกรุ่นทำงานแบบไฮบริดคอร์ สนับสนุนการทำงานที่หลากหลายพร้อมๆ กัน  Acer Swift 16 หน้าจอที่โดดเด่นขนาด 16″ จะได้เป็น 3200 x 2000px ซึ่งมีสเปกสูงกว่าที่ Refreash Rate 120Hz พร้อมรองรับ HDR ด้วย โดยจะหนักที่ 1.6 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 9.5 ชั่วโมง เว็บแคมเป็น QHD (3.7MP)

การเชื่อมต่อมี Thunderbolt 4 x 2 พอร์ต + Wi-Fi 6E Killer เป็นมาตรฐานที่ดีที่สุด เหมาะกับคนทำงานหลากหลายอาชีพ รวมไปถึง Content Creator หรือ นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการเครื่องมือในการเรียน ตัวเครื่องเองทำจากวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยด์ทั้งหมด โดยส่วนของคีย์บอร์ดและทัชแพดจะใช้เป็น OceanGlass ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมมี Fingerprint สำหรับระบบระบายความร้อนเป็น TwinAir ทำงานแบบพัดลมคู่ดูดเย็นจากใต้คียบอร์ดแล้วเป่าออกทางด้านหลัง

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Intel Unison เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เพื่อถ่ายโอนไฟล์และภาพถ่าย หรืออื่นๆ ทำให้เราทำงานได้อย่างราบรื่น โดย Acer Swift Go 16 ติดตั้ง Windows 11 Home ใช้งานได้ทันที อีกทั้งได้โปรแกรม Office Home & Student 2021 มาด้วย ทำให้พร้อมใช้งาน Word / Excel / Power Point ติดเครื่องใช้งานได้ยาวๆ ส่วนการรับประกันเป็น 2 -3 ปี โดยปีแรกเป็น On-site Service จัดว่าเป็น Creator Notebook บางเบาพกพาสะดวก ราคาคุ้มค่าที่สุด

Acer Swift Go 16 SFG16-71-58UH ราคา 32,990 บาท
กดลิ้งค์สั่งซื้อได้ที่ https://shope.ee/7zm5iKT9yy

• CPU : Intel Core i5-13500H (12C/16T & 1.9 – 3.5GHz + 2.6 – 4.7 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics
• RAM : 16GB LPDDR5 4800 MHz
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 512GB
• DISPLAY: 16″ OLED 3.2K @120Hz (P3 100%)
• OS : Windows 11 Home
• Software : Office Home & Student 2021
• Warranty : 2Y (Parts & Labor)

Acer Swift Go 16 SFG16-71-77K ราคา 35,990 บาท
กดลิ้งค์สั่งซื้อได้ที่ https://shope.ee/AUTQgxNALR

• CPU : Intel Core i7-13700H (14C/20T & 1.8 – 3.7GHz + 2.4 – 5.0 GHz)
• GPU : Intel Iris Xe Graphics
• RAM : 16GB LPDDR5 4800 MHz
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 512GB
• DISPLAY: 16″ OLED 3.2K @120Hz (P3 100%)
• OS : Windows 11 Home
• Software : Office Home & Student 2021
• Warranty : 3Y (Parts & Labor) + 1Y Onsite Service

3. Acer Swift Edge ราคา 31,990 บาท เบาแค่ 1.17 โล
พรีเมียม จอ 16″ OLED 4K ถูกที่สุด สเปกแรงเหลือเฟือ

Acer Swift Edge SFE16-42 เป็น Acer Notebook รุ่นปี 2023 ที่พร้อมขายแล้ว ได้หน้าจอ 16″ เต็มตากว่า Swift ในทุกรุ่น ตัวเครื่องบางสุด 12.95 ม.ม. และเบาเพียง 1.17 กิโลกรัม นับว่าเป็น Notebook จอ 16″ ที่เบาที่สุดในโลกรุ่นนึง ใช้สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 7035U (Zen3+) อย่าง Ryzen 5 7535U ในราคาที่ดีที่สุด ออกมาสำหรับโน้ตบุ๊กบางเบาที่ต้องการพลังแรง ใช้การ์ดจอออนบอร์ดที่ทรงพลังอย่าง Radeon 660M พร้อมมีฟีเจอร์การแสดงภาพที่เหนือชั้นจาก RDNA2 ได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกอย่าง GTX – RTX ได้เลย อีกทั้งยังมาพร้อมระบบความปลอดภัย Microsoft Pluton Security ที่เหนือชั้นแล้วมั่นใจได้กว่ารุ่นทั่วไป

โดย Acer Swift Edge มีหน้าจอความละเอียดที่ UHD+ (4K) ที่ 3840 x 2400 พิกเซล สัดส้วน 16:10 พร้อมขอบจอที่บางเฉียบ ทำให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 92% ครอบคลุมขอบเขตสี DCI-P3 ถึง 100% ความสว่างสว่างสุด 500 nit แสดงผลภาพได้อย่างคมชัด และ TÜV RHEINLAND Eyesafe เพิ่มความสบายตาในการรับชม และจากการที่เป็นจอ OLED ช่วยให้แสดงผลสีสันต่างๆ ได้อย่างสดใสมากขึ้น ตอบโจทย์ทั้งการงานและความบันเทิง นอกจากนี้ยังมี Acer PurifiedVoice พร้อมด้วย AI Noise Reduction ช่วยให้เสียงสนทนาชัดเจนขึ้นสำหรับการโทรติดต่อผ่านคอมพิวเตอร์ และมาพร้อมกับระบบเสียง DTS เรียกได้ว่าฟีเจอร์จัดเต็มในราคาที่ดีมากๆ

Acer Swift Edge รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับหน่วยความจำแรม LPDDR5 Bus 6400MHz สูงสุด 16 GB และที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ขนาดความจุสูงสุดที่ 1TB พร้อมมี Wi-Fi 6E + BT 5.2 พอร์ต USB 3.2 Type-C รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย พอร์ต USB 3.2 Type-A สองพอร์ต, HDMI 2.1 เรียกได้ว่าครบเครื่อง และตัวสแกนลายนิ้วมือ เพิ่มความสะดวกในการล็อกอินด้วย Windows Hello และยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเพิ่มเติมสำหรับ Notebook บางเบาพิเศษ ด้วยกล้องหน้า FHD ที่คมชัดกว่า พร้อมด้วยเทคโนโลยี Temporal Noise Reduction (TNR) ของ Acer เพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูงแม้กระทั่งในสภาพแสงน้อย

Acer Swift Edge SFE16-42-R39 ราคา 31,990 บาท
กดลิ้งค์สั่งซื้อได้ที่ https://shope.ee/7KWOv2kRbT

• CPU : AMD Ryzen 5 7535U (6C/12T : 2.9 – 4.55 GHz)
• GPU : AMD Radeon 660M
• RAM : 16GB LPDDR5x
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
• DISPLAY: 16″ OLED UHD+ 60Hz (P3 100%)
• OS : Windows 11 Home
• Software : Office Home & Student
• Warranty : 3 Years (1Y On-site)

4. Lenovo IdeaPad 5 Pro 16 จอ 16″ 16:10 QHD+ @120Hz
สเปกไม่ใหม่แต่แรงพอตัว เพียงพอกับงานราคา 25,990 บาท

Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 (ARH7) เป็นโน๊ตบุ๊คสาย Content Creator ที่น่าสนใจ จากการที่เป็นสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 6000HS ตัวแรงล่าสุด มีรุ่นการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 ได้แรมขนาด 16GB LPDDR5 Bus 6400MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 512GB แรงลื่นไม่ต้องอัปเกรด ที่เน้นประสิทธิภาพที่ดีในหน้าจอขนาด 16″ สัดส่วน 16:10 ความละเอียด QHD+ (2560 x 1600px) พาเนล IPS เกรดสูง ที่ Refresh Rate 120Hz ทำให้ลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน โดยมีค่าขอบเขตสีระดับงานมืออาชีพ sRGB 100%

มีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและมีสไตล์สีสันหลักๆ คือ Storm Grey วัสดุตัวเครื่องทั้งหมดทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ เหมาะสำหรับการใช้งานไปนู้นมานี่ มีความเบาที่ 1.95 กิโลกรัม มีความบางที่ 16.9 มิลลิเมตร เว็บแคมเป็น FHD พร้อมได้ IR Camera ไว้แสกนหน้าเพื่อ Login พร้อม Time of Flight (TOF) ที่จะทำการล็อกหน้าจออัตโนมัติเมื่อเราเดินออกไป การเชื่อมต่อครบครันด้วยพอร์ตต่างๆ ทั้ง USB-A / USB-C ที่สำคัญคือได้ SD Card Reader อีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุดที่ 8 ชั่วโมง

เน้นตอบโจทย์การทำงานพื้นฐานเป็นหลักได้ดีเยี่ยม หรือดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ได้ดีและการทำงานแบบมืออาชีพเช่น ตกแต่งภาพ ตัดต่อวีดีโอ หรือทำกราฟิก  มี Windows 11 Home มาให้ ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2021 สามารถใช้งาน Word / Excel / Power Point ได้ติดเครื่องยาวๆ  สำหรับประกัน Lenovo IdeaPad Slim 5 Pro 16 ได้มาตรฐาน Premium Care เป็นระยะเวลา 2 ปีแบบ On-site Service และในปีแรกมีประกันอุบัติเหตุด้วย เรียกได้ว่าแม้จะสเปกจะเป็นรุ่นปีก่อน แต่ยังแรงลื่นอยู่

Lenovo IdeaPad 5 Pro 16ARH7 82SN003CTA ราคา 25,990 บาท
กดลิ้งค์สั่งซื้อได้ที่ https://shope.ee/5KlKXJFXE4

• CPU : AMD Ryzen 5 6600HS (6C/12T : 3.30 – 4.50 GHz)
• GPU : AMD Radeon 660M + GeForce GTX 1650
• RAM : 16GB LPDDR5 6400 MHz
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 512GB
• DISPLAY: 16″ IPS QHD+ 16:10 120Hz (sRGB 100%)
• OS : Windows 11 Home
• Software : Microsoft Office Home & Student 2021
• Warranty : 2 Years Premium Care (2Y On-site + 1Y ADP)

5. Lenovo IdeaPad Pro 5 16 สเปกใหม่ ได้การ์ดจอแยก
มีความแรง + สดใหม่ น่าใช้งาน ราคา 38,990 บาท

Lenovo IdeaPad 5 Pro 16 (APH8) ปี 2023 เป็นโน๊ตบุ๊คสาย Content Creator ที่น่าสนใจ จากการที่เป็นสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 7840HS ตัวแรงแบบ Gaming พร้อมการ์ดจอแยก GeForce RTX 3050 เรียกว่าเป็นสเปก AMD + NVIDIA ได้แรมขนาด 16GB แบบออนบอร์ด LPDDR5x Bus 6400MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 512GB แรงลื่นใช้งานได้ลื่นๆ หรือเล่นเกม

ที่เน้นประสิทธิภาพที่ดีในหน้าจอขนาด 16″ สัดส่วน 16:10 ความละเอียด QHD+ (2560 x 1600px) พาเนล IPS เกรดสูง ที่ Refresh Rate 120Hz ทำให้ลื่นไหลในทุกๆ การใช้งาน โดยมีค่าขอบเขตสีระดับงานมืออาชีพ sRGB 100% การเชื่อมต่อครบครันด้วยพอร์ตต่างๆ ทั้ง USB-A / USB-C แบบ Full Function ที่สำคัญคือได้ SD Card Reader อีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้

ดีไซน์ Lenovo IdeaPad Pro 5 16 มีเอกลักษณ์ที่เรียบง่ายและมีสไตล์สีสันหลักๆ คือ Arctic Grey วัสดุตัวเครื่องทั้งหมดทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ เหมาะสำหรับการใช้งานไปนู้นมานี่ มีความเบาที่ 1.95 กิโลกรัม มีความบางที่ 17.5 มิลลิเมตร เว็บแคมเป็น FHD ที่ให้ความคมชัด พร้อมได้ IR Camera ไว้แสกนหน้าเพื่อ Login พร้อม Time of Flight (TOF) ที่จะทำการล็อกหน้าจออัตโนมัติเมื่อเราเดินออกไป

เน้นตอบโจทย์การทำงานพื้นฐานเป็นหลักได้ดีเยี่ยม หรือดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ได้ดีและการทำงานแบบมืออาชีพเช่น ตกแต่งภาพ ตัดต่อวีดีโอ หรือทำกราฟิก แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าที่ 15 ชั่วโมง มี Windows 11 Home มาให้ ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2021 สามารถใช้งาน Word / Excel / Power Point ได้ติดเครื่องยาวๆ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ

สำหรับประกัน Lenovo IdeaPad Pro 5 16 ปี 2023 ได้มาตรฐาน Premium Care เป็นระยะเวลา 2 ปีแบบ On-site Service และในปีแรกมีประกันอุบัติเหตุด้วย ราคาเริ่ม 38,990 บาท จัดว่าน่าซื้อทีเดียว กับคนที่ต้องการ Notebook ที่ได้ความเป็นมาตรฐานใหม่ ขนาดจอ 16″ ความละเอียดที่มากกว่า Full HD ทั่วไป พร้อมสเปกแรงทั้งการใช้งานทั่วไป หรืองาน 3 มิติ รวมไปถึงการที่เอาไปเล่นเกมก็ลื่นไหล

Lenovo IdeaPad Pro 5 16APH8-83AR0019TA ราคา 38,990 บาท
กดลิ้งค์สั่งซื้อได้ที่ https://shope.ee/30My5JHcYh

• CPU : AMD Ryzen 7 7840HS (8C/16T, 3.8 – 5.1 GHz)
• GPU : Radeon 780M + GeForce RTX 3050 6GB GDDR6 (TGP 60W)
• RAM : 16GB LPDDR5 6400 MHz
• STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 512GB
• DISPLAY: 16″ IPS QHD+ 16:10 @120Hz (sRGB 100%)
• OS : Windows 11 Home
• Software : Microsoft Office Home & Student 2021
• Warranty : 3 Years Premium Care (3Y On-site + 1Y ADP)